“อดิศร” บอกต้องหาคนจริงใจมาร่วมรัฐบาล ไม่ใช่พกมีดสั้นปักหลัง แค้นอยู่เบื้องหลังทำ “เศรษฐา” ตกเก้าอี้ เมินถูกร้องชี้เป็นเอกสิทธิ์ ถามกลับทำหน้าที่อะไรบ้าง จวกสร้างแต่ความเสียหายให้ประเทศ ยันหาเสียงจากรัฐธรรมชาติ
เมื่อวันที่ 28 ส.ค.67 เวลา 10.05 น.ที่รัฐสภา นายอดิศร เพียงเกษ สส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมการสส.พรรค เมื่อวานนี้ (27 ส.ค.) ว่า ในที่ประชุมได้เปิดให้สมาชิกแสดงความคิดเห็น ซึ่งตนได้ขออนุญาตพรรคพูดถึงเรื่องการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีเพื่อให้น.ส. แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้บริหารราชการแผ่นดินครบตามวาระ เอาบทเรียนในอดีตที่ผ่านมามาพูดคุยกัน ซึ่งตนคิดว่าพรรคพลังประชารัฐ โดยเฉพาะหัวหน้าพรรค ได้แสดงจุดยืนเป็นปฏิปักษ์ในการที่จะเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ตั้งแต่โหวตนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี จนมาถึงการโหวตน.ส.แพทองธาร ท่านก็ไม่มา รวมถึงกรณีอดีตสว. 40 คน ที่ถอดถอนนายเศรษฐา ก็มีข้อมูลชัดเจนว่าท่านอยู่เบื้องหลังในการยื่น จึงไม่ควรที่จะมาร่วมเป็นรัฐบาล ตนจึงเสนอในที่ประชุมสส. โดยมีน.ส.แพทองธาร และผู้หลักผู้ใหญ่ ที่บริหารพรรครับฟัง
เมื่อถามว่า หลังจากที่เสนอที่ประชุมพรรคมีความคิดเห็นอย่างไรบ้าง นายอดิศร กล่าวว่า ที่ประชุมเห็นด้วย 150 เปอร์เซ็นต์ เพียงแค่ตนกล้าพูดก่อน อย่างไรก็ตาม วันนี้ตนได้เจอกับสส.พรรคพลังประชารัฐก็ยังเป็นเพื่อนสส.กันอยู่ แต่การร่วมรัฐบาล มันแสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง เพียงแค่จุดต่างเยอะมาก ก็ให้ท่านไปอยู่ในป่าของท่านดีกว่า
เมื่อถามว่า เสียงหายไป 40 เสียง จะไม่กระทบต่อเสถียรภาพในการโหวตของสภาฯหรือไม่ นายอดิศร กล่าวว่า เสียงอาจจะขาดหายไปจริง และจะไปหาเพิ่มจากที่ไหนตามรัฐธรรมชาติ ก็เป็นเอกสิทธิ์ของสภาฯ สส. พรรคพลังประชารัฐก็มีเอกสิทธิ์ ที่จะเดินงานในทางการเมืองของเขาจะมาร่วมกับเราหรือเป็นฝ่ายค้านก็ไม่มีผลกระทบอะไร
เมื่อถามว่า จะไม่ถูกมองว่าร่วมรัฐบาลกันมาตั้งนาน สุดท้ายเมื่อเห็นต่างก็ถีบพรรคพลังประชารัฐไปอยู่ฝ่ายค้านหรือไม่ นายอดิศร กล่าวว่า ใช้คำว่าถีบไม่ได้ ใช้คำว่าปิดสวิตช์ ถีบจะเป็นลักษณะคล้ายกับหยุม
เมื่อถามว่า หากพรรคพลังประชารัฐจะมาร่วมรัฐบาลแค่ส่วนหนึ่ง แล้วอาจนำไปสู่การร้องเรียนภายหลังหรือไม่ นายอดิศร กล่าวว่า เป็นเอกสิทธิ์ และนักร้องมีอยู่แล้วทุกวัน ทั้งนักร้องลูกทุ่งหรือลูกกรุง
“ผมก็อยากถามคืนว่าทำหน้าที่อะไรบ้าง ความสูญเสียและเสียหายในการพัฒนาประเทศมีอยู่มากมาย ผมอยากไปเปิดกฎหมายว่าหากร้องเท็จ จะมีความผิดอะไร คนเดียวทำให้นายเศรษฐาไม่ได้เป็นนายกฯ มันมีความเสียหาย ร้องก็ร้องไป แต่เราคิดว่าเสถียรภาพของการเป็นรัฐบาลผสม ควรเอาคนที่มีความจริงใจมาอยู่ด้วยกัน ไม่ใช่ว่าจับมือกันแล้วมีดสั้นปักอยู่ด้านหลัง”นายอดิศร กล่าว
เมื่อถามว่า แสดงว่าเราก็เปิดใจที่จะเทียบเชิญพรรคอื่นเข้ามาร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายอดิศร กล่าวว่า ในส่วนนี้ตนไม่ทราบ ไม่ได้อยู่ในหน้าที่ตน แต่คิดว่าการจัดตั้งรัฐบาลคงจะสำเร็จไปแล้ว ตามที่เป็นข่าว
