“เทพไท” ชี้ภาพ “ทักษิณ” ที่เขาใหญ่ เหยียบย่ำหัวใจคนไทยทั้งประเทศ ทำนายความคับแค้นของประชาชนที่มีขีดจำกัด สักวันหนึ่งจะระเบิด อาจจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอีกครั้ง
เมื่อวันที่ 23 ก.ค.67 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตสส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์เนื้อหาและภาพในหัวข้อ “ทักษิณ” ที่เขาใหญ่ เหยียบย่ำหัวใจคนไทยทั้งประเทศ…มีเนื้อหาว่า…ผมได้มีโอกาสไปทำบุญวันเข้าพรรษา ที่วัดชลประทานรังสฤษฎ์ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ได้พบกับแฟนคลับ แฟนเพลงและคอการเมืองหลายคน ได้พูดคุยกันถึงสถานการณ์บ้านเมืองที่เป็นอยู่ในขณะนี้ ซึ่งคนส่วนหนึ่งเคยร่วมการชุมนุมกับกลุ่ม กปปส.ในการขับไล่ ทำลายล้างระบอบทักษิณมา ตั้งแต่ยุครัฐบาลทักษิณจนถึงยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ได้เสียเสียสละทั้งเงินทองและเวลา ในการร่วมการเดินขบวนต่อสู้ในครั้งนั้น
ตอนนี้สถานการณ์บ้านเมืองเปลี่ยนไป เห็นคุณทักษิณกลับประเทศไทยอย่างเท่ๆ ไม่ติดคุกแม้แต่วันเดียว และคุณยิ่งลักษณ์ก็จะเดินทางกลับประเทศไทยมาเช่นเดียวกัน ทำให้คนเหล่านี้รู้สึกเจ็บปวดและเครียดแค้นอยู่ในใจ แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะบ้านเมืองตอนนี้อยู่ภายใต้การควบคุมของระบอบทักษิณอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว
เขาจึงตั้งคำถามแบบรัวๆ กับผมว่า ทำไมต้องปล่อยให้ทักษิณกลับประเทศไทยแบบเท่ๆ ใครอนุญาตให้ทักษิณกลับมาและกลับมาได้อย่างไร ไม่มีใครทำอะไรทักษิณได้เลยหรือ แกนนำมวลชนที่เคยต่อสู้กับระบอบทักษิณหายหน้าไปไหนหมด ทำไมไม่ออกมาแสดงความเห็นต่อสู้คัดค้านบ้าง ทำไมพรรคการเมืองที่อยู่กับพวกคนละขั้วกับคุณทักษิณ มาจับมือจูบปากตั้งรัฐบาลได้ ทำไมปล่อยให้ทักษิณลอยหน้าลอยตาเหยียบย่ำน้ำใจหัวใจคนไทยอย่างนี้
ผมคิดว่าความเจ็บปวดของมวลชนในครั้งนี้ ไม่ได้มีเฉพาะมวลชนกลุ่ม กปปส.หรือคนเสื้อเหลือง แต่มวลชนกลุ่ม นปช. หรือคนเสื้อแดง ก็เจ็บปวดเหมือนกัน แต่อาจจะเจ็บปวดน้อยกว่า เพราะคุณทักษิณและพรรคเพื่อไทยที่ฝ่ายตัวเชียร์ ได้เข้ายึดกุมอำนาจรัฐ เป็นแกนนำรัฐบาลและเป็นนายกรัฐมนตรีด้วย ในขณะที่มวลชนคนเสื้อเหลือง กลุ่มกปปส.นั่งดูตาปริบๆ เมื่อเห็นคุณทักษิณออกมาเคลื่อนไหวเย้ยฟ้าท้าดินแบบนี้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพของคุณทักษิณ ไปพักผ่อนที่เขาใหญ่ และตีกอล์ฟกลับแกนนำนักการเมือง และกลุ่มทุนใหญ่ด้านพลังงาน ท่ามกลางการห้อมล้อมของข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในบ้านเมือง มันยิ่งเพิ่มความเจ็บปวด และคับแค้นในหัวใจ มีหลายคนร้องเพลงด้วยความเจ็บปวดในใจว่า “ความคับแค้นครั้งนี้ จงแปรเปลี่ยนเป็นพลัง ให้กล้าแกร่ง ดุจดังพายุโหม เราจะลุกขึ้นสู้ เราจะยอมสู้ตาย แม้ชีวาจะวาย เราก็ยอมพลี”
ผมเชื่อว่าถ้าความเจ็บปวด ความคับแค้นของประชาชนที่มีขีดจำกัด เมื่อได้สะสมมากขึ้น สักวันหนึ่งก็จะระเบิดออกมา เราอาจจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองกันอีกครั้งหนึ่ง