“เทพไท” เหน็บ “ทักษิณ” จะเจ็บจี๊ดในหัวใจหรือไม่ หลัง “คนเสื้อแดง” นำโลงศพสีแดง-ชูป้ายประท้วงที่เชียงใหม่ เย้ยแสบ “ทักษิณจับมือฝ่ายอนุรักษ์นิยม หักหลัง-ทรยศ คนเสื้อแดง”
เมื่อวันที่ 16 มี.ค.67 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตสส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ แสดงความเห็นทางเฟซบุ๊กส่วนตัว เรื่อง “ทักษิณ จับมือ ฝ่ายอนุรักษ์นิยม หักหลัง ทรยศ คนเสื้อแดง” มีเนื้อหาว่า…“ผมเห็นภาพคนเสื้อแดงกลุ่มหนึ่ง ยืนชูป้าย นำโลงศพสีเเดง ตุงสามหางที่นำหน้าศพไปสุสาน และนำรูปภาพคนเสื้อแดงที่เสียชีวิต 53 ศพ จากเหตุการณ์ ที่มีการชุมนุมที่แยกราชประสงค์ มายืนชูป้ายประท้วงนายทักษิณ ชินวัตร ที่บริเวณถนนห้วยแก้ว หน้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่แล้ว ทำให้ผมเข้าใจในความรู้สึกของประชาชนกลุ่มนี้ ที่เคยต่อสู้เพื่อคุณทักษิณมาโดยตลอด จนถึงบัดนี้เขากำลังมีความรู้สึกว่า คุณทักษิณตัดช่องน้อยแต่พอตัว เพื่อให้ตัวเองสุขสบาย โดยไม่มองมาดูชีวิตของคนเสื้อแดงเลย
ผมอยากทบทวนความจำให้กับคนเสื้อแดง ได้รับทราบว่า เมื่อปี 2553 คุณทักษิณได้เคยวีดีโอคอลกับมวลชนคนเสื้อแดงในที่ชุมนุมว่า ตอนนี้พี่น้องพายเรือส่งผมถึงฝั่งแล้ว พี่น้องไม่ต้องแบกเรือตามผมไปขึ้นภูเขา ซึ่งความหมายในครั้งนั้น มันคือสถานการณ์ในตอนนี้ ที่คุณทักษิณได้เปิดดีลลับกับกลุ่มอนุรักษ์นิยม เพื่อแลกกับการกลับประเทศไทย และการจัดตั้งรัฐบาลที่พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ โดยมีเป้าหมายเดียวกัน ระหว่างกลุ่มอนุรักษ์นิยมกับกลุ่มการเมืองระบอบทักษิณ คือการขัดขวางการเข้าสู่อำนาจรัฐของพรรคก้าวไกล จนบัดนี้มวลชนกลุ่มผู้สนับสนุนของทั้ง 2 ฝ่าย ต่างก็มีความสับสนในแนวทางการต่อสู้ และอุดมการณ์ของตัวเองพอๆ กัน ทั้งกลุ่มคนเสื้อแดง กลุ่ม นปช. กลุ่มคนเสื้อเหลือง กลุ่มพันธมิตร กลุ่มนกหวีด กลุ่มกปส. ฯลฯ
ผมได้ฟังคนเสื้อแดง ระบายความรู้สึกถึงคุณทักษิณ ตอนหนึ่งว่า…
“คนอย่างพวกเธอนั้นโง่งมงาย ยังหลงเชื่อคารมของคุณทักษิณและสมุนบริวารของท่าน แต่เดี๋ยวนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว พวกเธอมีสติ มีสมองเหมือนท่านนั้นแหละ โดยพวกเธอมีอุดมการณ์ประชาธิปไตย ตัวคุณทักษิษนั้นหลอกใช้คนเสื้อแดงเพื่อผลประโยชน์เท่านั้น พวกคนเสื้อแดงลำบาก แต่ท่านและครอบครัวสุขสบาย ตัวคุณทักษิณเองนั้น เป็นคนเขียนด้วยมือลบด้วยเท้า”
ผมคิดว่าความรู้สึกนี้ กลั่นออกมาจากก้นบึ้งหัวใจของคนเสื้อแดง ฝากถึงคุณทักษิณ ส่วนคุณทักษิณจะรู้สึกอย่างไร มิทราบได้ แต่ถ้าผมเป็นคุณทักษิณ จะรู้สึกเจ็บจี๊ดในหัวใจ และอับอายมวลชน ไม่กล้าออกมาเดินเชิดหน้าชูตา เหมือนในวันนี้”