“โรม” ชี้ “ทักษิณ” คัมแบ็คช่วยงานรัฐบาลเป็นเรื่องดี เตือนต้องอยู่ภายใต้กม.-กติกา ยัน”ฝ่ายค้าน” พร้อมตรวจสอบ เหน็บภาพลงพื้นที่รัฐมนตรีเดินตามกระทบภาพลักษณ์ “เศรษฐา” นายกฯตัวจริง-ตัวปลอม
วันที่ 16 ก.ค.67 เวลา 10.30 น.ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มีกระแสว่าอาจจะมาช่วยงานรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยหลังจากพ้นโทษ ว่าก็สามารถทำได้ตามกฎหมายเพียงแต่ในทางการเมืองเชื่อว่าจะมีฝ่ายที่คัดค้านอยู่แล้ว หากมีการตั้งขึ้นมาจริง ๆ และไม่ได้ขัดต่อกฎหมาย ซึ่งต้องดูแลรายละเอียดว่าทำได้มากน้อยแค่ไหน แต่หากนายทักษิณมีความรับผิดชอบบางอย่างอย่างเป็นทางการ และเป็นไปตามกฎหมาย ในแง่ของฝ่ายตรวจสอบ ก็พร้อมที่จะทำหน้าที่ ทั้งการใช้อำนาจ และการใช้งบประมาณต่าง สิ่งที่ควรมองคือบทบาทของนายทักษิณลงพื้นที่และมีรัฐมนตรีหลายคนเดินตาม ทำให้เกิดคำถามไม่รู้กี่รอบ และยังไม่ได้คำตอบที่ชัดเจนจากรัฐบาลว่า ใครคือนายกรัฐมนตรี บทบาทนี้จะทำให้สภาวะความเป็นผู้นำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ลดลงเรื่อย ๆ นายเศรษฐาต้องคิดเองว่าจะดำเนินการอย่างไร เพราะการที่รัฐมนตรีหลายคนเดินตามนายทักษิณไม่ส่งผลดีต่อนายเศรษฐา
เมื่อถามว่าในมิติทางการเมืองของนายทักษิณที่ลงพื้นที่ โดยเฉพาะบ้านใหญ่เป็นการส่งสัญญาณอะไรหรือไม่นั้น นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เรื่องนี้จะคิดอะไรก็คงต้องไปถามนายทักษิณ แต่สำหรับคนที่ติดตามการเมืองเป็นเรื่องที่ต้องคิดมากอยู่พอสมควร และปฏิเสธไม่ได้ว่าอาจเชื่อมโยงกับวาระทางการเมือง แต่สิ่งที่ตนเองให้ความสำคัญมากที่สุดในฐานะ สส. คือถ้าต้องมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายตกลงต้องคุยกับใคร หากเราใช้นายกฯ 2 คนอีกคนเป็นตัวจริง อีกคนเป็นตัวปลอมประเทศชาติจะมีปัญหาเรื่องของการบริหารราชการอย่างแน่นอน
เมื่อถามว่าการลงพื้นที่ของนายทักษิณจะส่งผลกระทบถึงพรรคก้าวไกลหรือไม่ ทั้งการเมืองท้องถิ่นและระดับชาติ นายรังสิมันต์ ระบุว่าเรื่องนี้ต้องว่ากันด้วยกติกาอยู่แล้ว แต่ยุคนี้ประชาชนอยากเห็นการเมืองที่มีเสถียรภาพ อยากเห็นการเมืองที่ไม่ได้เล่นละครกัน อยากเห็นการเมืองแบบตรงไปตรงมา ซึ่งพรรคก้าวไกลก็ทำมาโดยตลอด และได้รับเสียงตอบรับจากประชาชน หากรัฐบาลให้ตำแหน่งนายทักษิณอย่างเป็นทางการก็เป็นเรื่องดี เพราะนายทักษิณจะอยู่ภายใต้การตรวจสอบ แต่คำถามสำคัญสังคมไทยรู้สึกว่า นายเศรษฐาหรือนายทักษิณใครมีอำนาจมากกว่ากัน ส่วนเรื่องการแข่งขันทางการเมืองนั้น นายรังสิมันต์ ระบุว่า พรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกลก็ต้องแข่งขันกันอยู่แล้ว ในเรื่องการโน้มน้าวก็เป็นเรื่องธรรมดาของการเมือง แต่ในมุมมองตนเองคืออยากเห็นประเทศเดินหน้า พัฒนา แต่หากนายทักษิณประสงค์จะใช้อำนาจก็ต้องอยู่ภายใต้การตรวจสอบเช่นเดียวกัน