จะเจ๊าหรือเจ๊ง! ‘ฝ่ายค้าน’ ปลุกท้าพิสูจน์ 3 ปีรัฐบาลต่อจากนี้ อัด 1 ปีผ่านสูญเปล่า หลายนโยบายไร้รูปธรรม สับแหลก ‘สารพัดเรือธง’ มีประชาชนอยู่ตรงไหน นอกจากเอื้อ ‘3 นาย’ ติง ‘นายกฯอิ๊งค์’ ออกนอกสคริปต์ โชว์ภาวะผู้นำบ้าง ปม ‘แก้รธน.-ปฏิรูประบบราชการ-ภาษี’
เมื่อวันที่ 12 ก.ย.67 เวลา 10.20 น. ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณาเรื่องด่วน คณะรัฐมนตรี (ครม.) แถลงนโยบายต่อรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญมาตรา 162 โดยนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ, หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านฯ ลุกขึ้นอภิปรายว่า ตนขอตั้งคำถาม มีนโยบายอะไรที่ได้ผลเป็นรูปธรรมบ้าง อาทิ นโยบายด้านสวัสดิการสังคม ไม่ได้ทำตามนโยบายที่หาเสียง และนโยบายรัฐบาลชุดที่ผ่านมา เช่น เงินอุดหนุนเด็ก เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เงินอุดหนุนคนพิการ รวมถึงปัญหายาเสพติด สะท้อนให้เห็นว่าคนไทยไม่มีความมั่นคงในชีวิต
“หลายปัญหาที่เกิดไม่ใช่ปัญหาใหม่ ประชาชนคาดหวังรัฐบาลที่เพื่อไทยเป็นแกนนำมาแก้ปัญหา ช่วง 11 เดือนที่ผ่านมา จากการสำรวจของสำนักข่าวแห่งหนึ่ง ระบุว่า มีข้อสั่งการเทียบเท่ามติ ครม. 193 เรื่อง ส่งต่อ 251 หน่วยงานรัฐ และ 162 เรื่องไม่มีกรอบเวลามี 10 เรื่องที่หน่วยงานรายงานกลับต่อ ครม. คือ รับลูกและเอาด้วย เพราะรัฐบาลขาดอำนาจนำในการบริหารราชการ และสั่งการที่ราชการไม่ปฏิบัติตาม ซึ่งปัญหาอาจอยู่ที่ไม่เข้าใจระบบราชการ หรือการไม่มีอำนาจ ซึ่งหนึ่งปีของรัฐบาลนั้นสูญเปล่า” นายณัฐพงษ์ กล่าว
นายณัฐพงษ์ กล่าวต่อว่า 3 ปีของรัฐบาลหลังจากนี้เป็นบทพิสูจน์ว่าจะเจ๊า หรือ เจ๊ง ซึ่งมีความท้าทายในประเด็นเรื่องการศึกษา รวมถึงการแก้ปัญหาอาชญากรรมออมไลน์ รวมไปถึงประเด็นค่าแรง ขณะเดียวกันในปัญหาภัยพิบัติ ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แม้ประเด็นปัญหาดังกล่าวบรรจุในนโยบายรัฐบาล แต่สิ่งที่ต้องการเห็นคือ รายละเอียดที่ต้องการให้ ครม. ตอบ โดยเฉพาะนโยบายเร่งด่วน 10 ข้อต้องมีรายละเอียด พร้อมปฏิบัติได้ทันที
“นโยบายเรือธงของรัฐบาลมีเป้าหมายของประชาชนอยู่ตรงไหน คือเป็นนโยบายเรือธง ให้ 3 นาย คือ นายใหญ่ นายหน้า และ นายทุน เช่น นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ที่เป็นนโยบายเรือธงให้นายใหญ่ได้ขึ้น นโยบายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่มีข้อสงสัยถึงการเปิดกว้างหรือล็อกการประมูล เพื่อเอื้อนายทุน และโครงการแลนบริดจ์ในการใช้งบประมาณของรัฐเพื่อเวนคืน เอื้อให้นายหน้าค้าที่ดินหรือไม่” นายณัฐพงษ์ อภิปราย
นายณัฐพงษ์ อภิปรายด้วยว่า สำหรับนโยบายแก้รัฐธรรมนูญควรเป็นนโยบายเร่งด่วน ที่ควรทำเพื่อประชาชนที่เป็นนายของรัฐบาล ซึ่งประเด็นนี้อาจทำให้รัฐบาลเจ๊าหรือเจ๊ง หากไม่ทำในวาระเร่งด่วน ทั้งนี้น.ส.แพทองธาร เป็นนายกฯ และเป็นผู้นำสูงสุดฝ่ายรัฐบาล ตนอยากให้ลุกขึ้นชี้แจงนอกสคริปต์ แสดงบทบาทความเป็นผู้นำที่ดี ชี้นำความคิด และควรชี้นำรัฐบาลว่าการแก้รัฐธรรมนูญเป็นวาระเร่งด่วน คู่ขนานกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ที่พรรคประชาชนเสนอร่างแก้ไข 4 ฉบับ ทั้งประเด็นมาตรฐานจริยธรรม เลิกยุทธศาสตร์ชาติ ยกเลิกมาตรา 279 เพิ่มหมวดป้องกันและต่อต้านการรัฐประหาร รวมถึงการปฏิรูประบบงบประมาณ ภาษี
“เรื่องปฏิรูประบบงบประมาณ ระบบภาษี พรรคประชาชนส่งร่างกฎหมายหลายฉบับ และรอให้ นายกฯ ให้คำรับรอง หากเห็นด้วยร่วมกัน ในร่างกฎหมายและนโยบายด้านใด ให้เซ็นกลับมาเดินหน้าในสภาฯร่วมกันใน 3 ปีต่อจากนี้” นายณัฐพงษ์ กล่าว