วันอาทิตย์, กันยายน 29, 2024
spot_img
หน้าแรกHighlightผลสอบ“ศึกในตร.”พบมีขัดแย้งทุกระดับ ปม“2บิ๊ก”ไร้ถูกผิด-ดึง“บิ๊กต่อ”นั่งผบ.ตร.
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

ผลสอบ“ศึกในตร.”พบมีขัดแย้งทุกระดับ ปม“2บิ๊ก”ไร้ถูกผิด-ดึง“บิ๊กต่อ”นั่งผบ.ตร.

“วิษณุ” แถลงผลสอบปมขัดแย้งชุด “บิ๊กฉิ่ง” เป็นประธานฯ ฟันฉับใน “ตร.” มีความขัดแย้งทุกระดับ-ทุกฝ่าย ส่วนศึก “บิ๊กต่อ-บิ๊กโจ๊ก” ไม่มีใครถูก-ใครผิด จึงให้ “บิ๊กต่อ” กลับไปดำรงตำแหน่ง “ผบ.ตร.” ตามเดิม เผย “นายกฯ” ขอให้ทั้ง 2 ฝ่ายปรองดอง เพื่อประโยชน์ประชาชน ไม่ให้เกิดการเสื่อมศรัทธา

เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.67 เวลา 11.00 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี แถลงความคืบหน้าผลสอบของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายกรณีปรากฎเป็นข่าวต่อสาธารณะเกี่ยวกับความขัดแย้งในเรื่องคดีของบุคลากรภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระหว่างพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ว่า เมื่อวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา ครบ 4 เดือน ท่ามกลางความขัดแย้งอย่างรุนแรงภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ทำให้ประชาชนไม่มั่นใจ ต่อสภาพที่เกิดขึ้น นายกฯจึงมีคำสั่งตั้งคณะกรรมการดังกล่าวฯเพื่อมาแก้ไขปัญหา โดยมีกรรมการ 3 คน ซึ่งคณะกรรมการได้ตั้งอนุกรรมการมาช่วย และมีการเรียกสอบพยานกว่า 50 คน ผลการพิจารณามีดังนี้

1. ผลการตรวจสอบพบว่า มีความขัดแย้งจริง มีความขัดแย้งระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูง ระดับกลาง ระดับเล็ก ในทุกระดับ ทุกฝ่าย ของ ตร.

2.สิ่งที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับ 2 บิ๊กตำรวจ มีคดีเกี่ยวพันหลายคดี อาทิ คดี 140 ล้าน เป้รักผู้การเท่าไหร่, คดีกำนันนก, คดีมินนี่, คดี BNK และมีคดีย่อยๆ อีกกว่า 10 คดี แยกอยู่ตามสถานตำรวจต่างๆ ซึ่งความขัดแย้งบางเรื่องเป็นเรื่องเพิ่งเกิด บางเรื่องเกิดมานานแล้ว

3.เมื่อเป็นเช่นนี้ต้องส่งเรื่องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบ โดยบางเรื่องส่งให้ตำรวจอัยการศาล

วิษณุ เครืองาม

4.บางเรื่องเกี่ยวกับหน่วยงานกับองค์กรอิสระ เช่น ป.ป.ช. ซึ่งปัจจุบันมีคดีที่มีเจ้าของรับดำเนินการหมดแล้ว ไม่มีคดีตกค้างอยู่ที่ ตร.

5.พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ได้รับคำสั่งกลับไปปฎิบัติราชการที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 18 เม.ย.หลังมีคำสั่งเรียกมาช่วยราชการที่สำนักสำนักนายกฯ แต่ในวันเดียวกัน มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นอีกหนึ่งชุด เพื่อสอบสวนทางวินัย และตามมาด้วยคำสั่งให้พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกจากราชการไว้ก่อน ส่วนพล.ต.อ.ต่อศักดิ์เป็นไปตามข้อสรุป จึงเห็นสมควรส่งพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กลับไปปฏิบัติราชการในหน้าที่เดิม เพราะไม่มีเหตุผลให้พล.ต.อ.ต่อศักดิ์อยู่ต่อที่สำนักปลัดสำนักนายกฯ ส่วนคดีก็ปล่อยให้เดินต่อไปตามขั้นตอนของกระบวนการนั้นๆ เช่นคดีที่ ป.ป.ช. ส่วนจะกลับวันไหน ต้องรอคำสั่งนายกฯ ออกมา

“คณะกรรมการเข้ามาตรวจสอบครั้งนี้ ซึ่งเป็นการตรวจสอบข้อกฎหมาย และข้อเท็จจริง ไม่ได้ชี้ว่าใครถูก-ใครผิด แต่ได้รายงานนายกฯ ถึงเรื่องที่พบเห็น ความยุ่งยากสับสนระหว่างอำนาจการสอบสวนของหน่วยงานหลายหน่วย เพราะไม่รู้ว่า บางเรื่องอยู่ในอำนาจของใคร ปปท. ปปง.หรือ ป.ป.ช. พนักงานสอบสวน ซึ่งคดีทุจริตมีเจ้าภาพหลายรายเกินไป แม้เจ้าภาพใหญ่จะคือ ป.ป.ช. เพราะฉะนั้นจากนี้จะแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไปยังสำนักงานกฤษฎีกา กระทรวงยุติธรรม ให้ไปตรวจสอบอำนาจการสอบสวน นอกจากนี้นายกฯขอให้ทั้งสองฝ่ายปรองดองในการทำงาน เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ไม่ให้เกิดการเสื่อมศรัทธา ต้องร่วมกันแก้ไขทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ”ที่ปรึกษาของนายกฯ กล่าว

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img