วันศุกร์, พฤศจิกายน 22, 2024
spot_img
หน้าแรกNEWS"นายกฯ" ร่ายยาวแถลงย้ำปลายปี 67 เงินหมื่นถึงมือคนไทยแน่ หวังกระตุ้นเศรษฐกิจแบบหมุนเวียน
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“นายกฯ” ร่ายยาวแถลงย้ำปลายปี 67 เงินหมื่นถึงมือคนไทยแน่ หวังกระตุ้นเศรษฐกิจแบบหมุนเวียน

เริ่มแล้ว!สภาฯถกงบฯ68 วาระแรก “นายกฯ” ร่ายยาวแถลงหลักการย้ำปลายปี 67 เงินหมื่นถึงมือคนไทยแน่ หวังกระตุ้นเศรษฐกิจแบบหมุนเวียน ไหลจากงบภาครัฐลงสู่เอกชน กระตุ้นการใช้จ่าย-บริการ

วันที่ 19 มิ.ย.2567 เวลา 09.30 น.ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยวิสามัญ มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธาน สภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี2568 วงเงิน3.75ล้านล้านบาท ในวาระแรก โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี นำทีมครม.เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง นายเศรษฐาก
โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ชี้แจงหลักการและเหตุผลต่อสภาฯว่า ปลายปี 2567 นโยบายดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาท จะถึงมือคนไทย 50 ล้านคน เป็นพายุหมุนทางเศรษฐกิจ กระตุ้นเศรษฐกิจที่ทั่วถึงตั้งแต่ระดับฐานราก ไปยังพื้นที่ทั่วประเทศ ทำให้เกิดการใช้จ่าย สั่งผลิตสินค้า จ้างงาน และหมุนกลับมาเป็นภาษีให้กับรัฐ เพื่อใช้ในการลงทุนสร้างขีดความสามารถให้กับประเทศต่อไป

นายกฯ กล่าวว่า จากภาวการณ์ทางเศรษฐกิจ ที่มีปัญหาหนี้สินครัวเรือน สูงกว่า 91.3% ต่อจีดีพี ซ้ำกับปัญหาหนี้นอกระบบ เอสเอ็มอี ที่มี 3.2 ล้านรายในครึ่งดังกล่าวเข้าไม่ถึงสินเชื่อของสถาบันการเงิน ทำให้การเติบโตของเอสเอ็มดีอยู่ในระดับต่ำ รัฐบาลจึงต้องทำนโยบายงบประมาณขาดดุล เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจให้ต่อเนื่อง โดยมีประมาณการเก็บรายได้จากภาษีได้สุทธิ 3.02 ล้านล้านบาท และหักการจัดสรรภาษีขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 1.35แสนล้านบาท คงเหลือเป็นรายได้สุทธิ 2.88 ล้านล้านบาท และมีเงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณณ จำนวน 8.6แสนล้านบาาท รวมเป็นรายรับ 3.7ล้านล้านบาท

“การทำงบแบบขาดดุล มีความสำคัญและจำเป็นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยเม็ดเงินจำนวนมากไหลจากภาครัฐไปสู่เอกชน ให้เกิดการสั่งซื้อสินค้า บริกร หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจต่อเนื่อง” นายกฯกล่าว

นายเศรษฐา กล่าวอีกว่า สำหรับฐานะการคลัง มีหนี้สาธรณะ 11 ล้านล้านบาท คิดเป็น 63.37% ของจีดีพี ทั้งนี้อยู่ภายใต้กรอบการบริหารหนี้สาธารณะตามกฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลังของรัฐที่กำหนดไว้ให้ไม่เกิน70%ของจีดีพี ขณะที่เงินคงคลัง เมื่อ 30 เม.ย. มี 4.3 แสนล้านบาท โดยรัฐบาลจะบริหารเงินคงคลังให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และบริหารรายรับรายยจ่ายของรัฐให้มีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด ขณะที่ฐานะการเงินด้านต่างประเทศของไทยอยู่ในเกณฑ์ดี มีมูลค่าเงินสำรองระหว่างประเทศ อยู่ที่ 2.24 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ตัวเลขเมื่อ 31 ธ.ค. 66 คิดเห็น 2.5 เท่าของหนี้ต่างประเทศระยะสั้น ถือว่าอยู่ในระดับแข็งแกร่งมาก

นายกฯ กล่าวว่า ภาพรวมของร่างพ.ร.บ.งบฯ68 วงเงิน 3.7 ล้านล้านบาท เป็นรายจ่ายประจำ 2.7 ล้านล้านบาท คิดเป็น 72.1% รายจ่ายลงทุน 9.08แสนล้านบาท คิดเป็น 24.2% ซึ่งเป็นสัดส่วนการรลงทุนที่สูงในรอบ 17 ปี และรายจ่ายชำระคืนต้นเงินกู้ 1.5 แสนล้านบาท คิดเป็น 4% ทั้งนี้รายจ่ายชำระคืนต้นเงินกู้เป็นรายจ่ายลงทุนกรณีการกู้เพื่อการลงทุนของรัฐวิสาหกิจ จำนวน 1หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ในการจัดสรรงบประมาณยังยึดตามยุทธศาสตร์ชาติ

“งบประมาณรายจ่ายปี 68 จำนวน 3.7ล้านล้านบาท มีที่มาจากรายได้ที่คาดว่าจะจัดเก็บได้จำนวน 2.8 ล้านล้านบาท และเป็นการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุล 8.65 แสนล้านบาท แม้งบประมาณปีนี้ จะขาดดุลเพิ่มขึ้น แต่รัฐบาลจัดสรรรายจ่ายลงทุนไว้ จำนวน 9.08 แสนล้านบาท คิดเป็น 24.2% ของงบรายจ่ายระจำปี ซึ่งเพิ่มจากปีก่อน 27.9% ซึ่งเป็นอัตราที่สูงสุดในรอบ 17 ปี การบริหรงบรายจ่ายทั้งหมด จะใช้จ่ายเพื่อดำเนินนโยบายของรัฐบาล และกระตุ้นเศรษฐกิน โดยรัฐบาลจะดำเนินการให้เป็นไปตามกรอบการเงินการคลัง ใช้จ่ายเงินให้มีประสิทธิภาพ และกระตุ้นเศรษฐกิจให้เม็ดเงินไหลไปสู่ประชาชนและภาคธุรกิจ สร้างการเติบโตให้ประเทศพัฒนาศักยภาพอย่างยั่งยืนและเป็นไปตามกฎหมา” นายกฯ ชี้แจง”

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img