วันพุธ, กันยายน 18, 2024
spot_img
หน้าแรกHighlight‘หมอเปรมศักดิ์’ไม่แย่งชิงเก้าอี้‘ปธ.วุฒิฯ’ ปูดมีดีลเสนอผลประโยชน์เพียบแต่ไม่สน
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

‘หมอเปรมศักดิ์’ไม่แย่งชิงเก้าอี้‘ปธ.วุฒิฯ’ ปูดมีดีลเสนอผลประโยชน์เพียบแต่ไม่สน

White Senate! “หมอเปรมศักดิ์” ประกาศตัวเป็นแกนนำผุดกลุ่ม “สว.สีขาว” คนละขั้วกับ “สว.พันธุ์ใหม่” ยันทำงานเพื่อปชช. ไร้การเมืองครอบงำ ลั่นไม่แก่งแย่งชิงตำแหน่ง “ปธ.วุฒิ” ปูดมีเพียบดีลเสนอผลประโยชน์ แต่ไม่สน จิ๊บจ๊อย ผ่านมาหมดแล้ว เงินไม่ตายก็หาใหม่ได้ แซะคุณสมบัติ “ประมุขสภาสูง”ไม่เหมือนนั่งประธานประชุมทหาร-หน่วยราชการ เหน็บ “สภาสูงชุดเก่า” ความหลากหลายน้อยมีแต่พรึ่บๆ ไร้ข้อแตกต่าง

เวันที่ 12 ก.ค.2567 เวลา 11.30 น.ที่รัฐสภา นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกวุฒิสภา(สว.)ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าแสดงตัวเป็นสมาชิกวุฒิสภา ต่อสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ถึงกรณีการตั้งกลุ่มสว.สีขาวว่า กลุ่มตนคือสว.สีขาวไม่ใช่กลุ่มของนางนันทนา นันทวโรภาส สว. เขาจะเรียกตัวเองว่าสว.พันธุ์ใหม่ คนละพันธุ์กัน กลุ่มตนเป็นผู้สมัครสว.จากทั่วประเทศแล้วมาเจอกันแต่ละคนก็ฝ่ามรสุมกันมาได้คะแนนตั้งแต่ 8-20 คะแนนจนได้เป็นสว.ไม่ได้พรรคใด สีใด หรือพรรคการเมืองใดบ่งการ สนับสนุนทั้งสิ้น มาด้วยความรักในอุดมการณ์เพื่อต่อสู้ทางการเมืองอย่างอิสระจริงๆ ไม่ว่าจะสีอะไร เราไม่มีที่มา ส่วนใครมีที่มาอย่างไรตนไม่ติดยึด แต่อยากเรียกร้องให้สลายสีมาทำงานเพื่อประชาชน เพราะรัฐธรรมนูญก็บอกว่าอยู่แล้วว่าสว.ต้องอิสระ ปราศจากพรรคการเมือง ไม่ว่าสีใดก็ตาม สว.จะต้องร่วมกันฝ่าฝันเรื่องต่างๆในวุฒิสภาที่จะเริ่มต้นทำงานด้วยกันภายใน 5 ปี เราจะต้องสลายสีมาร่วมกันทำงาน นำเอาอุดมการณ์ ประสบการณ์ที่ทุกคนมีมาช่วยประเทศชาติ ฝ่าฟันในสิ่งต่างๆที่เราจะแก้ไขร่วมกันให้ดีที่สุด

เมื่อถามว่า ในกลุ่มมีการพูดคุยกันว่าจะชิงตำแหน่งประธานวุฒิสภาหรือไม่ นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องตำแหน่ง การช่วงชิง การแก่งแย่ง พวกเราไม่ประสงค์อย่างนั้น เพราะยังมีขั้นตอนกว่าจะรายงานตัวเสร็จ เปิดประชุมเลือกประธานวุฒิสภา ดังนั้นการช่วงชิงตำแหน่งไม่น่าจะเป็นภาพลักษณ์ที่ดีต่อสว.ชุดนี้ ให้เป็นไปตามระยะเวลาที่เหมาะสมจะดีกว่า สำหรับคนที่เป็นตัวเก็งหลายครั้งแม้กระทั่งสภาผู้แทนราษฎรตัวเก็งกลายเป็นตัวเกร็งมาแล้วหลายครั้ง เพราะฉะนั้นอย่าไปเก็งกันมากเดี๋ยวจะเกร็ง

นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับกลุ่มสีขาวไม่จำกัดส่วนสูง น้ำหนัก แต่จำกัดว่าเข้ามาทำงานเพื่อประชาชน และเน้นว่าระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน บางท่านคิดว่าอาจจะถูกปรามาส อาจจะถูกด้อยค่าอย่างนั้นอย่างนี้ ตนคิดว่าทุกท่านมีค่าและสามารถทำประโยชน์ให้กับประชาชนได้ เพราะฉะนั้นความเป็นสีขาวเราต้องฝ่าฟันด้วยกันไม่ได้เน้นว่าจะต้องมีปริมาณเท่าไหร่ เพราะสภาฯที่ตนเคยเป็นมา หนึ่งคนก็สามารถพาป่วนได้ อย่าไปมองว่าต้องมีจำนวน 100 กว่าคน จำนวน 100 กว่าคนอาจจะเดินงานสภาไม่ได้ก็ได้ ถ้าขาดความร่วมมือของสมาชิก ดังนั้นกลุ่มสีขาวให้รอดูการประชุมเวลาลงมติดีกว่ามีใครบ้าง

“กลุ่มผมเป็นการร่วมกันทางอุดมการณ์ไม่ใช่ร่วมกันเพื่อต่อรองตำแหน่ง หรือต่อรองผลประโยชน์ เพราะฉะนั้นชื่อที่มีซ้ำกับกลุ่มเราหรือเปล่า อันนั้นแสดงว่าไม่ใช่สีขาว ไม่ใช่สีขาว จะเป็นสีอะไรก็ไม่รู้”นพ.เปรมศักดิ์

เมื่อถามว่า การมีก๊วน มีกลุ่มทำให้การทำงานลำบากหรือไม่ นพ.เปรมศักดิ กล่าวว่า ลำบาก แต่ว่ามีความจำเป็นในระบอบประชาธิปไตย ที่จะมีความเห็นต่าง แต่การเป็นกลุ่มขออย่างเดียวอย่ามีผู้บงการอยู่เบื้องหลัง อย่ามีเงาทมึนมาสั่งว่าจะต้องเอาองค์กรอิสระคนนี้ จะต้องเอากฎหมายแบบนี้นะ ถ้าสวนกระแสของประชาชนถึงจะมีปริมาณเท่าไหร่ ก็จะอยู่ไม่ได้

เมื่อถามว่า ขณะนี้มีการส่งคนมาทาบทามสว.และให้สิทธิประโยชน์เงินเดือน รถ คนติดตาม นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวว่า ตนก็มีคนไลน์มาบอก โทรศัพท์มาบอก แต่ตนบอกว่าตังตนมีเยอะ ไม่ต้องการเป็นลูกน้องใคร ตนเป็นลูกน้องมาแล้ว 6 พรรค พรรคการเมืองไหนมีกฎเหล็ก มีการข่มขืนใจสมาชิกพรรคทั้งนั้น ไม่งั้นเขาไม่ลงทุนหรอก ถ้ามีสมาชิกตัดสินไม่ตรงเขาก็มีอันเป็นไปทางการเมือง ขับออกจากพรรค อาจจะเป็นแกะดำ เหมือนตนต้องฝ่ามรสุมออกมาบวชเพราะกฎเหล็กของพรรค ดังนั้นน่าจะขจัดเงาทมึนด้วยการร่วมกันทำงานอย่างเป็นอิสระ ถ้าไม่รู้จะทำอย่างไรก็เอาริดแบรนด์ไปสวม ค่อยๆสลายเงาทมึน

เมื่อาถามว่า มีการยื่นผลประโยชน์อะไรให้หรือตำแหน่ง นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวว่า “มีเยอะ แต่ไม่อยากระบุว่ามีอะไรบ้าง แต่ไม่รู้ว่าคนอื่นเห็นจะหวั่นไหวหรือไม่ แต่ทราบว่ามีการมาดักรอตรงจุดมารับใบรับรองจาก กกต.บางคนก็เปลี่ยนใจก็มี ผมคิดว่าการเปลี่ยนใจจากอิสระไปอยู่ในค่าย ผมคิดว่าต้องคิดให้ดีบางทีก็ไม่คุ้มเพราะอยู่ 5 ปีเป็นอิสระ ทำงานอย่างมีศักดิ์ศรี ศักดิ์ศรีกินไม่ได้แต่ทำให้เราภูมิใจได้ เมื่อ 5 ปีผ่านไปทำอย่างไรให้ลงจากเวทีนี้อย่างมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ผมคิดว่าเงินเหล่านี้ไม่ตายหาใหม่ได้ ไม่มีอะไรเลย จิ๊บจ๊อยมากสำหรับผม รถอัลพาร์ดผมก็มี ผมมีความพร้อมทุกอย่างอย่ามาอ่อยเลย ผมผ่านมาแล้วทุกเรื่อง การที่มีปลอกคอหรืออยู่ในค่าย เขาลงทุนเท่านี้เขาคาดหวังกับเราเยอะกว่านี้ จำเป็นอย่างยิ่งเราจะต้องประกาศไปเลยเราไม่มีสังกัด เพราะรัฐธรรมนูญเขียนไว้ต้องปราศจากพรรคการเมือง เมื่อออกมาแล้วจะเข้าไปทำไม จะเอามือไปจองจำกับเขาอีกเหรอ ผมคิดว่าเราเป็นอิสระกันเถอะ ริสแบรนผมมีอีกเยอะ ตอนนี้มารับ 10 กว่าคนแล้ว”

เมื่อถามว่า คิดว่าสว.กลุ่มอิสระในอนาคตทางการเมืองอีก 5 ปีจะถูกกลืนหรือไม่ นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวย้อนว่า ทำไมไม่ถามว่าเขาจะกลืนเขาบ้าง เพราะความเป็นอิสระดี ใครก็ใช้นิวฟรีด้อม ไม่มีใครอยากไปกักขังหรอก ดังนั้นใน 5 ปีจะต้องมีวิกฤต ผมไม่ได้ให้ร้าย อาจะมีวิกฤตบางอย่างทำให้สมาชิกเห็นว่าการเป็นอิสระดีกว่าถูกบังคับอยู่ในค่ายใดค่ายหนึ่ง

เมื่อถามถึงสว.กลุ่มอิสระต่างๆ การทำงาน 5 ปีต่อจากนี้ในอนาคต จะถูกกลุ่มการเมืองกลืนเข้าปหรือไม่ นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวย้อนว่า ทำไมไม่ถามว่าจะกลืนเขาบางล่ะ เพราะความเป็นอิสระมันดี ใครก็ใช้นิว ฟรีด้อม ฉะนั้นไม่มีใครใช้การกักขัง อยากจะมีอิสระทั้งนั้น ใน 5 ปีตนว่าจะต้องมีวิกฤต ตนไม่ได้ให้ร้าย แต่อาจมีวิกฤตบางอย่างที่ทำให้เห็นว่าการเป็นอิสระ ดีกว่าการถูกจองจำให้อยู่ในค่ายใดค่ายหนึ่ง วันเวลาเปลี่ยนไปเยอะ ตนห่างการเมืองมา 18 ปี เห็นกล้องจากสื่อเยอะ ก็ตกใจ แต่ไม่เป็นไร เพราเอางานเป็นงาน ถ้าสว.กลุ่มสีขาว อภิปรายอย่างมีระบบ มีเหตุผล ถึงแม้ลงมติแพ้ ก็ชนะใจประชาชน ค่าตอบแทนที่รัฐสภาให้กับสมาชิกคุ้มอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องไปรับลาภที่ไม่ควรได้จากที่ใดอีก

เมื่อถามว่า คนที่จะมาเป็นประธานวุฒิสภาจะต้องมีคุณลักษณะอย่างไรบ้าง นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวว่า ตนคิดไม่เหมือนคนอื่น อันดับแรกต้องสุขภาพดี ถ้าสุขภาพไม่ไหว เดินต้องต่อเท้าตัวเอง นั่งอยู่บนบัลลังก์ได้ยินบ้างไม่ได้ยินบ้าง การประชุมจะมีคุณภาพได้อย่างไร บางคนเป็นแล้ว 3 วันดี 4 วันไข้ จะเป็นได้อย่างไร ตนถามว่า อยากเห็นประธานวุฒิฯ เส้นเลือดฝอยในสมองแตกหรือไม่ ดังนั้นต้องเอาสุขภาพไว้ก่อน ที่บอกว่าโผคนนั้น โผคนนี้ ก็ฝากให้ไปเช็คสุขภาพให้ดีก่อน ถ้ายังไม่ดีพออย่ามาเสี่ยง เพราะงานวุฒิสภาเป็นงานที่หนัก ต้องใช้ความคิด ใช้เวลา ตรากตรำพอสมควร ต่อมาคือความรู้ความสามารถ แนวทางการทำงาน ตนมองว่าเสียงข้างมาก อาจจะมองว่าตัดสนิปัญหาทุกปัญหาแต่ไม่ใช่ว่ามีเสียงข้างมากแล้วจะมาไล่ทุบให้ได้ตามใจทุกอย่าง บางทีทุบไปอาจถูกบูมเมอแรงสะท้อนกลับได้

“ผมจึงอยากเห็นประธานวุฒิฯที่เป็นกลาง ถ้าไม่สังกัดกลุ่มใดยิ่งดี มาแบบอิสระสีขาวได้ยิ่งดี ไม่ต้องคำนึงถึงใคร นอกจากเจ้านายของเราคือประชาชน สิ่งนี้สำคัญกว่าทุกอย่าง ประสบการณ์ทำงานแทบไม่ต้องกล่าวถึง บางคนบอกว่าต้องจบกฎหมายหรือไม่ ผมเป็นสส.มา 4 สมัย ผมเป็นออกแบบกฎหมาย ไม่จำเป็นต้องจบดุษฎีบัณฑิตด้านนิติศาสตร์ เพราะทำงานการเมือง เป็นการทำงานทางความคิด ออกแบบกฎหมาย และนำไปใช้กับประชาชนทั่วประเทศ แต่ผมอยากมองถึงความรอบรู้ในทุกๆด้านมากกว่า เช่น ถ้าประธานวุฒิฯไปต่างประเทศจะไปเจรจาอย่างไร จะมีวุฒิภาวะที่จะตอบคำถามเกี่ยวกับประเทศไทยอย่างไร และอยู่ในประเทศดูแลการประชุมได้ดีหรือไม่ ผมคิดว่าการดูแลการประชุมไม่เหมือนกับการเป็นประธานในที่ประชุมกองทัพ หรือไม่เหมือนกับการเป็นประธานที่ประชุมในหน่วยราชการ เพราะประชุมแต่กับลูกน้อง แต่ 200 เซียน มีคนหนึ่งที่อภิปรายแล้วท่านควบคุมไม่ได้ ท่านจะแก้ปัญหาอย่างไร ผมว่าตรงนี้สำคัญกว่า ถ้าไม่มีทักษะในการประชุม ประธานจะเจ๊งเอาง่ายๆ ผมจึงเน้นหนักในทักษะการทำงานระบบรัฐบาล” นพ.เปรมศักดิ์ กล่าว

เมื่อถามว่า ประธานวุฒิสภาจะเข้ามาสลายกลุ่มก๊วนได้หรือไม่ นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวว่า ตนว่าอยู่ที่ที่มา ถ้ามาจากกลุ่มอยู่แล้วเขาไม่สลายหรอก มีแต่เพิ่มปริมาณมากขึ้น เดี๋ยวนี้ได้ยินว่ามีดูดเพิ่มขึ้นมาอีก มันน่าจะมากเกินพอดี อย่าลืมว่าการที่รับประทานอาหารที่มากไปก็ท้องแตก ไม่เป็นผลดี ดังนั้นการเป็นประธานที่ดี คือการไม่มีก๊วนดีที่สุด จะได้ไม่ต้องมีข้อเคลือบแคลงว่ามาเพื่อปกป้องใคร

เมื่อถามว่า ประเมิน สว.ชุดนี้ 5 ปีจะไปรอดหรือไม่ นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวว่า รอด คิดว่าสว. 200 คน ถ้าดูแล้ว มีคนคุณภาพทั้งนั้น 200 เซียนอย่างมองว่าเขาจบอะไรมา เพราะตอนสมัครไม่ได้ระบุว่าต้องจบปริญญา แต่ระบุว่าให้มีประสบการณ์ในอาชีพ 10 ปีขึ้นไป เมื่อเข้ามาเป็นสว.แล้ว เขาย่อมเรียนรู้ได้ หรือแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างสมาชิกด้วยกัน เพราะฉะนั้นตนว่าไปรอด ที่สำคัญคือมาจากทุกสาขาอาชีพที่อยู่ในประเทศไทย ทำให้การกลั่นกรองกฎหมายรอบคอบ มีรสชาติมากขึ้น สว.ชุดที่แล้ว มีไม่กี่อาชีพ ได้ยินแต่เสียงพรึ่บๆ การอภิปรายไม่มีข้อแตกต่างอะไรเลย คงหมดยุคไปแล้ว ก็ฝากว่า อย่าเพิ่งมองว่า คนที่เข้ามามีความรู้เท่าใด มาจากอาชีพอะไร ให้มองว่าดอกไม้ต้องมีหลายสี ดอกไม้ถึงจะมีสีเดียว ต่อให้เป็นดอกกุหลาบ มีแค่สีชมพูก็ไม่ได้สวยเสมอไป อาจมีดอกหญ้าบ้างก็แซมกันไปจะสวยงามมากกว่าดอกไม้ที่มีสีเดียว

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img