”นายกฯอิ๊งค์’ ประกาศพร้อมนำความหลากหลายของพรรคการเมืองเป็นจุดแข็งแก้ปัญหาให้ตรงจุดและทันเวลา เน้นทำงานใกล้ชิดรมต. นัดคุยทุกสัปดาห์สลับกระทรวง รับไม่อยากมีคดีเพราะลูกยังเล็ก แต่จะพยายามรับมือให้ดีที่สุด
เมื่อเวลา 11.50 น. วันที่ 7 กันยายน ที่ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ โดยมีคณะรัฐมนตรีทั้งหมดยืนร่วมในการแถลงข่าวด้วย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำรัสแก่ตนและคณะรัฐมนตรี เนื่องในวโรกาส เข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรี พระองค์ทรงมีพระราชกระแสรับสั่งว่า “ขอให้พรด้วยความยินดี ให้คณะรัฐมนตรีมีกำลังใจ มีความมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้ถวายสัตย์ไปแล้ว เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติและประชาชนนับเป็นเกียรติยศและความภาคภูมิใจสูงสุดแก่ชีวิตของตนเองและคณะรัฐมนตรี เราจะพร้อมน้อมนำพระราชดำรัส มาปรับใช้ในการบริหารราชการแผ่นดิน พร้อมจะปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ“
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ตนและคณะรัฐมนตรีทุกคน พร้อมที่จะทำงานเพื่อประเทศอย่างเต็มที่ เราจะทำงานแข่งกับเวลาทุกชั่วโมง ทุกวินาที ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เราคือผู้แทนของประชาชนที่ได้รับการเลือกตั้งมาจากทั่วพื้นที่ของคนทั้งประเทศ เรามาจากหลากหลายพรรคการเมือง แต่เราจะใช้ความหลากหลายนี้ ทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อพี่น้องประชาชนเราจะใช้ความหลากหลายให้เป็นจุดแข็งให้รู้ปัญหาที่แท้จริงของพี่น้องประชาชนและสามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุดและทันเวลา
“ดิฉันมั่นใจว่าจะสามารถประสานพลังของทุกๆคนให้มีพลังที่จะแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนให้ทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ใช้ความสามารถของตัวเองอย่างเต็มที่ และแน่นอนว่าดิฉันและคณะรัฐมนตรีจะทำงานอย่างหนักเพื่อสร้างโอกาสให้พี่น้องคนไทยทุกคน”นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โอกาสคือ สิ่งที่เราสามารถสร้างให้เกิดขึ้นได้ ตน คณะรัฐมนตรี ยืนยันว่าเราจะทำสิ่งนี้ให้เข้าถึงพี่น้องคนไทยอย่างเท่าเทียม วันนี้ตนเองคณะรัฐมนตรีและข้าราชการทุกภาคส่วน พร้อมแล้วที่จะทำงานอย่างแน่วแน่มั่นคง เพื่อชีวิตที่ดีกว่าของพี่น้องประชาชน และในวันนี้ก็พร้อมที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชนว่าพวกเราพร้อมจะทำงานเป็นทีมและสร้างโอกาสที่เท่าเทียมให้กับประชาชนทุกคน เราจะไม่เริ่มพรุ่งนี้แต่เราจะเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้
จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้แถลงสรุปการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษว่า ในที่ประชุมได้แจ้งให้รัฐมนตรีทุกคน ให้เตรียมชี้แจงตอบคำถามการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ในประเด็นที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งช่วยกันสื่อสารและขยายผลนโยบายในส่วนที่ตนเองเกี่ยวข้อง เพื่อให้ข้าราชการ และประชาชนเข้าใจในนโยบายของรัฐบาลมากยิ่งขึ้นโดย และส่วนใหญ่นโยบายที่จะแถลงต่อรัฐสภาก็ต่อเนื่องจากรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ และได้มีการรับฟังความเห็นจากพรรคการเมืองทุกพรรค เพื่อนำมาปรับแก้ให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ และแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุกวันนี้ปัญหาของประเทศเป็นปัญหาเรื้อรังและท้าทาย เรานำปัญหามาเปลี่ยนเป็นนโยบายเร่งด่วน และนโยบายระยะกลาง ระยะยาว สำหรับนโยบายเร่งด่วน เช่น ปรับโครงสร้างหนี้ ช่วยเหลือ SME กระตุ้นเศรษฐกิจ ช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง ส่วนนโยบายระยะกลาง และระยะยาว ก็จะต่อยอดอุตสาหกรรมเดิม การเสริมสร้างด้านการสร้างสรรค์ และ soft power โครงสร้างพื้นฐานทางด้านคมนาคม aviation hub ระบบสาธารณูปโภค และการพัฒนาคน ส่วนรายละเอียดขอให้รอฟังในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ในวันที่ 12 – 13 ก.ย.นี้
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นอกจากนี้ยังขอให้รัฐมนตรีทุกคนช่วยกันดำเนินการต่อเนื่องจากงานของนายกฯเศรษฐา โดยเฉพาะการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น การจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว การดูแลสินค้าเกษตร การดูแลกลุ่มเปราะบาง การแก้ปัญหาน้ำท่วมและช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และขอให้ทุกกระทรวงดำเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง ในพิธีเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ ตลอดทั้งปี
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะเริ่มทำงานตั้งแต่ตอนนี้อยากทราบว่านายกฯมีเวลา 3 ปี ดังนั้นจะใช้เวลาเท่าไหร่ในการประเมินผลการทำงานของตัวเองและครม. นายกฯ กล่าวว่า การวัดการประเมินต่างๆคิดว่าเราต้องดูกันตลอด เพราะอย่างที่บอกไว้เราจะทำงานแข่งกับเวลา แต่ส่วนของนโยบายต่างๆ หรือกระทรวงต่างๆต้องขึ้นอยู่กับว่านโยบายนั้นคือนโยบายอะไร ในใจคิดแน่นอนว่าจะต้องสรุปให้พี่น้องประชาชนฟังใน 3 เดือนแรกแน่นอน แต่ตัวของตนใน ครม.ก็ได้มีคอมเม้นต์แยก ขออนุญาตนัดรัฐมนตรีมาคุยกันทุกอาทิตย์ แต่สลับกระทรวงกันไป และได้ให้เวลาเรียบร้อยว่าจะสรุปช่วงไหน เพราะบางทีรัฐมนตรีหรือเราอาจจะอยากปรึกษากัน ก็อยากให้การทำงานเป็นไปอย่างใกล้ชิด ไม่อยากให้พอมอบหมายอะไรไปแล้วไม่สามารถตามได้ว่าอยู่ตรงไหน ซึ่งจริงๆทุกท่านก็มีความตั้งใจที่จะทำทุกนโยบายอยู่แล้ว ฉะนั้นอันนี้คิดว่าน่าจะเป็นส่วนช่วยกระตุ้นให้เกิดการทำงานได้เร็วขึ้น
เมื่อถามว่านโยบายที่จะแถลงต่อรัฐสภามีอะไรที่แตกต่างจากรัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี นายกฯพอจะเปิดเผยได้หรือไม่ และเข้าใจความมุ่งมั่นของนายกฯและครม.ในชุดนี้ เพราะดูโปรไฟล์แต่ละคนหน้าตาดี แต่ในสถานการณ์การเมืองปัจจุบันสู้ด้วยนิติสงครามกันเยอะ นายกฯจะสู้รบอย่างไร มีทีมที่ปรึกษากฎหมายที่มั่นใจเพื่อให้การทำงานของรัฐบาลบรรลุวัตถุประสงค์ครบ 3 ปีอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า อย่างแรกเลยจริงๆแล้วทุกๆท่านมีความตั้งใจอยู่แล้วในเรื่องของกฎหมายต่างๆเรามีทีมกฎหมายอย่างแน่นอน แต่แน่นอนทั้ง ครม. มีทั้งผู้มีประสบการณ์และมีทั้งรัฐมนตรีใหม่เช่นกัน ฉะนั้นเราปรึกษากันและกันด้วย เพราะด้วยประสบการณ์เหล่านี้ต้องช่วยกันตีความหมายของกฎหมายในบางเรื่องด้วย บางทีบางเรื่องไม่ได้ตอบได้ขาวหรือดำ แต่แน่นอนต้องมีความตั้งใจและดูทุกอย่างปรึกษาทุกหน่วยงานให้รอบคอบรัดกุม
“และอยากจะขอความร่วมมือเลยเราเองอยากทำงานให้ครบ 3 ปีเพื่อให้เกิดความต่อเนื่องของการทำงาน ซึ่งอย่างตอนนี้ที่ได้เปลี่ยนนายกฯและ ครม.เราก็พยายามจะตอกย้ำและยืนยันว่าตั้งแต่ของนายกฯเศรษฐา ซึ่งเป็นนายกฯจากพรรคเพื่อไทยเช่นกัน ฉะนั้นนโยบายที่เคยปรึกษาพรรคร่วมฯมาแล้วก็ค่อนข้างที่จะคล้ายเดิม และนโยบายครั้งนี้เราก็ได้ปรึกษาพรรคร่วมฯอีกเช่นกัน ก็เป็นนโยบายที่ต่อเนื่องจากนายกฯเศรษฐา และเป็นความเห็นของพรรคร่วมฯและครม.ทุกท่านว่ามีตรงไหนไหมที่จะปรับแก้อย่างไรบ้างให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคำปรับแก้ต่างๆจะทำให้เราสามารถดำเนินนโยบายได้อย่างเต็มที่ และนโยบายที่เราได้มารวบรวมการแถลงในเล่มเป็นนโยบายที่เราใช้ตั้งแต่ตอนหาเสียง และได้ตกลงกับพรรคร่วมฯจนมาถึงอันนี้ก็แอบแง้มได้เลยว่าค่อนข้างนโยบายเหมือนเดิม มีการปรับแก้ให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน และมั่นใจว่าจะสามารถทำนโยบายได้สำเร็จ” นายกฯกล่าว
เมื่อถามว่า แสดงว่านายกฯไม่ได้กังวลกับคิวกฐินที่รออยู่ข้างหน้าอย่างมากมายใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวย้อนถามว่าคิวกฐินเลยหรอ อันนี้คำเปรียบเทียบใช่ไหมคะ ผู้สื่อข่าวถามอีกว่าหมายถึงมีนักร้องที่จะร้องในหลายๆคดีตามมา น.ส.แพทองธาร หัวเราะพร้อมกล่าวว่า “แค่สื่อมวลชนถามก็สงสารแล้วเนาะ ที่ผ่านมาตั้งแต่เกิดมาก็ไม่เคยมีคดีนะคะ พอมาถึงจุดนี้มีคดีก็จะพยายามรับมือให้ได้ดีที่สุด และจริงๆไม่อยากมีคดี ลูกยังเล็กอยู่เลยนะคะ”
เมื่อถามว่า เมื่อก้าวมานามสกุลชินวัตร นายกฯปฏิเสธไม่ได้ด้วยความเป็นพ่อลูกกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ทำให้มองว่าระบอบทักษิณกลับมาอีกแล้ว และมีการปรามาสว่ายังไงนายกฯหนีไม่พ้นเงานายทักษิณ ตรงนี้จะให้ความมั่นใจหรือความเชื่อมั่นว่าจะลบคำปรามาสตรงนี้อย่างไร นายกฯ กล่าวว่า จะไม่ขอตอบเรื่องท่านทักษิณแล้ว เพราะว่าเราต้องเดินไปข้างหน้า วิสัยทัศน์ที่ดีไม่ว่าจะมาจากใครก็ตาม อายุเท่าไหร่ก็ตามวิสัยทัศน์ที่ดีคือสิ่งที่ดี ฉะนั้นขอตอบแค่นี้
เมื่อถามว่ากรณีที่บอกจะเริ่มทำทันทีโดยเฉพาะการกระตุ้นเศรษฐกิจในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตหมื่นบาท ก.ย.นี้เห็นได้ทันทีหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ในเรื่องของไทม์ไลน์ต้องขออนุญาตให้ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง พูดในรายละเอียด แต่แน่นอนการกระตุ้นเศรษฐกิจเกิดขึ้นทันทีแน่นอน เพราะเป็นข้อแรกที่เราต้องเน้นย้ำและผลักดันต่อไป
น.ส.แพทองธาร ยังตอบคำถามสื่อมวลชนต่างประเทศ ที่สอบถามถึงกรณีที่หลายประเทศมีความกังวลต่อสถานการณ์ทางการเมืองของไทย นายกฯจะสื่อสารกับต่างชาติเกี่ยวกับอนาคตของประเทศไทย และเสถียรภาพทางการเมืองของประเทศอย่างไร ว่า ยืนยันว่า ตนเองพร้อมที่จะทำให้ประเทศกลับมามีอนาคต และวันนี้ในฐานะนายกรัฐมนตรี ก็พร้อมที่จะเดินหน้า ซึ่งเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเดือนส.ค.ที่ผ่านมานั้น ก็เป็นความโชคร้ายของนายเศรษฐา ซึ่งพวกเราเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น แต่พวกเราก็พร้อมที่จะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด เพื่อให้รัฐบาลอยู่ครบวาระ และส่งต่อนโยบายของรัฐบาลไปสู่ประชาชน