วันศุกร์, พฤศจิกายน 22, 2024
spot_img
หน้าแรกNEWS“ทนายอั๋น”หอบหลักฐานเพิ่มร้องยุบ“ภท.” ขอ“กกต.”ส่งเรื่องศาลรธน.ตีคู่ยุบ“ก.ก.”
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“ทนายอั๋น”หอบหลักฐานเพิ่มร้องยุบ“ภท.” ขอ“กกต.”ส่งเรื่องศาลรธน.ตีคู่ยุบ“ก.ก.”

ทนายอั๋น” หอบหลักเพิ่มร้องยุบ “ภูมิใจไทย” จี้ กกต.มีมติ-ส่งเรื่องให้ศาลรธน. ตีคู่คำร้องยุบ “ก้าวไกล” ฟันธงหลักฐานแน่น

เมื่อวันที่ 15 มี.ค.67 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ “ทนายอั๋น บุรีรัมย์” เปิดเผยว่า วันนี้เดินทางมา กกต. เพื่อเข้าให้ถ้อยคำในคำร้องที่ตนยื่นขอให้ กกต.พิจารณาส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคภูมิใจไทย จากกรณีรับเงินบริจาค หจก.บุรีเจริญ คอนสตรัคชั่น ซึ่งได้ยื่นคำร้องเมื่อวันที่ 19 ม.ค.67 และในวันนี้ยังได้นำพยานหลักฐานมายื่นต่อ กกต.เพื่อประกอบคำร้องดังกล่าว จึงขอให้ กกต.นำเรื่องพิจารณายุบพรรคภูมิใจไทยเข้าสู่ที่ประชุม กกต.ในสัปดาห์หน้า และมีมติส่งคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคภูมิใจไทย ควบคู่ไปกับการยื่นคำร้องยุบพรรคก้าวไกล ซึ่งส่วนตัวมองว่าการยุบพรรคก้าวไกลยังห่างไกล กว่าการยุบพรรคภูมิใจไทย โดยคำวินิจฉัยกรณีของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ นั้น การให้นอมินีถือหุ้นแทน ส่วนตัวเห็นว่ามันจบแล้ว เพราะ หจก.บุรีเจริญฯ นำเงินมาบริจาคให้กับพรรคภูมิใจไทย วงล้อแห่งการกระทำความผิดครบถ้วนกระบวนความ ไม่จำเป็นต้องตีความ แต่สำหรับกรณีพรรคก้าวไกลยังต้องมีการวินิจฉัยต่อไป ซึ่งจากคำวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 4 คน ระบุว่าการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 อาจจะกระทำได้ หรือกระทำไม่ได้ แต่ในส่วนของ หจก.บุรีเจริญ นายศักดิ์สยาม และพรรคภูมิใจไทย ข้อเท็จจริงจบแล้ว

นายภัทรพงศ์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีไม่สามารถถือหุ้นได้ เพราะถือว่าทำให้ราชการมีส่วนได้เสีย ขัดกับคุณสมบัติผู้ที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีที่ห้ามนำบริษัทของตัวเอง เป็นคู่ค้า คู่สัญญากับหน่วยงานรัฐ และที่สำคัญที่สุด นายศักดิ์สยาม เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมในขณะนั้น นำบริษัทเข้าประมูลงาน และท้ายที่สุดชนะการประมูลงาน และก่อสร้างถนนหลวง รวมมูลค่ากว่าหมื่นล้านบาท ซึ่งตนได้นำหลักฐานเกี่ยวกับการก่อสร้าง รายได้ของ หจก.บุรีเจริญฯ รวมถึงการรับบริจาคเงินของพรรคภูมิใจไทย โดยได้รับจาก หจก.บุรีเจริญฯ เพียงแห่งเดียวกว่าหลายล้านบาท มาเรียกร้องกกต.ต้องพิจารณายุบพรรคภูมิใจไทย ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญตีคู่ไปกับยุบพรรคก้าวไกล วัดใจศาลรัฐธรรมนูญว่าจะเอาอย่างไร

“ฝากเป็นคำถามให้ กกต.ไปตามต่อ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปตามต่อโดยเฉพาะกรมสรรพากร ปี 2562-2563 มีเงินเข้าบัญชีนายศักดิ์สยาม กว่า 200 ล้านบาทใช่หรือไม่ ปี 2562 นายศักดิ์สยาม เสียภาษีเป็นจำนวนเงิน 20,000 เงินที่มาในบัญชีนายศักดิ์สยาม 200 ล้านบาทไม่น่าจะมีการเสียภาษี ผมจึงขอถามว่าจริงหริอไม่ อย่างไรขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบต่อ ส่วนเงินนั้นจะโยกไปไหน เดี๋ยวตามต่อ วันนี้เป็นอื่นไปไม่ได้นอกจากจะต้องถูกยุบออกจากสารบบมันจบละครับนาย การมาของผมวันนี้จะเป็นจุดเปลี่ยนของพรรคภูมิใจไทย และหวังว่าการมาวันนี้จะเป็นการเอาภูมิใจไทยบรรจุในเมรุ แล้ว กกต.ลากไปเผายังศาลา 2 ศาลรัฐธรรมนูญ” นายภัทรพงศ์ กล่าว

นายภัทรพงศ์ กล่าวอีกว่า คนที่บริจาคเงินให้กับพรรคภูมิใจไทย คือคนที่ศาลรัฐธรรมนูญบอกว่าเป็นนอมินีให้กับนายศักดิ์สยาม โดยบริจาคให้กับพรรคภูมิใจไทย เมื่อวันที่ 7 ม.ค.62 เป็นเงินจำนวน 2.7 ล้านบาท และ หจก.บุรีเจริญฯ บริจาคหลายครั้ง รวมเป็นเงินหลายล้านบาท ซึ่งคนที่รับเงินบริจาค คือนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และนายศักดิ์สยาม จึงเกิดคำถาม คือนายศักดิ์สยาม เป็นเลขาธิการพรรค และกรรมการบริหารพรรคจะต้องรับผิดรับชอบกับการกระทำของพรรค ซึ่ง หจก.บุรีเจริญฯ เป็นของตัวเองและกฎหมายห้ามเงินที่ได้มาจากการกระทำของหจก.บุรีเจริญ และในเครือที่เป็นนอมินี เป็นเงินที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เมื่อตัวเองรับเงินที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงผิดต่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ซึ่งระบุไว้ชัดเจนอยู่แล้ว

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img