“เทพไท” เทียบ “ศิริกัญญา-แพทองธาร” มวยคนละรุ่น ฝีมือคนละชั้น เหมือนกับเอานักมวยรุ่นฟลายเวทมาชกกับนักมวยรุ่นเฮฟวี่เวท ผลพิสูจน์ในสนามเลือกตั้งครั้งหน้า
เมื่อวันที่ 30 ก.ค.67 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตสส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ข้อความเรื่อง “ศิริกัญญา-แพทองธาร คู่ต่อสู้ที่ห่างชั้นมาก” มีเนื้อหาว่า…มีการวิเคราะห์กันว่า วันที่ 7 ส.ค.นี้ พรรคก้าวไกลมีโอกาสโดนคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคสูงมาก แม้แต่แกนนำพรรคก้าวไกลหลายคน ยังต้องทำใจ และคิดหาทางออกด้วยการตั้งพรรคการเมืองใหม่ ซึ่งคุณศิริกัญญา ตันสกุล ก็แสดงความพร้อมในการเป็นหัวหน้าพรรค เพื่อเป็นคู่ต่อสู้ทางการเมืองกับพรรคเพื่อไทย ที่มีคุณอุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค ในการเลือกตั้งครั้งหน้า
ผมไม่มีส่วนได้เสียหรือเกี่ยวข้องอะไรกับทั้ง 2 พรรค แต่ในฐานะเป็นผู้สังเกตการณ์ทางการเมือง จะขออนุญาตเปรียบเทียบคุณสมบัติของทั้ง 2 คน ซึ่งจะเป็นคู่ต่อสู้ในสนามเลือกตั้งครั้งต่อไป ระหว่างคุณศิริกัญญากับคุณแพทองธาร จะเปรียบเทียบคุณสมบัติใน 3 ด้าน คือ
1.ด้านประสบการณ์ทางการเมือง คุณศิริกัญญาเป็น สส.มาแล้ว 2 สมัย รู้งานในสภาเป็นอย่างดี เป็นผู้บริหารพรรค ไต่เต้ามาตั้งแต่กรรมการบริหารพรรค เป็นรองหัวหน้าพรรค จนเป็นว่าที่หัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ ส่วนคุณแพทองธาร ไม่เคยเป็นสส.เลย ไม่มีประสบการณ์งานในสภาเลย ไม่เคยเป็นกรรมการบริหารพรรคมาก่อน เป็นเพียงหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ก่อนมาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ตามที่คุณทักษิณผู้เป็นพ่อผลักดัน
2.ด้านความรู้ความสามารถทางการเมือง และด้านวิชาการ คุณศิริกัญญาเป็นนักวิชาการของทีดีอาร์ไอมาก่อน เมื่อมาเป็นสส. ได้ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ อภิปรายนำเสนอปัญหาและแนวทางแก้ไขเศรษฐกิจของชาติได้อย่างแตกฉาน ในขณะที่คุณแพทองธาร ขาดความรู้ทางด้านเศรษฐศาสตร์ เห็นได้จากการวิจารณ์บทบาทของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จนเป็นประเด็นทอล์คออฟเดอะทาวน์มาแล้ว แสดงความเห็นทางการเมืองทุกครั้ง ติดลบทุกครั้ง
3.ด้านภาวะผู้นำหรือบารมีภายในพรรค คุณศิริกัญญา เป็นรองหัวหน้าพรรค เป็นติวเตอร์การอภิปรายให้กับสส.ของพรรค เป็นที่ยอมรับและให้ความเชื่อถือ เชื่อมั่นในความเป็นผู้นำ เมื่อเป็นหัวหน้าพรรคก็จะไม่มีปัญหาเรื่องบารมีควบคุมสมาชิกพรรค ส่วนคุณแพทองธาร เป็นหัวหน้าพรรคโดยการอุปโลกน์ของคุณทักษิณ ขาดความอาวุโส พรรษาทางการเมืองไม่มี ทำให้สส.อาวุโสในพรรคหลายคนรู้สึกอึดอัด ไม่สามารถยอมรับการนำของคุณแพทองธารได้ จึงทำให้พรรคมีปัญหาภายในอย่างเห็นได้ชัด กรณีของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง และสมาชิกคนอื่นๆ อีกหลายคน แต่เกิดสภาพปัญหาน้ำท่วมปาก ไม่สามารถแสดงออกได้ ด้วยความเกรงใจนายใหญ่
ถ้าจะเปรียบเทียบศิริกัญญากับคุณแพทองธารแบบฟอร์มนักมวย เปรียบกันหมัดต่อหมัด ปอนด์ต่อปอนด์ เห็นได้ว่าเป็นมวยคนละรุ่น ฝีมือคนละชั้น เหมือนกับเอานักมวยรุ่นฟลายเวทมาชกกับนักมวยรุ่นเฮฟวี่เวท ผลจะเป็นอย่างไรค่อยพิสูจน์กันในสนามเลือกตั้งครั้งหน้า
