วันจันทร์, พฤศจิกายน 25, 2024
spot_img
หน้าแรกHighlightแฉยับพฤติกรรม‘ทักษิณ’คนมีเส้น-มีแบ็ค จ่อควบรวมพรรคการเมืองไว้สู้‘ก้าวไกล’
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

แฉยับพฤติกรรม‘ทักษิณ’คนมีเส้น-มีแบ็ค จ่อควบรวมพรรคการเมืองไว้สู้‘ก้าวไกล’

“เทพไท” ลากไส้พฤติกรรม “ทักษิณ” เป็นคนมีเส้น มีแบ็คดี มีมือที่มองไม่เห็นอุ้มอยู่ เคลื่อนไหวการเมืองแบบโชว์พาว มีอำนาจสูงสุด เจ้าของ “เพื่อไทย” ตัวจริง เตรียมจัดทัพสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้า ด้วยสูตรเดิมๆ คือ “ควบรวมพรรคการเมือง” ไว้ต่อกรกับ “ก้าวไกล”

เมื่อวันที่ 27 พ.ค.67 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตสส.นครศรีธรรมราช แสดงความเห็นทางเฟซบุ๊กส่วนตัวเรื่อง “ทักษิณ วันนี้คือ คนมีเส้น” มีเนื้อหาว่า…“ผมเห็นความเคลื่อนไหวของคุณทักษิณ (ชินวัตร) ในช่วงนี้แล้ว ทำให้เห็นภาพการเป็นเจ้าของพรรคเพื่อไทยตัวจริง ถ้าพรรคเพื่อไทยคือบริษัททางธุรกิจครอบครัวชินวัตร คุณทักษิณก็คือบอสใหญ่ หรือประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เป็นซีอีโอมีอำนาจสูงสุด สั่งให้พนักงานทุกคนทำตามที่ตัวเองต้องการได้ และสามารถทำอะไรตามใจได้ทุกอย่าง ไม่ต้องสนใจใคร เช่นการยอมรับเรื่องการพูดคุยกับชนกลุ่มน้อยชาติติพันธุ์ในพม่า และคุยกับผู้นำประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นการทำงานทางการเมืองที่ข้ามหัวกระทรวงต่างประเทศของรัฐบาล รวมถึงการสั่งให้คุณเศรษฐา (ทวีสิน) เรียกประชุมครม.เศรษฐกิจ ซึ่งคุณเศรษฐาก็ปฏิบัติตามทันที

ในวันที่เดินทางไปจังหวัดนครราชสีมา ขอขึ้นเวทีประกาศชักชวนให้คุณสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนา มาร่วมกับพรรคเพื่อไทย โดยออกตัวว่า ทำแทนนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ลูกสาว ซึ่งในความเป็นจริงแล้วคุณทักษิณต้องการโชว์เพาเวอร์ว่า ตนเองคือผู้มีอำนาจเบ็ดเสร็จในพรรคเพื่อไทย จะให้คนอื่นไปทาบทามพูดคุยไม่สำเร็จ แต่เมื่อคุณทักษิณออกโรงเอง ทุกอย่างก็เรียบร้อย

ทำให้นึกถึงบรรยากาศการเมืองหลังเลือกตั้งเมื่อปี 2548 ที่คุณทักษิณใช้วิธีการควบรวมพรรคการเมือง เหมือนกับการควบรวมบริษัทในทางธุรกิจ ซึ่งในตอนนั้นได้ดึงเอาพรรคความหวังใหม่และพรรคเสรีธรรม มารวมกับพรรคไทยรักไทย จนได้เสียงเกินครึ่งของสภา จัดรัฐบาลจนพรรคฝ่ายค้านไม่สามารถยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจได้

ในครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน คุณทักษิณย่อมรู้ดีว่า การเลือกตั้งครั้งหน้า ลำพังพรรคเพื่อไทยก็ไม่สามารถเอาชนะพรรคก้าวไกลได้ จึงจำเป็นต้องใช้วิธีการควบรวมพรรคการเมืองต่างๆ ให้มาอยู่ในพรรคเดียวกัน เพื่อต้องการให้ชนะเลือกตั้งเป็นอันดับ 1 สร้างความชอบธรรมเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ไม่ต้องถูกกระแหนะกระแหน ว่าปล้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมา โดยมีพรรคของฝ่ายอนุรักษ์นิยมเป็นพันธมิตรหรือเป็นพรรคอัมโนแบบการเมืองมาเลเซีย

เพราะฉะนั้นการที่คุณทักษิณออกตัวว่า เป็นคนแก่คนหนึ่งไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง แต่ในความเป็นจริงคุณทักษิณ คือผู้บงการทางการเมืองของพรรคเพื่อไทยทั้งหมด และเป็นศูนย์กลางอำนาจตัวจริงของพรรคเพื่อไทย ส่วนคนอื่นๆ นั้นเป็นเหมือนพนักงานบริษัทของครอบครัวชินวัตรเท่านั้น

ต่อจากนี้เราจะเห็นบทบาทของคุณทักษิณเคลื่อนไหวทางการเมืองมากขึ้น โดยไม่แคร์กระแสสังคม และไม่สนใจกลุ่มต่อต้านแต่อย่างใด เพราะรู้ว่าตัวเองเป็นคนมีเส้น มีแบ็คดี มีมือที่มองไม่เห็นอุ้มอยู่ แต่อยากจะขอเตือนไว้ว่า ระวังให้ดี พลาดท่าขึ้นมา อาจจะไม่มีแผ่นดินอยู่อีกก็ได้”

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img