”เทพไท” ฟ้องด้วยภาพ “ทักษิณ” ป่วยทิพย์ 1000% ”ต่างคนต่างอยู่”เป็นเรื่องที่ถูกต้อง แต่เมื่อเป็นเรื่องของส่วนรวม ต้องนำความจริงมาเปิดเผยต่อสาธารณชน
เมื่อวันที่ 17 มี.ค.67 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตสส.นครศรีธรรมราช โพสต์ว่า ฟ้องด้วยภาพ “ทักษิณ” ป่วยทิพย์1000% เรื่องของส่วนรวม “ต่างคนต่างอยู่” ได้อย่างไร
ผมเป็นนักโทษที่ได้รับสิทธิ์นักโทษ และพักอยู่ที่บ้านตามระเบียบของกรมคุมประพฤติจริงๆ ไม่ได้เดินทางไปไหนมาไหนเหมือนนักโทษบางคน จึงมีเวลาว่างมากเพียงพอ ที่จะติดตามข่าวการเคลื่อนไหวของเพื่อนนักโทษ ที่ได้รับสิทธิ์นักโทษคนหนึ่ง คือคุณทักษิณ ชินวัตร ซึ่งผมได้เฝ้าติดตามตรวจสอบอาการป่วยของคุณทักษิณ ผ่านภาพข่าว ด้วยความห่วงใยของแต่ละวันดังนี้
วันที่ 14 มีนาคม ตื่นตี 4 เตรียมตัวไหว้ศาลหลักเมือง ต้องนั่งเครื่องบินเจ็ตลงสนามบินเชียงใหม่ เดินชมสวนพืชสวนโลก พบมวลชน ฟังบรรยายสรุป ปลูกต้นไม้ รดน้ำ ใช้มือปักป้ายด้วยตัวเอง ถ้าเป็นคนมือเส้นเอ็นมีปัญหา ก็ไม่สามารถใช้แรงปักป้ายได้ ปล่อยปลา ยกถังปลาได้ปกติ รับพระพุทธรูป ใช้มือโปรยดอกไม้ได้อย่างทั่วถึง กินข้าวกับเพื่อนร่วมรุ่นมงฟอร์ต ร้องเพลงกันอย่างครื้นเครงสนุกสนาน อยากจะตั้งข้อสังเกตว่า คนเพิ่งฟื้นจากการป่วยวิกฤต ตื่นนอนตั้งแต่ตี4 เดินตรวจงานตลอดทั้งวัน ไม่มีอาการเหน็ดเหนื่อย อ่อนเพลียเลย ผิดธรรมชาติของคนฟื้นไข้ใหม่ๆเป็นอย่างมาก
วันที่ 15 มีนาคม ตื่นตั้งแต่เช้าขึ้นดอยสุเทพ เพื่อไหว้พระ และห่มผ้ารอบพระธาตุดอยสุเทพอย่างคล่องแคล่ว กราบพระได้สวยงาม กลับมาเดินตลาดวโรรส พบมวลชนรับดอกไม้ จับมือถือแขนโอบกอด เซลฟี่ ยิ่งกว่าซุปเปอร์สตาร์อีก แวะสวมกอดเจ้าของร้านขายหนังสือพิมพ์อย่างแนบแน่น นั่งคุยกันไม่มีอาการเจ็บปวดแขนใดๆให้เห็นเลย แวะกินข้าวซอยร้านเสมอใจ อย่างเอร็ดอร่อย เจริญอาหารมากกว่าคนปกติทั่วไปเสียอีก ตอนไปสุสานไหว้บรรพบุรุษ ใช้เวลาเวลาว่างนั่งให้สัมภาษณ์พูดคุยกับสื่อมวลชนอย่างสบายใจ ใบหน้ายิ้มแย้ม ไม่อิดโรยเลย แม้จะตากแดดและสูดอากาฒPM2.5มาตลอดทั้งวัน ตอนไปวัดโรงธรรมสามัคคี ได้พบมวลชนคนเสื้อแดงจำนวน มากมาย จับมือถือแขน สวมกอดกันตามสบายเหมือนคนปกติทั่วไป ตอนเย็นถอดเฝือกอ่อนที่คอ พูดจา สนทนา หันซ้ายหันขวา พูดคุยกับคนรอบข้างอย่างคล่องแคล่ว ไม่เห็นร่องรอยอาการปวดคอใดๆทั้งสิ้น
วันที่ 16 มีนาคม ผมไม่ทราบว่าเมื่อคืนคุณทักษิณนอนดึกแค่ไหน และเช้าวันนี้ตื่นนอนตอนไหน ได้พักผ่อนเพียงพอหรือไม่ แต่ได้ออกจากบ้านตอนเช้า ถอดเฝือกคอทิ้ง ไม่ใส่เข็มขัดรัดเอว
ไม่เป้สะพายคล้องแขน ไปกินกาแฟที่ร้านโอเอซีส ลงจากรถเดินเหมือนนักการเมืองทั่วไปลงพื้นที่หาเสียง ยืนให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนนานพอสมควร และพาหลานหลานเที่ยวเชียงใหม่ในท์ซาฟารีอย่างสบายใจ ภาพรวมวันนี้ ดูคุณทักษิณทะมัดทะแมง เดินเหินคล่องตัวมากที่สุด ซึ่งอาจจะเป็นวันสุดท้ายของการทัวร์เชียงใหม่ หรือนักโทษสัญจร จนจบภารกิจทักษิณออนทัวร์ 3 วัน
ผมขอทำความเข้าใจกับคุณทักษิณ ที่บอกว่า ถ้าใครไม่ชอบหน้า ก็ขอให้ต่างคนต่างอยู่นั้น ในประเด็นนี้ผมขอชี้แจงว่า สิ่งที่ผมวิพากษ์วิจารณ์คุณทักษิณนั้น ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว ไม่ใช่เรื่องการไม่ชอบหน้ากัน แต่เป็นเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย ตามหลักนิติรัฐ นิติธรรมของบ้านเมือง
ส่วนตัวผมกับคุณทักษิณไม่มีอะไรโกรธเคืองกันเลย ถ้าเป็นเรื่องชีวิตส่วนตัว “ต่างคนต่างอยู่”เป็นเรื่องที่ถูกต้อง แต่เมื่อเป็นเรื่องของส่วนรวม ผมมีส่วนได้เสีย ในฐานะนักโทษคนหนึ่ง ที่ไม่ได้รับสิทธิ์เท่ากับคุณทักษิณ จึงจำเป็นต้องวิพากษ์วิจารณ์ นำความจริงมาเปิดเผยต่อสาธารณชน ให้รับทราบโดยทั่วกัน
