วันศุกร์, พฤศจิกายน 22, 2024
spot_img
หน้าแรกNEWS“ทวี”แจงปม“บุ้ง”นอนหลับปกติก่อนสิ้นใจ เปิดโอกาสญาติยื่นหลักฐานหากไม่ได้รับความเป็นธรรม
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“ทวี”แจงปม“บุ้ง”นอนหลับปกติก่อนสิ้นใจ เปิดโอกาสญาติยื่นหลักฐานหากไม่ได้รับความเป็นธรรม

‘ก้าวไกล’ ยังข้องใจปมเสียชีวิตของ ‘บุ้ง’ บี้ถามสาเหตุ-เวลาที่แท้จริง ด้าน ‘รมว.ยุติธรรม’ เผย ‘คกก.สอบสวน’ ยืดเวลาออกไปอีก30วัน สรุปความเห็นเบื้องต้น ‘ไร้ร่องรอยทำร้ายร่างกาย – วงจรปิดพบนอนหลับปกติก่อนสิ้นใจ’ ยัน‘ราชทัณฑ์’ ดำเนินการตามมาตรฐานสากล-การแพทย์ ‘กระบวนการทำสำนวนชันสูตรศพ’ เปิดโอกาสญาติยื่นหลักฐานเพิ่มเติม ขอรอศาลฯชี้ขาดเป็นที่สุด

วันที่ 4 ก.ค.2567 เวลา 11.00 น. ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาฯ ที่มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่2 ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสด โดยน.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.กทม. พรรคก้าวไกล ถามรมว.ยุติธรรม กรณีการเสียชีวิตของน.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือบุ้ง แกนนำกลุ่มทะลุวัง เมื่อวันที่14 พ.ค.ที่ผ่านมา ยังอยู่บนความคลุมเครือ กระบวนการรักษาชีวิตไม่ชัดเจนในระหว่างถูกฝากขังในคดีมาตรา112 ภายใต้การดูแลของกรมราชทัณฑ์ว่า กรณีการเสียชีวิตของบุ้ง เป็นข้อบ่งชี้ได้ชัดมากว่ามาตรฐานการดูแลผู้ป่วยของกรมราชทัณฑ์มีปัญหาแน่นอน ตนไม่แปลกใจกับเคสนี้ที่มีการใช้สิทธิประกันตัวด้วยปัญหาสุขภาพ ที่ตนเคยคิดว่าสิทธิดังกล่าวใช้ได้กับทุกคน แต่กรณีของบุ้งแตกต่างออกไป สะท้อนให้เห็นถึงสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานของเรามีปัญหา ตนจึงอยากถามว่าสาเหตุการเสียชีวิตของบุ้งที่แท้จริงคืออะไร ในกระบวนการกู้ชีพเพราะเหตุใดจึงไม่มีการใช้เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ หรือ AED เวลาการเสียชีวิตที่แท้จริงคือเวลาใด คณะกรรมการที่ทางกระทรวงยุติธรรมตั้งขึ้นมาสอบสวนได้อะไรบ้าง กรมราชทัณฑ์จะมีการรับผิดชอบอย่างไร

ด้านพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ชี้แจงว่า การเสียชีวิตของบุ้ง เป็นการเสียชีวิตในระหว่างการควบคุมของเจ้าพนักงาน เป็นเงื่อนไขหนึ่งที่ต้องมีการทำสำนวนชันสูตรพลิกศพ โดยให้อัยการเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน พร้อมด้วยแพทย์ที่ไม่ใช่ของกรมราชทัณฑ์ ซึ่งเมื่อชันสูตรพลิกศพแล้ว กระบวนการทำสำนวนทั้งหมด จะต้องเปิดโอกาสให้ญาติพี่น้อง หรือทนายความเข้าร่วมทั้งกระบวนการ สามารถเพิ่มพยานในชั้นการพิจารณาของศาลได้ ทั้งนี้เท่าที่ทราบสาเหตุการเสียชีวิตของบุ้ง ทางสาขานิติเวช โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ระบุว่า เกิดจากการเสียสมดุลเกลือแร่ในเลือดร่วมกับโรคหัวใจโต โดยกรณีนี้คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง จำนวน8ราย ที่ตั้งโดยกระทรวงยุติธรรม ได้ขยายเวลาการสอบสวนออกไปอีก30วัน แต่คณะกรรมการฯได้ทำความเห็นเบื้องต้นออกมาว่า เป็นการเสียชีวิตตามธรรมชาติ ไม่ปรากฎร่องรอยการถูกทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด อ้างอิงจากใบมรณบัตร และการตรวจพิสูจน์จากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ ประกอบกับกล้องวงจรปิดในคืนวันเกิดเหตุ พบว่า บุ้งได้นอนหลับพักผ่อนเป็นปกติ ภายในฝ่ายปกครองของผู้ต้องขังหญิง

รมว.ยุติธรรม กล่าวต่อว่า จากนั้นในช่วงเช้าเวลา06.12น. ของวันที่14พ.ค. บุ้งได้ลุกขึ้นมานั่งที่เตียงผู้ป่วย เริ่มคว่ำหน้าลง และมีการชักกระตุก เจ้าหน้าที่จึงได้กดกริ่งและแจ้งผู้ควบคุมเข้าไป จนสรุปเห็นควรส่งให้แพทย์มาร่วมกันดำเนินการ ถ้าถามว่าบุ้งเสียชีวิตที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ หรือโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ ในรายงานระบุว่าเสียชีวิตที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ แต่ในระหว่างการช่วยยื้อชีวิตอาจเป็นปรากฎการณ์เหมือนการเสียชีวิตแล้ว

“ขอให้เชื่อมั่นว่า ตามมาตรา150ของการทำสำนวนชันสูตรพลิกศพ เราเปิดโอกาสให้สามี ภรรยา บุพการี ผู้สืบสันดาน ผู้แทนโดยชอบธรรม ผู้อนุบาล ญาติของผู้ตาย สามารถยื่นพยานหลักฐานเพิ่มเติมต่อศาลฯได้ ยืนยันว่าการดำเนินการของกรมราชทัณฑ์เป็นไปตามวิชาชีพ ตามมาตรฐานสากล ตามหลักทางการแพทย์ ทั้งนี้รายละเอียดอย่างเป็นทางการขอให้รอคำสั่งจากศาลฯที่ถือเป็นที่สุด และมีความเที่ยงธรรม” รมว.ยุติธรรม กล่าว

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img