“จตุพร”อ่านเกม กก.ชิงตั้งพรรคใหม่ เชื่อสกัด สส.แตกแถว หวั่นถูกเงินทุนล่อไปอยู่ฝ่าย รบ. วิเคราะห์ กก.ถูกอำนาจวาง 3 กับดักทำลายให้สิ้นซาก ระบุเริ่มขึงผืดล้มล้างปกครอง ขยี้ยุบพรรค และจะขย่มปมจริยธรรม 44 สส.อีก
นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ว่า พรรคก้าวไกลถูกเกมไพ่ 3 ใบเล่นงาน ใบแรกล้มล้างการปกครอง ใบสองยุบพรรค และใบที่สามกำลังตั้งท่าจัดการอยู่คือ เล่นงานจริยธรรมนักการเมืองของ 44 สส.ที่ลงชื่อเสนอกฎหมายแก้ ม.112 ซึ่งจะมีโทษรุนแรงถึงตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิต ดังนั้น บุคลากรสำคัญของพรรคจะหายไปเป็นจำนวนมาก เช่น นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ นส.ศิริกัญญา ตันสกุล นส.เบญจา แสงจันทร์ เป็นต้น ด้วยเหตุนี้พรรคใหม่ที่จะตั้งขึ้นต้องเตรียมรับมือไว้
อีกทั้งกล่าวว่า สส. 143 คนที่เหลืออยู่จากพรรคก้าวไกลถูกยุบ จะย้ายไปอยู่พรรคใหม่ในวันที่ 9 ส.ค. จนครบทุกคน จึงเป็นการแก้เกมรวดเร็ว เพราะกลุ่มทุนการเมืองไม่กล้าจ่ายซื้อตัวเข้าพรรคตัวเองคนละ 15-30 ล้าน เพราะต้องรอผลศาล รธน. ตัดสินคดีนายเศรษฐา ทวีสิน ในวันที่ 14 ส.ค. ว่าจะรอดหรือไม่รอดในตำแหน่งนายกฯ
“ขณะนี้มีการจ่ายเงินให้แบบรายเล็กน้อยไว้แล้วก็ตาม เพื่อรอให้ย้ายมาอยู่พรรครัฐบาลหลัง 14 ส.ค. แต่ถ้าวันที่ 14 ส.ค.เศรษฐา รอดก็ไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินซื้อตัว สส.จากพรรคก้าวไกลมาเข้าพรรค จึงเชื่อว่า ถ้าพรรคใหม่ของก้าวไกลให้ สส.ย้ายมาสังกัดเกิดขึ้นหลัง 14 ส.ค. โดยเศรษฐา ไม่รอดคดีแล้ว จะเจอปรากฎการ สส.ของก้าวไกลแตกแถว ถูกต้อนเข้าพรรครัฐบาลแน่นอน ดังนั้นก้าวไกลจึงแก้เกมด้วยการย้าย สส.มาสังกัดพรรคใหม่ในวันที่ 9 ส.ค.”
พร้อมทั้งกล่าวว่า ถ้านายเศรษฐาหลุดนายกฯ จะเห็นแรงกระเพื่อมในพรรคเพื่อไทยต่อ เพราะบรรดาผู้อาวุโสทั้งหลายที่หาอนาคตไม่เจอแล้ว คงใช้เวลานี้ลงมือ โดยจะสำแดงฤทธิ์เดชสั่นสะเทือนภายในพรรค
นายจตุพร กล่าวว่า ถ้าเชื่อว่า 14 ส.ค.นี้ นายเศรษฐา รอดคดี ก็ไม่จำเป็นต้องยุบพรรคก้าวไกลเลย แต่เมื่อยุบแล้วและนายเศรษฐายังรอดคดีด้วยอาจทำให้พรรคก้าวไกลในชื่อพรรคใหม่ ได้ความนิยมจากประชาชนมากขึ้น อย่างไรก็ตาม อีกด้านหนึ่งนายเศรษฐา จึงเป็นไพ่การเมืองใบที่ 4 และมีอาวุธยุบสภาโต้กลับได้ ย่อมทำให้กระแสรอดคดีมาแรงในช่วงที่ผ่านมาเพื่อหลีกเลี่ยงการยุบสภา
ส่วน ปปช.จะพิจารณาจริยธรรมของ 44 สส.พรรคก้าวไกลนั้น อาจจะใช้เวลาอย่างน้อยปีครึ่งจึงรู้ผลการวินิจฉัยของศาล แต่ภายใน 3-4 เดือนนี้ถ้า ปปช.ยื่นศาลฎีกาและศาลรับคดี 44 สส.ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่โดยปริยาย จึงทำใหบุคลากรที่สำคัญหายไปจากพรรคทันที
อีกทั้งระบุว่า ถ้าพรรคใหม่ของก้าวไกลวางการแก้ ม.112 แล้วหันมาเล่นเรื่องอื่นที่เกี่ยวกับปัญหาของชาติบ้านเมืองที่จะเป็นความล้มเหลวของรัฐบาล แต่จะสร้างความเติบโตให้พรรคใหม่ของก้าวไกล ซึ่งเรื่องนี้แกนนำก้าวไกลต้องคิดเพื่อแก้เกม
“ถ้าก้าวไกลเอาเรื่องชาติบ้านเมืองมาก่อน โดยเล่นงานใน 4 โครงการสำคัญที่เป็นปัญหาของประเทศ คือ ดิจิทัลหมื่นบาท ขายคอนโดฯ ตั้งบ่อนคาสิโน และแลนด์บริดจ์ จะยิ่งเป็นการปกป้องชาติบ้านเมือง โดยเฉพาะดิจิทัลที่จะแจกนั้น ประชาชนต้องเรียกร้องให้แจกเงินสดทั้งนั้น”
นายจตุพร กล่าวว่า ถ้าแจกเป็นเงินสดแล้วจะทำให้ประชาชนได้กำหนดอนาคตของตัวเอง การใช้จ่ายอะไรย่อมเป็นไปตามความเดือดร้อนของแต่ละคน ไม่ใช่รัฐบาลมากำหนดให้ซื้อสินค้าในร้านสะดวกซื้อ ซึ่งมาจากแหล่งผลิตเดียวกัน แล้วมีต้นทุนการผลิตเพียง 20% หรือมีมูลค่า 2,000 บ.แต่มาขาย 10,000 บ. นายทุนก็ได้ส่วนต่างจากประชาชนไปแล้ว 8,000 บ.
อย่างไรก็ตาม ถ้าคิดจำนวนเงินโครงการแจกเงินดิจิทัล 5 แสนล้าน เท่ากับมีส่วนต่างที่หายไปเป็นประโยชน์ของกลุ่มทุนถึง 4 แสนล้าน ซึ่งมากมายอย่างยิ่ง และเงินที่นำมาแจกเป็นเงินกู้ในรูปลักษณ์งบประมาณแผ่นดิน ดังนั้น ต้องใช้คืนหนี้อย่างน้้อย 3 เท่าของเงินที่กู้มาแจกประชาชน
“ไม่รู้รัฐบาลเอาสมองส่วนไหนมาคิด และโง่มาก แจกเงินหมื่นให้ประชาชนที่เดือดร้อน เป็นทุกข์ค่าไฟ ค่าน้ำ ค่าเทอม ค่าบ้าน แต่ให้ไปซื้อสินค้าในเซเวนมากินเพื่อปลดหนี้เหรอ ถ้าแจกเงินสดแล้วประชาชนจะใช้จ่ายซื้ออะไรก็เรื่องของประชาชนที่เดือดร้อน”
นายจตุพร ย้ำว่า ประชาชนต้องช่วยกันขัดขวางดิจิทัลให้ได้ เพราะการแจกเงินหมื่นบาทนั้นมีราคาเพียง 2,000 บ.เท่านั้น ถ้าแจกเป็นเงินสดประชาชนจะได้กำเงินในมือในราคาจริงหมื่นบาท ใช้จ่ายบรรเทาทุกข์ที่เดือดร้อนกัน เมื่อประเทศจะเป็นหนี้หมื่นแล้วต้องใช้คืนถึง 3 หมื่นแล้ว ประชาชนต้องได้แจกเป็นเงินสดดีกว่า
“วันนี้ไม่มีเรื่องสีเสื้อเลย แต่เป็นเรื่องการรักชาติบ้านเมือง เราทนพวกนี้มาปล้นต่อหน้าต่อตาได้อย่างไรกัน แล้วไม่มีใครกล้ามาขวางเลย เรามาต่อสู้แบบนี้จึงเจอแรงเสียดทานจากผลประโยชน์มหาศาลที่จะเล่นงานเอา แต่คนพวกนี้กำลังขายชาติขายแผ่นดิน เราจึงต้องออกมาต้านกัน”