วันอาทิตย์, กันยายน 22, 2024
spot_img
หน้าแรกHighlight“อังคณา”วอน“สว.สีน้ำเงิน”ใจกว้างให้โอกาส “พลเรือน-ผู้หญิง”นั่งเก้าอี้ประมุขสภาสูงบ้าง
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“อังคณา”วอน“สว.สีน้ำเงิน”ใจกว้างให้โอกาส “พลเรือน-ผู้หญิง”นั่งเก้าอี้ประมุขสภาสูงบ้าง

‘อังคณา’ ไม่ปฏิเสธร่วมก๊วน ‘สว.พันธุ์ใหม่’ ขอ ‘สายสีน้ำเงิน’ ใจกว้าง-เปิดโอกาส ‘เสียงส่วนน้อย’ เข้ามามีบทบาททำงาน รับอยากเห็นพลเรือน-ผู้หญิง นั่ง ‘ประมุข-รองประมุขสภาสูง’

เมื่อวันที่ 12 ก.ค.67 เวลา 14.30 น. นางอังคณา นีละไพจิตร สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้ารายงานตัวเป็น สว. กรณีมีการถูกทาบทามขอคะแนนให้เลือกประธานวุฒิสภาแล้วหรือไม่ว่า ไม่มีเลย ส่วนตัวอยากสนับสนุนให้มีประธาน หรือรองประธานวุฒิสภา เป็นผู้หญิงสัก 1 คน เนื่องจากตนมองเรื่องความเสมอภาคทางเพศ ทางสส. ก็ไม่มีประธาน หรือรองประธานสภาฯ เป็นผู้หญิง ตนคิดว่าอย่างน้อย 1 ตำแหน่ง ก็มีความจำเป็นต้องเป็นผู้หญิง

เมื่อถามว่า จะเสนอตัวเองเลยหรือไม่ นางอังคณา กล่าวว่า โดยหลักการแล้ว ใครก็ได้ ทุกคนที่เข้ามามีศักยภาพทำหน้าที่ได้ ถ้าหากว่ามีคนเสนอตัว ก็สามารถทำได้

เมื่อถามถึงกรณีที่ชื่อถูกโยงไปอยู่กลุ่มสว.พันธุ์ใหม่ ของนางนันทนา นันทวโรภาส สว. ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร นางอังคณา กล่าวว่า กลุ่มของนางนันทนา ก็มีเพื่อนๆหลายคน เป็นกลุ่มที่เคยทำงานภาคประชาสังคม หรืออยู่ในวงการเดียวกันมาก่อน ด้วยความสัมพันธ์ส่วนตัวทั้งหมดก็คือรู้จักกันมาก่อน และมาร่วมตัวกันประมาณ 20 กว่าคน

เมื่อถามว่า มีชื่อประธานวุฒิสภาในใจแล้วหรือไม่ นางอังคณา กล่าวว่า ยัง แต่ส่วนตัวอยากเห็นประธานวุฒิสภา เป็นพลเรือน และอยากเห็นว่าเป็นผู้หญิง

เมื่อถามถึงชื่อสว.ที่มีความเชื่อมโยงกับสายสีน้ำเงิน นางอังคณา กล่าวว่า เราที่มาจากคนที่ไม่มีกลุ่ม หรือมีคนหนุนหลัง ก็อยากขอโอกาสจากคนที่เป็นเสียงส่วนน้อยได้เข้ามามีบทบาทด้วย ก็ต้องลองดูว่าสมาชิกทั้งหมดที่เป็นกลุ่มก้อนใหญ่ จะเปิดโอกาส หรือใจกว้างให้กับคนส่วนน้อยได้มากน้อยแค่ไหน

เมื่อถามว่า ถ้าหากเป็นบุคคลที่มียศ “พล.อ.” มานั่งเป็นประธานวุฒิสภา จะรู้สึกตะขิดตะขวงใจหรือไม่ นางอังคณา กล่าวว่า เราไม่ค่อยเห็นคนที่เคยมาจากหน่วยงานความมั่นคง เข้ามาเป็นประธานวุฒิสภา ดังนั้นตนก็อยากจะเห็นพลเรือนมากกว่า

เมื่อถามว่า ขณะนี้สว.แบ่งเป็นหลายกลุ่มหลายก๊วน ในอนาคตจะเป็นอุปสรรคต่อการทำงานร่วมกันหรือไม่ นางอังคณา กล่าวว่า เชื่อว่าไม่น่าจะเป็นอุปสรรค สุดท้ายก็คงต้องทำงานร่วมกัน แต่ก็ขอให้คนกลุ่มใหญ่เปิดใจรับฟังเสียงส่วนน้อยด้วย เพราะตัวเองก็เหมือนจะเป็นคนส่วนน้อย ถ้าหากการทำงานแบบประชาธิปไตยคือเคารพเสียงส่วนใหญ่ ก็อยากเห็นเสียงส่วนใหญ่มีมติอย่างมีเหตุมีผล ตามหลักการ ตามความเป็นจริง ถูกต้อง ชอบธรรม

เมื่อถามว่า มองว่าบุคคลที่เป็นตัวเต็งขณะนี้ที่ถูกเชื่อมโยงเป็นประธานวุฒิสภา จะเป็นคำตอบว่าการเมืองเข้ามาครอบงำสภาสูงได้หรือไม่ นางอังคณา กล่าวว่า มันก็ทำให้คิดได้ เช่นคนที่เคยใกล้ชิดสนิทกับพรรคการเมือง คงทำให้ชาวบ้านอดคิดไม่ได้ว่า น่าจะมีความเชื่อมโยง หรือมีความสัมพันธ์ในอนาคต ถ้าเป็นไปได้คนที่เป็นอิสระกลุ่มคนเล็กๆก็มีศักยภาพที่จะทำงานได้ ถ้าเปิดโอกาสได้

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img