วันศุกร์, พฤศจิกายน 22, 2024
spot_img
หน้าแรกHighlight‘กกต.’สอบปมวุฒิฯ‘หมอเกศ’หลอกหลวง หากผิดจริงทั้งจำทั้งปรับ-ถอนสิทธิ 20 ปี
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

‘กกต.’สอบปมวุฒิฯ‘หมอเกศ’หลอกหลวง หากผิดจริงทั้งจำทั้งปรับ-ถอนสิทธิ 20 ปี

กกต.เร่งสอบ”หมอเกศ” ใช้วุฒิการศึกษาหลอกลวงให้ลงคะแนนเลือกเป็น สว. หลังสั่งรับ 2 คำร้องเป็นสำนวน ตั้งแต่ก่อนประกาศรับรอง หากผิดจริงทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 20 ปี

เมื่อวันที่ 17 ก.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีปัญหาวุฒิการศึกษาของน.ส.เกศกมล เปลี่ยนสมัย หรือ หมอเกศ สว.กลุ่ม 19 ผู้ประกอบวิชาชีพ ผู้ประกอบอาชีพอิสระมีรายงานในส่วนของ กกต.ขณะนี้พบว่า มีการรับ 2 คำร้องที่ขอให้ กกต.ตรวจสอบ ว่าการที่น.ส.เกศกมล ระบุประวัติการศึกษาว่าเป็นศาสตราจารย์ จบปริญญาเอกจาก California University ในใบเอกสารแนะนำตัวสมาชิกวุฒิสภา (สว.3) เข้าข่ายเป็นการกระทำหลอกลวง จูงใจให้บุคคลอื่นเข้าใจผิดในคุณสมบัติ ความรู้ความสามารถ หรือชื่อเสียงเกียรติคุณ เพื่อให้ผู้สมัครหรือผู้มีสิทธิเลือกลงคะแนนให้แก่ตนตามมาตรา 77(4) พ.ร.ป.ว่าด้วยกันได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา 2561 หรือไม่ เป็นสำนวนเพื่อดำเนินการตามระเบียบ กกต.ว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวนและวินิจฉัยชี้ขาด 2566 โดยเลขาธิการ กกต.มีคำสั่งรับเป็นสำนวนเมื่อวันที่ 1 ก.ค 67 และอีกคำร้อง กกต.มีมติสั่งรับเป็นสำนวนเมื่อวันที่ 5 ก.ค.67

ส่วนที่ กกต.ประกาศรับรองน.ส.เกศกมลให้เป็น สว.เมื่อวันที่ 10 ก.ค.ทั้งที่รับ 2 คำร้องดังกล่าวเป็นสำนวนแล้ว แหล่งข่าวจาก กกต. ระบุว่า เนื่องจากตามกฎหมายไม่ได้กำหนดคุณสมบัติของผู้สมัคร สว. ว่าต้องมีวุฒิการศึกษาระดับใด น.ส.เกศกมลจึงไม่มีประเด็นที่ถูกร้องเรื่องขาดคุณสมบัติ แต่เป็นการกล่าวหา ว่าข้อมูลประวัติการศึกษาในใบ สว.3 เป็นการหลอกลวงให้ลงคะแนนเลือก ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบ หาพยานหลักฐานมาพิสูจน์ โดยต้องประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหาตามที่ระเบียบกกต.กำหนด กกต.จึงประกาศรับรองน.ส.เกศกมลไปก่อน และขณะนี้กำลังเร่งสืบสวนไต่สวนตามคำร้อง

อย่างไรตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสว. 2561 มาตรา 77 กำหนดไว้ว่าผู้ใดกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้ (4) หลอกลวง บังคับ ขู่เข็ญ ใช้อิทธิพลคุกคาม ใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้บุคคลอื่น เข้าใจผิดในคุณสมบัติ ความรู้ความสามารถ หรือชื่อเสียงเกียรติคุณของผู้สมัครใด เพื่อจูงใจให้ผู้อื่นสมัครเข้ารับเลือก เป็นสมาชิกวุฒิสภา หรือถอนการสมัคร หรือกระทำการใด ๆ อันไม่ชอบด้วยกฎหมาย ให้ผู้นั้นหมดสิทธิ ที่จะเลือกหรือได้รับเลือก หรือเพื่อจูงใจให้ผู้สมัครหรือผู้มีสิทธิเลือกลงคะแนนหรือไม่ลงคะแนนให้แก่ผู้ใด ต้องระวางโทษจำคุก 1-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 20 ปี

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img