”เทพไท” ชี้ ”ทักษิณ”เปลี่ยนบทบาทจากคนเลี้ยงหลาน เป็นผู้นำอนุรักษ์นิยมใหม่ หวังสร้างคะแนนนิยมให้กับพรรคเพื่อไทย สู้กับพรรคก้าวไกล
เมื่อวันที่ 1 เม.ย.67 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตสส.นครศรีธรรมราช โพสต์ว่า “ทักษิณ เปลี่ยนบทบาทจากคนเลี้ยงหลาน เป็นผู้นำอนุรักษ์นิยมใหม่”
นับตั้งแต่นี้ไปเราจะเห็นคุณทักษิณ ชินวัตร ซึ่งยังมีสถานะเป็นนักโทษ แต่ได้รับสิทธิ์การพักโทษ ตามระเบียบของกรมราชทัณฑ์ และยังอยู่ในการควบคุมของกรมคุมประพฤติ จะปรากฏตัวและเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆมากยิ่งขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องเหมียมอาย หรือเกรงใจใครอีกแล้ว ทั้งกรมราชทัณฑ์และกรมคุมประพฤติ ผู้ควบคุมดูแลระหว่างการพักโทษก็ตาม ซึ่งคุณทักษิณได้เริ่มทำกิจกรรมในรูปแบบต่างๆ มาหลายครั้งแล้ว เช่น
1.คุณทักษิณเดินทางไปไหว้บรรพบุรุษหรือเช็งเม้ง ที่ จ.เชียงใหม่ แต่ได้ไปเคลื่อนไหวทำกิจกรรมพบมวลชน เดินตลาด นัดเลี้ยงเพื่อนร่วมรุ่น นัดเลี้ยงแกนนำทางการเมือง กินข้าวเย็นกับคุณเศรษฐา และรัฐมนตรีร่วมคณะ
2.เมื้อวันที่ 26 มีนาคม ก็เดินทางไปที่พรรคเพื่อไทย เพื่อพบปะกับมวลชนคนเสื้อแดง ส.ส.พรรคเพื่อไทย และแกนนำพรรค ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ กกต.ออกมายืนยันว่าไม่ได้ครอบงำพรรคเพื้อไทยแต่อย่างใด
3.รับเป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพนายอนันต์ ฉายแสง ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา จะเห็นได้ว่า คุณทักษิณพยายามเคลื่อนไหว เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆมากยิ่งขึ้น ในลักษณะได้คืบจะเอาศอก จนไม่มีใครกล้าคัดค้านหรือท้วงติง และในงานวันนั้น มีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้ ก็ทำตัวแบบเจียมเจี้ยมนั่งหลังนักโทษชาย ชื่อทักษิณ ชินวัตร
4.ช่วงสงกรานต์นี้ คุณทักษิณ ได้ยืนยันแล้วว่า จะเดินทางไปร่วมงานสงกรานต์ ปีใหม่เมือง ที่จังหวัดเชียงใหม่อีกครั้ง คงจะมีกิจกรรมเคลื่อนไหวร่วมกับมวลชนอีกครั้งเหมือนเดิม
เพราะฉะนั้นจากนี้ไป จะเห็นคุณทักษิณเคลื่อนไหวทางการเมืองบ่อยขึ้น โดยการจัดคิวเดินสายพบมวลชน ภายใต้การประสานของส.ส.พรรคเพื่อไทย สร้างกระแสเรียกร้องให้คุณทักษิณไปพบคนเสื้อแดงในพื้นที่ โดยอ้างเรื่องการเรียกร้องของมวลชน ที่ไม่อาจปฎิเสธได้ จึงจำเป็นต้องไป
ตอนที่คุณทักษิณหนีคดีอยู่ต่างประเทศ ได้พยายามโอดครวญ พร่ำพูดอยู่ตลอดเวลาว่า ขอโอกาสกลับเมืองไทยเพื่อมาเลี้ยงหลาน แต่ก็ไม่ได้เป็นคนแก่เลี้ยงหลานตามที่กล่าวอ้าง กลับทำตัวเป็นหัวหอกเคลื่อนไหวทางการเมือง ในบทบาทผู้นำทางการเมืองของฝ่ายอนุรักษ์นิยมใหม่ สร้างคะแนนนิยมให้กับพรรคเพื่อไทย เพื่อสู้กับพรรคก้าวไกล ทางการเมืองต่อไป