“ก้าวไกล” ซักปมเหมืองทองอัคราเหน็บยุค “ประยุทธ์” เย้ย “นายกฯ” เล่นละครฉากใหญ่ไม่กล้าเอาผิด เจอ “สส.รทสช.สุดทนประท้วง
–
วันที่ 4 เม.ย.2567 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯคนที่หนึ่ง ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี(ครม.) โดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ต่อมาเวลา 14.30น. น.ส.เบญจา แสงจันทร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายถึงปัญหาเหมืองทองอัคราว่า เป็นมรดกบาปคนไทยที่เป็นละครฉากใหญ่ตบตาประชาชน มีความพยายามเจรจายกสมบัติชาติไปประเคนให้เอกชน ต่อประทานบัตรเหมืองแร่ทองคำ 4แปลง ให้เอกชนออกไปอีก 10ปี เอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุนระดับวีวีไอพี ในยุครัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พรรคเพื่อไทยที่เป็นฝ่ายค้านขณะนั้น อภิปรายเล่นใหญ่เรื่องนี้ เคยลั่นวาจาวันใดที่พล.อ.ประยุทธ์ หลุดจากอำนาจ ถ้าพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล มีอำนาจ จะยื่นต่อองค์กรอิสระดำเนินคดีพล.อ.ประยุทธ์ แต่ขณะนี้ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้แล้วใช่หรือไม่ หรือเป็นแค่เทคนิคโฆษณาหาเสียงเท่านั้น ขอถามว่า วันนี้พรรคเพื่อไทยและนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง มีอำนาจหรือยัง มีอำนาจจริงหรือไม่ หรือมีอำนาจนอกทำเนียบฯตัวจริงขี่คออยู่ ขณะนี้ผ่านมา 212วันแล้ว นอกจากรัฐบาลเศรษฐาไม่เอาผิดแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ยังอยู่สบาย หากไม่ดำเนินการใดๆต้องถามว่า รัฐบาลนี้ทำเพื่อใคร อย่าให้สิ่งที่พรรคเพื่อไทยเคยขึงขังเอาจริงเอาจังจบลงอย่างไก่กาปาหี่ เป็นแค่ละครฉากใหญ่ใช้เทคนิคโฆษณาหาเสียง เป็นมวยล้มต้มคนดู
ทำให้สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ ทั้งนายเอกนัฏ พร้อมพันธ์ สส.บัญชีรายชื่อ นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พากันประท้วงกรณีพูดพาดพิงถึงพล.อ.ประยุทธ์ที่เป็นบุคคลภายนอก ทำให้นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ทำหน้าที่ประธานการประชุม ต้องคอยเตือนน.ส.เบญจาเป็นระยะๆไม่ให้เอ่ยชื่อถึงบุคคลภายนอก
