เริ่มแล้วประชุมสภาฯโหวต “แพทองธาร ชินวัตร” นั่งนายกฯคนที่ 31 ผ่านไปชั่วโมงเดียว คะแนนโหวตเห็นชอบเกิน 248 เสียง ก่อนที่ผลคะแนนอย่างเป็นทางการจะออกมาที่ตัวเลข 319 เสียง ไม่เห็นชอบ 145 เสียง งดออกเสียง 27 เสียงส่งผลให้ “อุ๊งอิ๊ง” ได้นั่งเก้าอี้นายกฯเป็นที่เรียบร้อย
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 16 ส.ค.67 ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เป็นกรณีพิเศษ มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาวาระเรื่องด่วน การพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 159 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีสส.ทั้งฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้าน เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง
โดยนายวันมูหะมัดนอร์ ได้ชี้แจงต่อที่ประชุมเรื่องการเสนอชื่อบุคคล ซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีว่า ให้เสนอชื่อผู้มีคุณสมบัติ ไม่มีลักษณะต้องห้าม ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 160 และอยู่ในบัญชีรายชื่อพรรคการเมือง โดยการเสนอชื่อจะต้องมีผู้รับรองไม่น้อยกว่า 50 คน ใช้วิธีเสียบบัตรแสดงตน ส่วนขั้นตอนการลงคะแนนเลือกนายกฯ จะทำโดยเปิดเผย ใช้วิธีเรียกชื่อสมาชิกตามลำดับตัวอักษร ให้ออกเสียงเป็นรายบุคคล
จากนั้นนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน ขอใช้สิทธิอภิปราย แต่นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การขออภิปรายไม่อยู่ในกระบวนการและขั้นตอนเลือกนายกฯ ขอให้ยึดข้อบังคับข้อประชุม เดินหน้าเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีต่อไป
จากนั้นนายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว พรรคเพื่อไทย เสนอชื่อน.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี โดยมีผู้เสียบบัตรแสดงตนรับรองครบถ้วน 50 คน
ต่อมาภายหลังการเสนอชื่อน.ส.แพทองธาร เสร็จแล้ว นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ทวงการใช้สิทธิขอให้มีการอภิปราย โดยแจ้งมีผู้แสดงความประสงค์ขออภิปราย 2 คนคือ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ-หัวหน้าพรรคประชาชน และนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยสร้างไทย ปรากฏว่า นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย คัดค้าน ยืนยันขอให้ดำเนินการตามระเบียบวาระ ไม่กลัวการอภิปราย ฝ่ายค้านก็ยังไม่สมบูรณ์ และผู้ถูกเสนอชื่อก็ไม่ได้อยู่ในห้องประชุม จึงไม่ควรอภิปราย วาระวันนี้มีเพียงแค่นี้ ขอให้ลงคะแนนเลย ทำให้นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า แม้จะไม่มีระเบียบให้อภิปรายก่อนโหวตนายกรัฐมนตรี แต่เมื่อคืนวันที่ 15 ส.ค.นายปกรณ์วุฒิโทร.มาหาตนขออภิปราย 20 นาที ตนจึงอนุญาต โดยให้เวลา 20 นาที ทำให้สส.เพื่อไทยไม่พอใจ
กระทั่งเวลา 10.50 น. นายวันมูหะมัดนอร์จึงวินิจฉัยให้อภิปรายได้ โดยใช้เวลาไม่เกิน 20 นาที และห้ามอภิปรายเรื่องคุณสมบัตินายกฯ จากนั้นสส.ได้เริ่มอภิปราย อาทิ นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยสร้างไทย นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน
จากนั้น เวลา 11.20 น. ที่ประชุมได้เริ่มลงคะแนน ด้วยวิธีเปิดเผยด้วยการขานชื่อตามลำดับตัวอักษรทีละคน
หลังใช้เวลาลงมติผ่านไปเกือบ 1 ชั่วโมง โดยการลงมติยังไม่แล้วเสร็จ ในเวลาประมาณ 12.14 น. ที่ประชุม สส. มีคะแนนโหวตเห็นชอบให้น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี เกิน 248 เสียงแล้ว ซึ่งเป็นจำนวนเสียงเห็นชอบ ที่มากกว่ากึ่งหนึ่ง จากจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทั้งหมด 493 คน อันเป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่า ผู้ที่จะได้ความเห็นชอบเป็นนายกฯ จะต้องได้เสียงเห็นชอบมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกรัฐสภาเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภาคือ คือต้องได้ 248 เสียงขึ้นไป
อย่างไรก็ตาม เมื่อการนับคะแนนเสร็จสิ้นลง ผลปรากฎว่า คะแนนเห็นชอบ 319 เสียง ไม่เห็นชอบ 145 เสียง งดออกเสียง 27 เสียง รวมผู้เข้าประชุมทั้งสิ้น 491 คน จึงถือว่าที่ประชุมสส.มีมติเห็นชอบ ให้น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 แล้ว