“หมอวรงค์” ลากไส้พฤติกรรม “โกงติดคุกแล้วยังโกงคุมประพฤติ” ซัดแหลก “ละครฉากนี้” สะท้อนถึงปัญหาของกระบวนการยุติธรรมไทย จาก “กรมราชทัณฑ์” ลามสู่ “กรมคุมประพฤติ”
เมื่อวันที่ 24 ก.พ.67 นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง “โกงติดคุกแล้วยังโกงคุมประพฤติ” มีเนื้อหาว่า…ถ้าจำกันได้ ช่วง 6 เดือนหลัง 22 ส.ค.2566 จนถึง 17 ก.พ.2567 เป็นช่วงที่นายทักษิณ (ชินวัตร) อยู่โรงพยาบาลตำรวจ เหตุผลป่วยหนักสี่โรค แต่ทุกอย่างเป็นความลับ อ้างว่าเป็นความลับของผู้ป่วย จนประชาชนสงสัยว่า โกงการติดคุก
วันที่ 18 ก.พ.2567 ออกจากโรงพยาบาลตำรวจ ได้รับการพักโทษกรณีพิเศษ เพราะอายุเกิน 70 ปี ช่วยเหลือตนเองได้น้อย โดยมีค่าประเมินความสามารถช่วยเหลือตนเอง ตามที่พ.ต.อ.ทวี (สอดส่อง) แจงในสภาต่ำกว่า 11 เล็กน้อย (คนปกติจะมีคะแนน 20 คะแนน)
ต้องย้ำว่า นายทักษิณไม่ได้รับการพักโทษเพราะเจ็บป่วยร้ายแรง เนื่องจากหลักเกณฑ์เจ็บป่วยร้ายแรง ต้องถึงขนาดนอนติดเตียง โรครักษาไม่หายขาด ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ ต้องมีคนดูแลตลอด อาการใกล้ตาย เลยเลี่ยงประเด็นเจ็บป่วยร้ายแรง
แต่การได้พักโทษเพราะอายุเกิน 70 ปี ก็ต้องช่วยเหลือตัวเองได้น้อย คะแนนต้องต่ำกว่า 11 คะแนน อย่างน้อยการเดินต้องมีคนช่วยพยุงตลอดไป อาจมีการกลั้นอุจจาระ ปัสสาวะได้บ้างไม่ได้บ้าง เพราะถ้าเดินได้ กลั้นอุจจาระปัสสาวะได้ คะแนนต้องเกิน 10 คะแนน
ยิ่งมาดูหลักการให้พักโทษกรณีพิเศษ ประกาศกรมราชทันฑ์ 28 ต.ค.2563 เขาเขียนไว้ในวรรคแรกของประกาศการพักโทษกรณีพิเศษ ไว้อย่างชัดเจน สรุปได้คือ มีศักยภาพกระทำผิดได้น้อย และไม่เป็นอันตรายต่อสังคม ให้โอกาสไปใช้ชีวิตในบั้นปลายกับครอบครัว
ล่าสุดกรมคุมประพฤติ เข้าพบนายทักษิณ ที่บ้านจันทร์ส่องหล้าแล้ว ชี้แจงขั้นตอนนัดรายงานตัว และเงื่อนไขระหว่างการพักโทษ “5 ห้าม 5 ให้” ดื่มไวน์สังสรรค์ได้เล็กน้อย แถมให้โอกาสว่า ในระหว่างการพักโทษ ยังไม่มีการห้ามในเรื่องของงานทางการเมือง เพราะอย่างไรแล้ว ผู้ได้รับการพักโทษ เมื่อพ้นโทษ ก็จะได้ใช้ชีวิตปกติและมีสิทธิในฐานะคนไทยตามรัฐธรรมนูญทุกประการ
แสดงว่า กรมคุมประพฤติไม่รู้เลยหรือว่า การพักโทษกรณีพิเศษ ไม่ว่าอายุเกิน 70 ที่ช่วยตนเองไม่ได้หรือได้บ้าง เจ็บป่วยร้ายแรง พิการ เขาให้ออกมาเพื่อใช้ชีวิตในบั้นปลาย เพราะช่วยเหลือตนเองไม่ได้ อาการใกล้ตาย ไม่ได้พักโทษเพื่อใช้ชีวิตตามปกติ ซึ่งต่างจากการพักโทษกรณีปกติ
ละครฉากนี้สะท้อนถึงปัญหากระบวนการยุติธรรม ไม่เพียงแต่กรมราชทัณฑ์เท่านั้น แต่กำลังลามไปถึงกรมคุมประพฤติด้วย แสดงให้เห็นว่านายทักษิณนอกจากโกงการติดคุกแล้ว ยังโกงการใช้ชีวิตช่วงคุมประพฤติด้วย”
