วันศุกร์, พฤศจิกายน 22, 2024
spot_img
หน้าแรกHighlightเลือดซิบ!“ชวน”ถามราคาพุ่งตลอดไปหรือ กรีด ใส่“นายกฯ”ลงใต้อย่าริทวงบุญคุณ
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

เลือดซิบ!“ชวน”ถามราคาพุ่งตลอดไปหรือ กรีด ใส่“นายกฯ”ลงใต้อย่าริทวงบุญคุณ

กรีดเลือดซิบ “ชวน” ดักคออย่าโกหกเหตุยางราคาพุ่ง แนะชาวสวนยางอย่าหลงเชื่อ เหตุราคายางขึ้นลงปกติ เย้ย “นายกฯ” อย่าริทวงบุญคุณเป็นหน้าที่ของผู้นำ ขณะที่ “พท.” ประท้วงถูกแขวะ “นายใหญ่” ตอกย้ำออกกฎเลือกปฏิบัติช่วยผู้ป่วย

เมื่อวันที่ 4 เม.ย.67 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯคนที่หนึ่ง ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ต่อมาเวลา 14.47 น. นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายประเด็นราคายางพาราว่า ขณะนี้ราคายางพาราขึ้นเป็นเรื่องน่าดีใจ เป็นไปตามหลักอุปสงค์ อุปทาน แต่การที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง และร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ระบุไม่ใช่เหตุบังเอิญที่ราคายางขึ้น เป็นเพราะการปราบยางเถื่อนนั้น ขอทำความเข้าใจว่า เป็นห่วงประชาชนจะเข้าใจผิด การปราบยางเถื่อนแล้วราคายางจะดี ไม่เกี่ยวกับหลักอุปสงค์อุปทานในโลกความจริง ถ้าเหตุการณ์เปลี่ยนไป ราคาอาจเปลี่ยนแปลง เหตุผลหลักที่ราคายางขึ้นคือ อุปสงค์ อุปทาน ราคายางไม่ได้ขึ้นเฉพาะประเทศไทย ขึ้นทุกประเทศ เช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย กลัวว่า ถ้าอนาคตยางราคาตก รัฐบาลจะโดนเกษตรกรด่า เพราะเข้าใจผิดปราบยางเถื่อนแล้วราคาจะดี ดังนั้นอย่าประมาท รัฐบาลต้องบอกความจริงประชาชน

นายชวน กล่าวว่า ส่วนปัญหาความรุนแรงในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ยังไม่ลดความรุนแรง รัฐบาลต้องให้ความสำคัญการแก้ปัญหา มีนโยบายชัดเจนในการแก้ปัญหา แต่การใช้ความรุนแรงไม่ช่วยให้แก้ปัญหาได้ ส่วนกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ลงพื้นที่3 จังหวัดภาคใต วันที่ 29มี.ค.2567 ไปบรรยายให้นักธุรกิจฟังเกี่ยวกับการสร้างธุรกิจ โดยระบุว่า “เป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกที่ลงพื้นที่ภาคใต้ 3วัน 2คืน ไม่เห็นมีใครใส่เสื้อเกราะหรือทหารใส่รถถังตามมา เพราะมั่นใจว่าไปด้วยเจตนารมณ์ที่ดี ไปด้วยความตั้งใจจริง เพราะพรรคเพื่อไทยไม่มีสส.ที่นั่น ขออย่าไปเชื่อวาทกรรมที่มีผู้นำบางท่านพูดว่า เพื่อไทยไม่เคยให้ความสำคัญกับภาคใต้ สนามบินภูเก็ต พรรคเพื่อไทยไม่มีสส. แต่ลงทุนไปหลายหมื่นล้านบาท” ขอฝากถึงนายกฯด้วยความเคารพ เมื่อเป็นนายกฯ อย่าไปคิดว่า มีสส.เพื่อไทยอยู่หรือไม่ หน้าที่นายกฯต้องไป ไปนิดเดียวอย่าทวงบุญคุณ ก่อนหน้านี้ที่นายกฯไปภูเก็ตเพราะมีบริษัทอสังหาริมทรัพย์ของนายกฯอยู่ที่นั่น สิ่งที่อยากบอกคือ ภูเก็ตเป็นเมืองทำรายได้ท่องเที่ยวอันดับ1 รองจากกทม. ต้องช่วยพัฒนา เพราะรายได้คือภาษีที่มาเลี้ยงพวกเรา

นายชวน กล่าวว่า กราบเรียนนายกฯเศรษฐาที่ไม่ใช่นายกฯอีแอบว่า คำพูดที่ท่านว่า ผู้นำบางคนพูดว่า เพื่อไทยไม่เคยให้ความ สำคัญภาคใต้นั้น เอามาจากไหน ตนไม่เคยพูด แต่เคยพูดในวันแถลงนโยบายว่า ภาคใต้ถูกเลือกปฏิบัติ และคนเลือกปฏิบัติก็พูดตรงไปมาว่า เมื่อเราได้รับเลือกมาจากประชาชน ก็ต้องพัฒนาจังหวัดที่เลือกพรรคไทยรักไทยก่อน คนที่พูดคือนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นการเลือกปฏิบัติ

ทำให้นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ประท้วงทันที เพราะพูดพาดพิงถึงคนนอกที่ไม่มีสิทธิมาชี้แจง เพราะพูดถึงนายทักษิณในทางเสียหายเรื่องการเลือกปฏิบัติในภาคใต้ ซึ่งไม่เป็นความจริง ขอให้อภิปรายอยู่กรอบด้วย ทำให้นายชวนโต้กลับทันทีว่า “ไม่มีใครอยู่ในกรอบเท่าผม” ซึ่งนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ปฏิบัติหน้าที่ประธานการประชุม ขอความร่วมมือนายชวนหลีกเลี่ยงการเอ่ยชื่อบุคคลภายนอก

ก่อนที่นายชวนอภิปรายต่อว่า ยืนยันว่า ในวันแถลงนโยบายรัฐบาลไม่เคยพูดว่า เพื่อไทยไม่เคยให้ความสำคัญกับภาคใต้ แค่พูดถึงการเลือกปฏิบัติทำให้เสียโอกาส และขอให้รัฐบาลช่วยชดเชยการเสียโอกาสอันเกิดจากการเลือกปฏิบัติเท่านั้น แต่จนถึงทุกวันนี้การชดเชยก็ยังไม่มี

“ผมไม่ใช่คนพูดพล่อยๆ ในชีวิตการเมืองมาจากการเลือกตั้ง ไม่ใช่คนพูดบ่อย พูดพล่อย พูดบ้าน้ำลายรายวัน พูดอะไรเป็นเรื่องจริง และรับผิดชอบ ถ้านายกฯข้องใจอะไรที่ผมพูดกระทบ เมื่อท่านไปเข้าใจผิดและพูดกระทบผมก็ไม่ได้โกรธเคือง แต่สิ่งที่ท่านพูดไป คนฟังมีความรู้สึกทำไมนายกฯต้องมานินทานายชวน หลีกภัย”นายชวนกล่าว

นายชวน กล่าวว่า อีกเรื่องที่อยากพูดถึงคือ นโยบายรัฐบาลที่ระบุจะสร้างความชอบธรรมการบริหารราชการแผ่นดิน โดยฟื้นฟูหลักนิติรัฐ นิติธรรมที่เข้มแข็ง แต่ในทางปฏิบัติจริงๆ 6เดือนกว่า เข้าใจว่าการเปิดอภิปรายรัฐบาลให้รัฐบาลมีผลงานออกมาในช่วง 6เดือนกว่าๆเป็นไปไม่ได้ นี่คือความจริง ในช่วงที่เป็นผู้นำฝ่ายค้าน 3สมัย ก็ให้เวลารัฐบาลบริหารอย่างน้อย 1ปี แต่สิ่งที่สามารถอภิปรายได้ โดยไม่ต้องรอให้ครบ 1ปีคือ ถ้ารัฐบาลชุดนั้นโกง ทุจริต หรือปฏิบัตินอกหลักนิติธรรม ก็สามารถเปิดอภิปรายได้ วันนี้สิ่งที่รัฐบาลปฏิบัติได้ โดยไม่ต้องรอเวลาคือ การยึดหลักนิติธรรม แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากกรณีนักโทษที่ไม่ขอเอ่ยชื่อ การที่คนป่วยหายป่วยเป็นเรื่องดีไม่ว่าใครก็ตาม มีโอกาสที่จะมาชื่นชมผลงาน และรับกรรมกับสิ่งไม่ดีที่ทำไว้ แต่ประเด็นที่อยากเตือนคือ กฎกระทรวงที่ออกเกี่ยวกับนักโทษเป็นเรื่องดี ไม่ว่าออกสมัยใด ปัญหามีเพียงว่า แต่ละข้อได้มีการปฏิบัติหรือไม่ เป็นเรื่องที่รัฐบาลปล่อยปะละเลยไม่ให้กฎเกณฑ์กติกา ความถูกต้อง เสมอภาค การไม่เลือกปฏิบัติเกิดขึ้น กลับละเลยอ้างว่าเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ จึงต้องมีคำถามว่า รัฐบาลจะดำเนินการกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไร ไม่เกี่ยวข้องกับคนป่วย แต่เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ถ้ารัฐบาลจะบอกเป็นเรื่องเจ้าหน้าที่ ถ้าเจ้าหน้าที่ไม่ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ รัฐบาลที่เป็นผู้บังคับบัญชาเจ้าหน้าที่จะดำเนินการอย่างไร ด้วยภารกิจหน้าที่ของนักการเมือง การให้ประชาธิปไตยไปด้วยดี ต้องเคารพกฎหมาย ถ้าเลือกปฏิบัติความสุขประชาชนจะไม่เกิดขึ้น สิ่งศักดิ์สิทธิที่ทุกคนต้องยอมรับคือ ถ้าต้องการให้ประชาชนมีความสุข ต้องทำให้ความยุติธรรมเกิดขึ้น ถ้าไม่รักษาความยุติธรรม ความสุขประชาชนก็ไม่เกิดขึ้น ขอให้ทุกคนยึดหลักความถูกต้อง และหลักนิติธรรม

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img