’หมอวรงค์‘ เตรียมยื่น กกต.ยุบ ‘พรรคประชาชน’ หลังพบ ‘พรรคถิ่นกาขาวฯ’ มีสาขาไม่ครบ 4 ภาค ต้องสิ้นสภาพตามกฎหมาย ด้าน ‘เจี้ยบ’ อมรัตน์ สวน ข้อมูลหมอวรงค์ไม่อัพเดท
วันที่ 11 ส.ค.67 นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม พรรคไทยภักดี โพสต์
ตามที่สื่อเสนอข่าวว่า พรรคประชาชน เกิดจากการที่นำพรรคถิ่นกาขาวชาววิไล มาเปลี่ยนชื่อพรรค เนื่องจากพรรคการเมืองเป็นสถาบันสำคัญ ของระบอบประชาธิปไตย ต้องโปร่งใสและตรวจสอบได้
จากการตรวจสอบผ่านเว็บ กกต. พบว่า พรรคถิ่นกาขาวชาววิไล ซึ่งเป็นพรรคต้นกำเนิดของพรรคประชาชน มีสาขาพรรค 3 สาขา ภาคเหนือ 2 สาขา และภาคกลาง 1 สาขา ไม่มีสาขาภาคใต้ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
กฏหมายพรรคการเมืองกำหนดไว้ว่า พรรคการเมืองย่อมสิ้นสภาพ ถ้ามีสาขาพรรคการเมือง เหลือไม่ถึงภาคละ 1 สาขา เป็นระยะเวลาติดต่อกัน 1 ปี นั่นหมายความว่า พรรคถิ่นกาขาวชาววิไล ต้องมีสาขาครบทั้ง 4 ภาค ห้ามขาดหายไปติดต่อกัน 1 ปี ถ้าไม่ครบ พรรคถิ่นกาขาวชาววิไลต้องสิ้นสภาพ
ข้อมูลหน้าเว็บ กกต.พบว่า พรรคถิ่นกาขาวชาววิไล มีสาขาพรรคเพียงแค่ 2 ภาค ซึ่งไม่ครบ 4 ภาค และจัดตั้งตั้งแต่ปี 2555 เพื่อความโปร่งใส กกต.ต้องตรวจสอบและชี้แจงให้ประชาชนได้รับทราบ รายละเอียดการมีสาขาในแต่ละปี
ถ้าพรรคถื่นกาขาว มีสาขาไม่ครบ 4 ภาค ติดต่อกัน 1 ปี จะเข้าข่ายการสิ้นสภาพของพรรคตามกฏหมาย นั่นหมายความว่า พรรคประชาชน จะไม่สามารถนำพรรคที่สิ้นสภาพ มาดำเนินการเปลี่ยนชื่อพรรคได้
พรรคไทยภักดีจะไปยื่นเรื่องดังกล่าวให้ กกต.ตรวจสอบ และดำเนินการต่อไปให้เป็นไปตามกฏหมาย
ต่อมา นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล อดีต ส.ส.ก้าวไกล ทวิต
“#พรรคประชาชน มีสาขาครบถ้วนทั้ง 4 ภาค คือภาคเหนือที่จ.นครสวรรค์ , ภาคกลาง จ.ราชบุรี , ภาคอิสานที่ จ.สกลนคร และภาคใต้ ที่จ.นครศรีธรรมราช
ไม่งั้น กกต.คงไม่อนุญาตให้พรรคมีการตั้งกรรมการสรรหา จดแจ้งเปลี่ยนชื่อพรรคและธุรกรรมอื่น ๆ
ข้อมูลที่หมอวรงค์เตรียมไปยื่นเป็นข้อมูลที่ไม่อัพเดท”