“อนุทิน” เตรียมชงกฎหมายให้ต่างชาติถือสิทธิคอนโด 75 % นานถึง 99 ปี จ่อเสนอต่อ ครม.เร็ว ๆ นี้ ยันไม่เอื้อประโยชน์นายทุน มีแต่ประชาชนได้ประโยชน์
วันที่ 21 มิ.ย.2567 ที่รัฐสภา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการถือครองกรรมสิทธิห้องชุดของชาวต่างชาติจาก 49% เป็น 75% ว่า มีสองเรื่องคือกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ได้สั่งการมา เรื่องของทรัพย์อิงสิทธิ และกรรมสิทธิการถือครองห้องชุดโดยชาวต่างชาติ ที่เรียกว่า พ.ร.บ.อาคารชุดฉบับแก้ไข ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติรับทราบข้อสั่งการ และสั่งการมายังกระทรวงมหาดไทย ซึ่งวันนี้คาดว่าเรื่องน่าจะถึงสำนักงานของตนแล้ว การยกร่างของกรมที่ดิน ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ต่อเนื่องกันมาไม่ได้เป็นเรื่องยากอะไร สำหรับสาระสำคัญของทรัพย์อิงสิทธิ คือเพิ่มจาก 50:50 ปี เป็น 99 ปี จริง ๆ ก็เหมือนกัน เพราะ กฎหมายเดิมให้ถือครอง 50 ปีและสามารถต่อการถือครองได้อีก 50 ปี ดังนั้นถือเป็นการทำให้ยั่งยืนสร้างความมั่นใจให้กับผู้ที่มาลงทุน ส่วนการถือครองอาคารชุดโดยชาวต่างชาติ 49 % เพิ่มเป็น 75 % บางสิทธิส่วนที่เกิน 49 % ต่างชาติอาจไม่ได้รับสิทธิบางอย่าง แต่สิทธิในการโหวต และอีกหลายอย่าง ยังเป็นของคนไทยอยู่ สิ่งที่จะได้ตามมาคือจะขายอาคารชุดได้มากขึ้น ผู้ที่เป็นผู้ประกอบการก็จะสามารถที่จะมีกำลังซื้อไม่ได้มีเพียง supply แต่มี demand ด้วย
“ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการเอื้อให้กับเอกชนบางราย หากจะพูดเช่นนี้ก็สามารถโยงได้ทุกเรื่อง ย้ำเรื่องของสิทธิการคุ้มครองปกป้องประโยชน์ของคนไทยจะไม่มีส่วนไหนเสียหายเลย มีแต่เรียกเงินเข้าประเทศ โดยหากศึกษากฎหมายนี้อย่างละเอียด ประเทศไทยมีแต่ได้ไม่มีอะไรที่จะเสีย”นายอนุทิน กล่าว
รมว.มหาดไทย กล่าวอีกว่า สำหรับร่างกฎหมายนี้ได้ยกมาก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งตนเองสั่งวันนี้และเสร็จเมื่อวาน โดยกระทรวงมหาดไทยได้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่หารือกับนายกรัฐมนตรีแล้ว พร้อมขออย่ามองว่า เอื้อประโยชน์นายทุน แต่ให้มองถึงคนไทย เรื่องนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทำ สมัยมีวิกฤตต้มยำกุ้งปรับอัตราส่วนภาษีด้านอสังหาริมทรัพย์ ก็ได้มีการปรับลดลง ซึ่งบริษัทอสังหาริมทรัพย์ในประเทศประเทศไทยมีหลายบริษัท และมีการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ ยิ่งเมื่อเข้ามาและมีข่าวดีก็ยิ่งมีโครงการเพิ่มมากขึ้น ทำให้มีความเจริญขยายออกไปมากขึ้น ที่ดินก็มีราคาสูงขึ้น ซึ่งคนไทยก็จะได้ประโยชน์ เมื่อมีโครงการเพิ่มมากขึ้น market cap ของบริษัทก็เพิ่มสูง ก็จะเป็นการเพิ่มความมั่งคั่งของประเทศไทย
“ดังนั้นขอให้คิดเป็นบวก ยอมรับว่ามีจุดด้านลบแต่จุดลบเมื่อเทียบกับการเป็นบวกห่างกันมาก ก็ต้องเฝ้าระวังจุดที่เป็นลบ เช่นบางมาตรการเกินร้อยละ 49 % ห้ามการโหวต จะถือครองสิทธิเท่าไหร่ก็ห้ามโหวต ก็โหวตไม่ได้ยังคงให้อยู่ที่ 49 % ดังนั้นจึงไม่มีปัญหาใด ๆ คนไทยสามารถที่จะกำหนดกฎเกณฑ์ต่างๆ ในอาคารชุด โดยจะนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีโดยเร็วที่สุด และจะเสนอ ครม.เห็นชอบในหลักการ จากนั้นจะรับฟังความเห็นจากหน่วยงานต่าง ๆ พร้อมรับฟังความเห็นประชาชน ซึ่งต้องเป็นไปตามขั้นตอนไม่ใช่อยากจะทำเอง ดังนั้นไม่ได้เอื้อประโยชน์ใครอย่างแน่นอน แต่เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับประชาชน และประเทศไทย”นายอนุทิน กล่าวว่า