“แทนคุณ” ยื่นปธ.วุฒิฯ สอบจริยธรรม ”สว.อลงกต“ หลังทำท่าแกล้งร้องไห้ ระหว่างถกแก้ปัญหาน้ำท่วม ชี้เป็นพฤติกรรมเยาะเย้ย ล้อเลียน ไม่เคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์กระทบความรู้สึก ปชช.
วันที่ 17 ก.ย.2567 เวลา 11.00 น.ที่รัฐสภา นายแทนคุณ จิตต์อิสระ อดีต สส.กทม. และประธานชมรมสันติประชาธรรม ยื่นหนังสือต่อ นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ผ่านทางเจ้าหน้าที่กลุ่มงานประธานวุฒิสภา เพื่อขอให้ตรวจสอบ นายอลงกต วรกี สมาชิกวุฒิสภา (สว.) มีการกระทำที่อาจผิดต่อมาตรฐานจริยธรรมและมีลักษณะต้องห้ามหรือไม่ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 10 ก.ย. ที่ผ่านมา สว. ได้มีการอภิปรายถึงความจําเป็นในการตั้งกรรมาธิการเพื่อศึกษาเรื่องปัญหานํ้าท่วม โดย นายเศรณี อนิลบล สว.ได้อภิปรายสะท้อนความทุกข์ยากของพี่น้องประชาชนจากประสบการณ์ตรงของตนเอง และในระหว่างอภิปรายได้รํ่าไห้ออกมาด้วยความคับแค้นใจ ถึงความเจ็บปวดของคนไทยที่ทุกข์มามากกว่า 10 ปี ที่เวลาน้ำท่วมบ้านไม่สามารถไปไหนได้ อาหารการกินก็ลําบากยากเข็ญ ถนนเสียหาย พี่น้องเกษตรกรไม่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ โดยล่าสุดในปีนี้ในสถานการณ์ที่มีน้ำท่วมใหญ่ในหลายจังหวัดภาคเหนือ โดยเฉพาะจังหวัดเชียงราย มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บจํานวนมาก มีทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนเสียหายอย่างหนักเป็นประวัติการณ์อีกครั้งหนึ่ง
แต่ต่อมา นายอลงกต วรกี สว. ได้อภิปรายถึงทางแก้ไขเรื่องนี้ โดยนายอลงกต ได้ทำท่าแกล้งร้องไห้ โดยระบุว่า “ฟังแล้วก็อยากจะร้องไห้เหมือนกัน แก้กันมานาน แก้ไม่ได้ซักที มีกระดาษทิชชู่ไหมครับ” โดยมองว่า พฤติกรรมดังกล่าวของ นายอลงกต ที่แกล้งร้องไห้ ล้อเลียนเยาะเย้ยถากถาง เสียดสี เต็มไปด้วยอคติ และไม่เคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ขัดกับประมวลจริยธรรม ระบบคุณธรรม และไม่เป็นแบบอย่างที่ดี เสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ ของการเป็นสมาชิก ทั้งต่อสมาชิกวุฒิสภาด้วยกัน และที่เลวร้ายที่สุด คือ การอภิปรายดังกล่าวกระทบต่อความรู้สึกของพี่น้องประชาชนที่ติดตามอภิปรายดังกล่าวต่อกรณีนํ้าท่วม ที่ประชาชนเดือดร้อนอย่างสาหัส จึงเป็นเรื่องน่าเสียดายต่อเกียรติภูมิที่ นายอลงกต เคยเป็นถึงอดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี
ดังนั้น จึงขอให้ทางคณะกรรมการจริยธรรม วุฒิสภา ได้ดําเนินการตรวจสอบพฤติกรรมดังกล่าวของ นายอลงกต โดยทางชมรมจะติดตามการทํางานของคณะกรรมการจริยธรรม วุฒิสภาในการดําเนินการตามที่ร้องเรียนอย่างใกล้ชิดและจริงจัง หากผลของคณะกรรมการจริยธรรม วุฒิสภา มีการช่วยเหลือเอื้อประโยชน์ต่อกัน ไม่เป็นไปตามมาตรฐานจริยธรรมที่พึงมีของประมวลจริยธรรมสมาชิกวุฒิสภา และจักได้ดําเนินการยื่นถอดถอนและดําเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป
