3 แนวร่วม! “คปท.-ศปปส.-กองทัพธรรม” ผนึกกำลังบุกสภาฯยื่น 3 จุดยืน เห็นด้วย “นิรโทษกรรม” ทุกฝ่าย แต่ยี้รวม ม.112 ต้องไม่เหมาความผิด “ทุจริตคอร์รัปชั่น”
เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.67 เวลา 12.50 น. ที่รัฐสภา เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ร่วมกับศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) และกองทัพธรรม ยื่นหนังสือต่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม สภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายนิกร จำนง เลขานุการกมธ.ฯ เป็นตัวแทนมารับหนังสือ
โดยนายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) กล่าวว่า ตามที่คณะกมธ. ได้ดำเนินการพิจารณาแนวทางการออก พ.ร.บ. และมีความพยายามนำเอาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 รวมเข้าด้วยนั้น เกิดจากแนวคิดที่จะแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองของประชาชนในเหตุการณ์ทางการเมืองตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ถึงปัจจุบัน แต่เหตุการณ์ หรือพฤติกรรมแห่งการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ของกลุ่มหรือบุคคลผู้กระทำความผิด ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทางการเมือง และไม่ใช่เกิดจากความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประชาชนด้วยกัน แต่เป็นการกระทำที่มุ่งหมายให้เกิดการเซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์จนเป็นเหตุให้ชำรุดทรุดโทรมเสื่อมทราม เข้าลักษณะการล้มล้างการปกครอง
“เราเห็นว่า การพยายามผลักดันการนิรโทษกรรมโดยการเหมารวมฐานความผิดเหมือนกรณีที่รัฐบาลของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พยายามผลักดันเป็นพ.ร.บ.นิรโทษกรรมแบบเหมาเข่ง ยิ่งจะสร้างความแตกแยกครั้งใหม่ในสังคมไทย” นายพิชิต กล่าว
แกนนำคปท. กล่าวต่อว่า เราจึงขอแสดงจุดยืนคือ 1.สนับสนุนให้มีการนิรโทษกรรม ให้กับประชาชนที่ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมือง โดยมีเหตุจูงใจทางการเมืองทุกฝ่าย 2.คัดค้านแนวทางการนำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 มาบรรจุไว้ในพ.ร.บ.นิรโทษกรรม เนื่องจากการกระทำความผิดนั้น ไม่ได้เป็นการแสดงออกทางการเมือง แต่เป็นการเคลื่อนไหวเพื่อมุ่งหมายตรงต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และ 3.คัดค้านการนิรโทษกรรมที่จะเหมารวมความผิดในกรณีทุจริตคอร์รัปชัน รวมถึงการกระทำผิดอาญาต่อบุคคลร้ายแรง ถึงแม้จะเกิดขึ้นในระหว่างชุมนุมก็ตาม
ด้านนายนิกร กล่าวว่า กมธ.ฯได้รับเรื่องร้องเรียนมาแล้ว 3 คณะ ซึ่งทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับการรวมความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ในการนิรโทษกรรม แต่ทั้งนี้กมธ.ฯไม่ได้เป็นกมธ.ที่ยกร่างฯ แต่จะพูดคุยได้ในหลักการต่างๆ ซึ่งเข้าใจเรื่องที่มายื่นว่าเป็นเรื่องที่มีความอ่อนไหว ขอย้ำว่า ทางกมธ.ฯ ยังไม่มีข้อสรุปเรื่องนี้ จึงจะแถลงในนามกมธ.ฯไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ตนจะรับเรื่องไว้เพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาของกมธ.ฯต่อไป แต่จะได้ข้อสรุปอย่างไรต้องรอฟังอีกครั้ง