วันพฤหัสบดี, กันยายน 26, 2024
spot_img
หน้าแรกHighlight‘นายกฯ’รับทราบรายงานผลสอบ2บิ๊กตร. ‘บิ๊กฉิ่ง’ไม่พูดใครอยู่/ไป-รอ’วิษณุ’แถลง
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

‘นายกฯ’รับทราบรายงานผลสอบ2บิ๊กตร. ‘บิ๊กฉิ่ง’ไม่พูดใครอยู่/ไป-รอ’วิษณุ’แถลง

“ฉัตรชัย” พบ “นายกฯเศรษฐา” รายงานผลสอบ “2 บิ๊กตำรวจ” ปัดตอบใครอยู่ใครไป เผยให้รอ “วิษณุ” ตอบ ด้าน “วิษณุ” เตรียมแถลงผลการสอบ ‘บิ๊กต่อ-บิ๊กโจ๊ก’ หลังได้รับรายงานสรุปจากคณะกรรมการชุด “ฉัตรชัย-วินัย-ชาติพงษ์”

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และข้อกฎหมาย กรณีเป็นข่าวสาธารณะเกี่ยวกับความขัดแย้งในเรื่องคดี ระหว่าง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาที่รัฐสภา

เมื่อถามว่า เดินทางมาพบนายกรัฐมนตรีเพื่อรายงานผลสอบของคณะกรรมการใช่หรือไม่ นายฉัตรชัย กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กับนายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เป็นผู้แถลงข่าว วันพรุ่งนี้ (20 มิ.ย.)

เมื่อถามว่า จะคืนตำแหน่งให้กับพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กลับไปปฎิบัติหน้าที่ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตามเดิมใช่หรือไม่ นายฉัตรชัย กล่าวว่า เป็นเรื่องการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี ที่ได้มอบหมายให้กับนายวิษณุดูแลเรื่องนี้

ส่วนจะสามารถเปิดเผยรายละเอียดได้หรือไม่ว่ามีหนึ่งคนที่ได้ไปต่อและอีกหนึ่งคนที่ต้องออกจากตำแหน่ง นายฉัตรชัย ปฏิเสธตอบคำถามพร้อมกับส่ายหน้า ย้ำพรุ่งนี้นายวิษณุจะแถลงข่าว

นายฉัตรชัย กล่าวอีกว่า ผลสอบครั้งนี้ ไม่ได้ชี้มูลความผิด แต่เป็นเรื่องข้อเท็จจริง และข้อกฎหมาย และคณะกรรมการชุดนี้ จะไม่เข้าไปก้าวล่วงกระบวนการยุติธรรม

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า คณะกรรมการชุดนี้ จะดูเพียงประเด็นการร้องเรียน ไม่นำเรื่องอื่นมาประกอบการพิจารณาใช่หรือไม่ นายฉัตรชัย กล่าวย้ำอีกว่า ให้รอฟังนายวิษณุ พรุ่งนี้

ส่วนผลสอบครั้งนี้จะส่งไปยัง ป.ป.ช. และหน่วยงานอื่นด้วยหรือไม่ นั้น นายกรัฐมนตรีสั่งตั้งกรรมการ เมื่อสอบเสร็จก็ส่งไปให้นายกนายกรัฐมนตรี ถือว่าจบหน้าที่ของกรรมการ ส่วนนายกรัฐมนตรี จะนำไปให้หน่วยงานไหนต่อหรือไม่ นั้น ยังไม่ได้แจ้ง

เมื่อถามย้ำว่า คณะกรรมการได้เขียนข้อชี้แนะไปด้วยหรือไม่ว่าจะส่งผลไปยังหน่วยงานไหน เพื่อให้ตรวจสอบต่อ นายฉัตรชัย กล่าวว่า เป็นไปตามข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ยืนยันว่าเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมทั้งนี้ นายฉัตรชัยไม่ได้ตอบคำถามว่า 2 บิ๊กตำรวจใครมีเฮ

ฉัตรชัย พรหมเลิศ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และข้อกฎหมาย กรณีเป็นข่าวสาธารณะเกี่ยวกับความขัดแย้งในเรื่องคดี ระหว่างพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุวิมล และพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ประกอบด้วย นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย ประธานกรรมการ, นายชาติพงษ์ จีระพันธุ อดีตรองอัยการสูงสุด กรรมการ และพล.ต.อ.วินัย ทองสอง อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจเเห่งชาติ กรรมการ และเลขานุการ ใช้เวลากว่า 2 เดือนในการแสวงหาข้อเท็จจริง อย่างรอบด้านมากที่สุด และเสนอรายงานสรุปต่อนายกรัฐมนตรี เรียบร้อยแล้ว

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล ระบุว่า เนื้อหาบางส่วนในรายงานที่เสนอนายกรัฐมนตรี ชี้ถึงการเกิดความขัดแย้งกันจริงในหลายระดับชั้น ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งส่งผลต่อภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นจากประชาชนอย่างมาก ที่สำคัญคือ ทั้งพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ต่างมีประเด็นที่ถูกกล่าวหาทั้งทางคดีแพ่ง คดีอาญา และทางด้านวินัย ซึ่งมีขั้นตอนตามกฎหมาย และมีการดำเนินการขององค์กรอิสระคือ ป.ป.ช. โดยคณะกรรมการ ได้แยกประเด็นการถูกกล่าวหาของทั้ง 2 คนให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาอย่างชัดเจน

อย่างก็ตาม จากนี้ก็จะเป็นหน้าที่ในการพิจารณาของนายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ที่ดูแลงานด้านกฎหมาย ว่าจะดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปอย่างไร จะชี้แจงแถลงข่าววันไหน โดยมีกระแสข่าวว่า พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. จะได้กลับไปทำงานที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก่อนเกษียณอายุราชการเดือนตุลาคมปีนี้ (2567) เหตุเพราะไม่สามารถสรุปชี้มูลความผิดใดได้ ในข้อร้องเรียนเรื่องซุกบ้านพักที่อังกฤษ เนื่องจากเป็นการดำเนินการขององค์กรอิสระคือป.ป.ช. ขณะที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ยังไม่สามารถส่งกลับรับราชการได้ เพราะต้องรอผลสอบคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.)

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีข้างต้น นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้มีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 106/2567 เรื่อง ให้ข้าราชการมาปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรีลงวันที่ 20 มี.ค.2567 ซึ่งเป็นการสั่งให้ บิ๊กต่อ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และ

คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และข้อกฎหมาย กรณีเป็นข่าวสาธารณะเกี่ยวกับความขัดแย้งในเรื่องคดี ระหว่าง พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุวิมล และ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล ประกอบด้วย นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย ประธานกรรมการ นายชาติพงษ์ จีระพันธุ อดีตรองอัยการสูงสุด กรรมการ และพล.ต.อ.วินัย ทองสอง อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจเเห่งชาติ กรรมการ และเลขานุการ ใช้เวลากว่า 2 เดือนในการแสวงหาข้อเท็จจริง อย่างรอบด้านมากที่สุด และเสนอรายงานสรุปต่อนายกรัฐมนตรี เรียบร้อยแล้ว

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล ระบุ เนื้อหาบางส่วนในรายงานที่เสนอนายกรัฐมนตรี ชี้ถึง การเกิดความขัดแย้งกันจริงในหลายระดับชั้น ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งส่งผลต่อภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นจากประชาชนอย่างมาก

ที่สำคัญคือ ทั้งพลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ และ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ ต่างมีประเด็นที่ถูกกล่าวหาทั้งทางคดีแพ่ง คดีอาญา และทางด้านวินัย ซึ่งมีขั้นตอนตามกฎหมาย และมีการดำเนินการขององค์กรอิสระคือป.ป.ช. โดยคณะกรรมการ ได้แยกประเด็นการถูกกล่าวหาของทั้ง 2 คนให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาอย่างชัดเจน

อย่างก็ตาม จากนี้ ก็จะเป็นหน้าที่ในการพิจารณา ของ นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ที่ดูแลงานด้านกฎหมาย ว่าจะดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปอย่างไร จะชี้แจงแถลงข่าววันไหน

ท่ามกลางกระแสข่าว พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. จะได้กลับไปทำงานที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก่อนเกษียณอายุราชการเดือนตุลาคมปีนี้ ( 2567) เหตุไม่สามารถสรุปชี้มูลความผิดใดได้ ข้อร้องเรียนเรื่องซุกบ้านพักที่อังกฤษ เป็นการดำเนินการขององค์กรอิสระคือป.ป.ช.

ขณะที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ยังไม่สามารถส่งกลับรับราชการได้ เพราะต้องรอผลสอบ คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.)

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีข้างต้น นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้มีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 106/2567 เรื่อง ให้ข้าราชการ มาปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรีลงวันที่ 20 มี.ค. 2567 ซึ่งเป็นการสั่งให้ บิ๊กต่อ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ช่วยงานสำนักนายกรัฐมนตรี และต่อมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกจากราชการไว้ก่อน

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img