“หมอเปรม” ร่วมลงชิง “ประธานวุฒิสภา” เผยขอเป็นทางเลือกที่ 3 ไม่มีเงาจากพรรคการเมืองใดมาทับทาบอยู่ข้างหลัง ขอเพื่อน สว. ลงมติโดยคำนึงผลในตอนลงจากตำแหน่งอีก 5 ปีข้างหน้า ยันไม่ใช่ไม้ประดับ ขอโชว์วิสัยทัศน์ว่าเรื่องที่เสนอทำได้จริง ไม่ต้องฝึกงาน
เมื่อวันที่ 23 ก.ค.67 ที่รัฐสภา นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ให้สัมภาษณ์ถึงการถูกเสนอชื่อชิงตำแหน่งประธานวุฒิสภา ในวันนี้ว่า จากที่ได้มีการเสนอตัวผู้สมัครประธานวุฒิสภา ซึ่งมีการเสนอชื่อจากทั้ง 2 ค่าย เป็นเสมือนมีเงาของพรรคการเมืองทาบทับอยู่ทั้ง 2 ฝั่ง แต่ทั้ง 2 ฝั่ง ก็เป็นคนละอุดมการณ์ทางการเมือง บรรดา สว. จำนวนหนึ่งก็เกิดความไม่สบายใจว่า ไม่อยากให้เกิดการเผชิญหน้าเป็น 2 ขั้วเหมือนสภาผู้แทนราษฎร (สส.) และมีความเห็นว่าอยากจะสนับสนุนให้ตนได้เสนอตัวเป็นประธานวุฒิสภาอีกทางเลือกนึง ซึ่งตนได้ไตร่ตรองอย่างรอบคอบแล้ว คิดว่าเป็นเรื่องที่ดี ที่ สว.ทั้ง 200 คนจะได้มีผู้ที่ถูกเสนอชื่อ 3 ท่าน ทั้ง 3 แนวทาง และตนเองก็เป็น สว. ที่ไม่ได้สังกัดพรรคการเมืองใด ไม่มีเงาของพรรคใดมาทับทามอยู่ข้างหลัง
นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวต่อว่า การเสนอตัวในระบอบประชาธิปไตยเป็นเรื่องที่ดี และลบข้อครหาของ สว.ชุดนี้ ว่าเป็น สว.ตามใบสั่ง และเชื่อมั่นว่าแนวทางของตนเอง และเพื่อนสมาชิก ได้รับความสนใจก็จะเสนอตัวเป็นประธานวุฒิสภา ส่วนผลจะเป็นอย่างไร ตนเองก็เคารพทุกท่าน แต่ขอให้ได้แสดงวิสัยทัศน์ว่าจะนำพา สว.ไปสู่ทิศทางเช่นใด และขอให้สบายใจ หรืออย่ากังวลใจในการลงมติ
“ขอให้คำนึงถึงว่า การลงมติครั้งนี้จะมีผลผูกพันไปอีก 5 ปีข้างหน้า ว่าเราจะลงจากตำแหน่งอย่างไร เป็นเรื่องที่ประวัติศาสตร์จะจารึกไว้”นพ.เปรมศักดิ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า การลงชิงตำแหน่งประธานวุฒิสภาในครั้งนี้ จะถูกมองว่าเป็นเหมือนไม้ประดับหรือไม่ นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวว่า การถูกบอกไม้ประดับ ถือเป็นคำพูดที่ดูถูกประชาธิปไตย การจะบอกว่าตนเองมีจำนวนเสียง 140 เสียง แล้วมาดูถูกอีกฝั่งว่าเป็นพลังจิ้บจ๊อยนั้น ตนเห็นว่ามดแดงยังเคยล้มช้างมาแล้ว ฉะนั้นไม่ใช่เรื่องที่จะมาปรามาสกัน การลงสมัคร หรือการเสนอชื่อ มีความหมายต่อระบบประชาธิปไตย แพ้หรือชนะ เป็นเรื่องที่ สว. จะตัดสินใจบนพื้นฐานของการกู้ภาพลักษณ์ และเกียรติศักดิ์ของสถาบันแห่งนี้ ที่บอกว่า ตนเป็นไม้ประดับ ตนไม่ถือโทษโกรธ ก็ขอให้ว่ากันไปแต่ถือว่า วิสัยทัศน์ที่ได้แสดงวันนี้ เป็นประโยชน์ต่อวุฒิสภา และสามารถจะนำไปปฏิบัติได้จริง และจะไม่เสนอเรื่องที่เป็นความฝัน เพราะมีประสบการณ์ทางการเมืองมาแล้ว 12 ปี เรื่องที่เสนอเป็นเรื่องจริงที่ทำได้ทันที โดยไม่ต้องฝึกงาน แต่หากผลการลงมติออกมาแล้ว คะแนนเป็น “กลุ่มก้อน” ก็แสดงว่า “หวยล็อก” ถ้าคะแนนไปเป็นตามมุ้งที่ออกข่าวมาก่อนหน้านี้ ก็น่าเศร้าใจ เพราะเป็นการทายผลล่วงหน้าได้มากกว่าผลฟุตบอล แค่ส่วนตัวไม่คิดว่าเป็นอย่างนั้น
นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวว่า สว.ที่จะให้การสนับสนุนตนเองนั้น มีประมาณกว่า 10 คน และเพียงพอต่อการเสนอชื่อ และขอโอกาสจากเพื่อนสมาชิก ว่าหากมีผู้ถูกเสนอชื่อมากเท่าไหร่ ยิ่งเป็นประโยชน์ต่อวุฒิสภา และขอให้ประธานวุฒิสภาเปิดโอกาสให้ได้แสดงวิสัยทัศน์อย่างเต็มที่ ส่วนการตัดสินใจเป็นเรื่องของสมาชิก หากได้แค่คะแนนเดียว ตนเองก็พร้อมน้อมรับ
สำหรับการถูกเสนอชื่อครั้งนี้ จะถูกมองว่าเป็นการโชว์เสียง สว. ที่อยู่ในกลุ่มของตนเองว่ามีจำนวนเสียง สว. ในกลุ่มเท่าไหร่หรือไม่นั้น นพ.เปรมศักดิ์ ระบุว่า ตนเองไม่ได้คิดไปไกลถึงขนาดนั้น ในกรณีที่มีผู้อาสาเป็นประธาน และรองประธานวุฒิสภาคนที่ 1-2 ตนเองก็เอาใจช่วย เพราะถือเป็นความกล้าหาญของเพื่อนสมาชิก และตนเองร้อมรับมติของที่ประชุมตามกลไกของรัฐสภา
ส่วนการลงชิงตำแหน่งรองประธานวุฒิสภา ในกลุ่ม สว.สีขาวนั้น นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวว่า ตนเองทราบว่า จะมีคนเสนอชื่ออยู่ แต่ไม่ได้เป็นเงื่อนไขผูกพัน หากเห็นว่าใครเห็นตรงกันอย่างจะเสนอในเวลาเดียวกันก็ได้ และผู้ที่น่าสนใจอาจจะมีมากกว่าที่คิดไว้
