วันจันทร์, พฤศจิกายน 25, 2024
spot_img
หน้าแรกHighlightไม่พบจนท.-น.ช.ติดเชื้อโควิด-19 ที่สัมผัสใกล้ชิด"จัสติน"
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

ไม่พบจนท.-น.ช.ติดเชื้อโควิด-19 ที่สัมผัสใกล้ชิด”จัสติน”

”กรมราชทัณฑ์’’แจ้งไม่พบเจ้าหน้าที่และผู้ต้องขังที่สัมผัสใกล้ชิด “จัสติน”ติดโควิด เตรียมพร้อมยกระดับมาตรการเชิงรุกในเรือนจำทั่วประเทศ สกัดเชื้อก่อนเข้าเรือนจำชั้นใน

เมื่อวันที่ 25 เม.ย. 64 นายธวัชชัย ชัยวัฒน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ (ในฐานะโฆษกกรมราชทัณฑ์) เปิดเผยว่า จากกรณีที่นายชูเกียรติ แสงวงค์ หรือ จัสติน ซึ่งถูกคุมชังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร มีการติดเชื้อไวรัสโควิต-19 และได้ทำการส่งตัวไปรับการรักษาที่ทัณฑ์สถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2564 ทำให้ต้องดำเนินการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ในผู้สัมผัสใกล้ชิดที่มีความเสี่ยงสูง จำนวน 35 ราย โดยแบ่งเป็นเจ้าหน้าที่ 9 ราย และผู้ต้องขัง 26 ราย ซึ่งรวมถึงแกนนำกลุ่มราษฎรด้วยนั้น ผลการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเจ้าหน้าที่และผู้ต้องขัง

กลุ่มสัมผัสใกล้ชิดที่มีความเสี่ยงสูงทั้ง 35 ราย ไม่พบเชื้อไวรัสโควิด-19 ทุกราย แต่อย่างไรก็คาม ยังต้องแยกกักตัวกลุ่มดังกล่าวเป็นระยะเวลา 14 วันและทำการตรวจหาเชื้อช้ำอีกครั้ง เพื่อเป็นการยืนยันผลว่าปลอดเชื้อ

นายธวัชชัย  กล่าวชี้แจงว่า ปัจจุบัน (25 เมษายน 2564) เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร มีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งสิ้น 10 ราย แบ่งเป็นเจ้าหน้าที่ 1 ราย และผู้ต้องขัง 9 ราย โดยผู้ต้องขังที่ติดเชื้อ 8 ราย เป็นผู้ช่วยงานเจ้าพนักงานเรือนจำ ซึ่งมีการแยกการควบคุมไว้ที่ฝ้ายควบคุมผู้ต้องขัง เพื่อปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตรวจคัน รับตัวผู้ต้องขังเข้าใหม่ และผู้ต้องขังไป-กลับศาล โดยเป็นการติดเชื้อจากการสัมผัสใกล้ชิดกับเจ้าหน้าที่ที่ติดเชื้อ

ซึ่งได้ตรวจพบเชื้อและทำการรักษาตัวอยู่ที่ทัณฑ์สถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ไปแล้วก่อนหน้านี้ รวมทั้งได้แยกกักตัวผู้สัมผัสใกล้ชิดรายอื่นๆ และตรวจหาเชื้อเรียบร้อยแล้ว ส่วนผู้ต้องขังอีก 1 ราย คือนายชูเกียรติ ที่มีการพบว่าติดเชื้อเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2564 ที่ผ่านมา เป็นการตรวจพบเชื้อในระหว่างแยกกักตัวเป็นระยะเวลา 14 วันในแดนกักโรคหลังกลับจากศาล ตามมาตรการป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ต้องแยกกักตัวผู้ต้องขังเข้าใหม่ รับย้ายและผู้ต้องชังออกศาลเป็นระเวลา 14 วัน

ซึ่งยังอยู่ในระหว่างสอบสวนโรคอีกครั้งว่าเป็นการติดเชื้อจากกระบวนการใดโดยยืนยันว่าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ยังไม่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำชั้นใน และผลการตรวจหาเชื้อในเจ้าหน้าที่และผู้ต้องขังรายอื่นๆ ยังไม่พบการติดเชื้อเพิ่มเดิม

“จากสถานการณ์การแพร่ระบาดที่ยังมีแนวโน้มระบาดอย่างต่อเนื่อง กรมราชทัณฑ์ได้ยกระดับมาตรการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้เป็นเชิงรุกมากขึ้น คือ 1.การตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ในผู้ต้องขังเข้าใหม่ทุกราย อย่างน้อย 2 ครั้ง คือ หลังรับตัวเข้าห้องแยกกักโรค ภายใน 3 วันแรก และก่อนออกจากห้องแยกกักโรคอีก 1 ครั้ง เพื่อยืนยันว่าไม่มีเชื้อ 2.การจัดหาวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อฉีดให้แก่เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ทุกคน โดยเฉพาะผู้ปฏิบัติงานในเรือนจำและทัณฑ์สถาน และ 3.ให้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ทุกคนเข้ารับการตรวจเชื้อไวรัสโควิด-19 และต้องทำการตรวจหาเชื้อในทุก 14 วัน โดยเฉพาะผู้ที่ปฏิบัติงานใกล้ชิดกับผู้ต้องขัง จึงขอให้ผู้ต้องชังและญาติผู้ต้องขังมั่นใจและอย่าได้วิตกกังวล กรมราชทัณฑ์มีความพร้อมในการรับมือและดูแลผู้ต้องขังทุกคนให้ผ่านพันวิกฤตการณ์ในครั้งนี้ไปได้ด้วยดี” นายธวัชชัยกล่าว

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img