วันจันทร์, พฤศจิกายน 25, 2024
spot_img
หน้าแรกNEWS“เพื่อไทย”รอดูคำวินิจฉัยอย่างละเอียด “เศรษฐา”จะกลับมาเป็นแคนดิเดตได้อีกหรือไม่
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“เพื่อไทย”รอดูคำวินิจฉัยอย่างละเอียด “เศรษฐา”จะกลับมาเป็นแคนดิเดตได้อีกหรือไม่

‘เพื่อไทย’ ขอศึกษาคำวินิจฉัยศาล รธน. ‘เศรษฐา พ้นตำแหน่งนายกฯ’ อย่างละเอียด ก่อนนัดประชุมพรรคร่วมรัฐบาล เคาะแคนดิเดตนายกคนใหม่ ‘สรวงศ์’ ยัน เป็นโควต้าพรรคเพื่อไทยก่อนย้ำ เดินหน้า ‘นโยบายเงินหมื่น’ ต่อ

เมื่อวันที่ 14 ส.ค.นายสรวงศ์​ เทียนทอง​ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย และ สส.พรรคเพื่อไทยบางส่วน ให้สัมภาษณ์ ก้าวต่อไปของนายเศรษฐา ทวีสิน พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีว่า จะต้องดูคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญอย่างละเอียด ว่านายเศรษฐา ยังมีคุณสมบัติ ที่จะถูกเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตได้หรือไม่ รวมไปถึงยังมีแคนดิเดตของพรรคเพื่อไทยอีก 2 คนคือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และนายชัยเกษม นิติศิริ ซึ่งหลังจากนี้ก็จะเป็นขั้นตอนต่อไปของพรรค

เมื่อถามว่า ความเป็นไปได้หากศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ให้นายเศรษฐากลับมาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ผู้ที่จะถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีระหว่าง น.ส.แพทองธารและนายชัยเกษมจะเป็นใคร สรวงศ์กล่าวว่า เป็นไปได้ทั้งสองคน และขณะนี้ก็ยังมีพรรคร่วมรัฐบาลอยู่ คงจะต้องมีการหารือร่วมกันระหว่างพรรคร่วม การที่จะเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนต่อไป ยังจะเป็นโควต้าของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ตนของพูดคุยกับพรรคร่วมก่อน

เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยยังยืนยันในหลักการพรรคอันดับ 1 ที่จะต้องส่งชื่อแคนดิเดต ของพรรคตัวเองก่อนหรือไม่นายสรวงศ์กล่าวว่า คงต้องยืนยันอย่างนั้น แต่คนที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป หรือแคนดิเดตที่เหลืออยู่อีก 2 คน ก็พร้อมที่จะดำรงตำแหน่ง

เมื่อถามว่าลักษณะทางกายภาพความเป็นไปได้น่าจะเป็น น.ส.แพทองธารมากกว่านายชัยเกษม ใช่หรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ขอประชุมกันในพรรคก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรรมการบริหารพรรค ที่จะต้องมีการเรียกประชุมด่วน พร้อมย้ำว่าก่อนสิ่งอื่นใดจะต้องดูคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญโดยละเอียดก่อน

ขณะเดียวกันนายสรวงศ์ได้ให้กำลังใจนายเศรษฐา ผ่านสื่อมวลชนว่า พวกเราทุกคน พรรคเพื่อไทยตั้งใจทำงานกันอย่างเต็มที่และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พรรคเพื่อไทย พรรคไทยรักไทย ที่มีเหตุการณ์ในลักษณะเช่นนี้แต่ก็ยืนหยัดที่จะต่อสู้ เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน

ซึ่งระหว่างการตอบคำถามนี้ นายสรวงศ์มีการหยุดพูดเป็นระยะ พร้อมมีน้ำเสียงสั่นเครือ รวมไปถึงสังเกตเห็นได้ชัดว่า นายสรวงศ์มีน้ำตาคลอเบ้า

เมื่อถามต่อว่า ถือว่าเสียขวัญหรือไม่ เนื่องจากหลายฝ่ายของพรรคเพื่อไทยก่อนหน้านี้ไม่มีความกังวลและดูเหมือนว่าจะมีมั่นใจเสียด้วยซ้ำว่านายเศรษฐา จะรอดคดีนี้ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ทุกคนมั่นใจในความบริสุทธิ์ของนายเศรษฐา อย่างที่ตนได้ให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ ไม่ได้มีการพูดถึงจำนวนตัวเลขที่ได้ยินมา เราไม่เคยคำนึงถึงเรื่องนั้นเลย แต่คำนึงถึงต้นตอของความบริสุทธิ์ใจของนายเศรษฐา ซึ่งตนมองว่าทุกอย่างผ่านไปแล้ว ต้องทำอนาคตให้ดียิ่งขึ้น และปฏิบัติหน้าที่ของตัวเองให้ดีต่อไป

ขณะเดียวกันนายสรวงศ์ยังยืนยันว่าโครงการ วอลเล็ต 10,000 บาทที่เป็นนโยบายเรือธงของพรรคเพื่อไทย จะยังคงเดินหน้าต่อไป ขณะนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยหารือประสานกับพรรคร่วมรัฐบาล และคิดว่าการทำงานร่วมกันก็คงไม่น่ามีปัญหาอะไร แต่น่าจะมีการเชิญพรรคร่วมรัฐบาลเข้ามาพูดคุยกันถึงทิศทางต่อไป โดยยืนยันว่าท้ายที่สุดแล้วก็ต้องดูคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญโดยละเอียด. และสส.ของพรรค ที่อยู่ภายในรัฐสภามีเพียงการจับกลุ่มพูดคุยกันและยังคงทำหน้าที่นิติบัญญัติ อย่างมั่นคงและจะทำงานต่อไปในสภาให้เข้มแข็งที่สุด ตราบใดร่วมรัฐบาลเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนต่อไปมาก็ยินดีและน้อมรับที่จะดำเนินการต่อไป ส่วนจะนัดพูดคุยกันเมื่อไหร่นั้นยังไม่ทราบ แต่ต้องรอให้น.ส.แพทองธาร เดินทางกลับจากต่างประเทศก่อน ซึ่งเมื่อสักครู่ที่ผ่านมาตนได้ต่อสายถึงนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ที่ไปปฏิบัติหน้าที่ต่างประเทศ ก็จะเดินทางกลับมาโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

ทั้งนี้นายสรวงศ์ยืนยันว่า คงไม่ถึงขั้นเปลี่ยนขั้วสลับข้าง แต่ขอพูดคุยกันภายในพรรคร่วมรัฐบาลก่อน ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป ส่วนตำแหน่งรองประธานสภา เป็นเรื่องของฝ่ายนิติบัญญัติ ที่จริงก็เป็นโควต้า แต่พรรคภูมิใจไทยเองก็มีมติที่จะส่งในภราดรปริศนานันทกุลรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย คงไม่ไม่อะไรเปลี่บนแปลงไป

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

ว่าด้วยเรื่อง พัฒนา“พุทธมณฑล”

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img