นายกรัฐมนตรีเผยไม่หวั่นจะมีการคว่ำร่างงบประมาณ 68 มั่นใจพรรคร่วมรัฐบาลเหนียวแน่น ยืนยันไม่เคยพูดปรับ พปชร.ออกจากพรรคร่วม ย้ำยึดประโยชน์ประชาชนมากกว่าการเมือง
เมื่อว้นที่ 21 มิ.ย.67 อาคารรัฐสภา ถนนสามเสน เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านจะตั้งธงคว่ำร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 ว่า เรื่องของการเมืองคือเรื่องของการเมือง เวทีสภาฯเป็นเวทีให้ทุกฝ่ายมานำเสนอ ทั้งข้อท้วงติงและข้อเสนอแนะ สำหรับเรื่องของการคว่ำร่างนั้น อยากให้นึกถึงประโยชน์ของพี่น้องประชาชนเป็นสำคัญ ร่างฯนี้ นอกจากรัฐบาลที่จะใช้เงิน ก็ยังเป็นประโยชน์กับประชาชน โดยตนเองเข้าใจว่ารัฐบาลมี 314 เสียง ถ้ารวมกันก็เหนียวแน่น คิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไร
ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวการปรับพรรคพลังประชารัฐออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล จะส่งผลต่อเสียง สส.ที่จะลงมติผ่านร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 หรือไม่ นายกฯ ปฏิเสธว่า ยังไม่ได้พูด และยังไม่เคยคุยว่าจะปรับ ยืนยันกระแสข่าวที่ออกมาไม่ได้มาจากตนเอง เพราะไม่ได้พูดอะไรเลย ทุกวันนี้มีการพูดคุยกันดีอยู่
ส่วนจะมีการปรับตามที่เป็นกระแสข่าวหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ถ้าอยู่ครบสี่ปีจะไม่ปรับก็เป็นไปไม่ได้ ขออย่าคาดเดาตรงนั้น เพราะยังมีเรื่องอื่นที่สำคัญกว่ามาก ช่วงนี้ยังมีเรื่องสำคัญอีกเยอะ ทั้งเรื่องงบประมาณ 2568 ก็ต้องโหวตให้ผ่าน รวมถึงปัญหาของพี่น้องประชาชน รวมถึงการจัดพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ซึ่งเราควรช่วยกันตรงนี้จะดีกว่า
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองหรือไม่ว่าการปล่อยข่าวออกมาเพื่อสร้างกระแสความสับสนและสั่นคลอนในพรรคร่วมรัฐบาล นายกฯ กล่าวว่าไม่ทราบว่าข่าวมาจากไหน แต่คนที่จะจรดปากกาคือตนเอง ซึ่งย้ำว่าไม่มีอะไรขอดูเรื่องปัญหาบ้านเมืองเป็นหลักดีกว่า และควรเล่นการเมืองให้น้อยลงหน่อยดีกว่า ส่วนจะถือเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับพรรคประชารัฐหรือไม่ นายกรัฐมนตรีมองว่าเป็นการให้ความมั่นใจกับประชาชนมากกว่า เพราะเราเอาพี่น้องประชาชนเป็นหลัก
ส่วนการที่พรรคพลังประชารัฐ เป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงรับประทานอาหารพรรคร่วมรัฐบาลนั้น นายกฯ กล่าวว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ จะเป็นผู้นัดหมาย ซึ่งตนไม่ทราบว่าจะเป็นวันไหน แต่ก็พร้อมเสมอ เพราะช่วงนี้ไม่มีเดินทางไปปฎิบัติภารกิจที่ต่างประเทศ แต่จะลงพื้นที่ต่างจังหวัดจำนวนมาก รวมถึงการประชุมประชุมครม.สัญจร โดยหลังการประชุมครม.สัญจร ก็คาดว่าจะมีช่วงว่าง เพราะไม่ได้ติดภารกิจใด