วันศุกร์, พฤศจิกายน 22, 2024
spot_img
หน้าแรกNEWS“วุฒิฯ” ถกญัตติด่วนโศกนาฏกรรมไฟไหม้รถบัสนร.เดือด! “วันไชย” ไล่รมต.คมนาคม-ผู้บริหารลาออก
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“วุฒิฯ” ถกญัตติด่วนโศกนาฏกรรมไฟไหม้รถบัสนร.เดือด! “วันไชย” ไล่รมต.คมนาคม-ผู้บริหารลาออก

“วุฒิสภา” ถกญัตติด่วนโศกนาฏกรรมไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา ด้าน “รัชนีกร” สุดเศร้า-กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ สะท้อนทุจริต เบ่งบานทุกหย่อมหญ้า ชงยกเลิกรถใช้ถังแก๊ส เดือด! “วันไชย” ไล่รมต.คมนาคม-ผู้บริหารลาออก เซ่นปมมรณะ ยกเหตุการณ์ “เรือเซวอล” ล่มเจ้าหน้าที่ยังผูกคอตาย นายกฯ-ประธานาธิบดีต้องออก “สว.นันทนา” ตั้งถามวัดผลอย่างไร เอาเด็กอนุบาลไปดูงานโรงไฟฟ้า ด้าน “วุฒิชาติ” ยกคลิปตปท.สอนเด็กเอาตัวรอดในเหตุการ์ณฉุกเฉิน ชงบรรจุในหลักสูตรการศึกษา สรุปส่งข้อเสนอแนะให้ครม.ดำเนินการต่อ

วันที่ 7 ต.ค.2567 เวลา 11.00 น. ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา ที่มีพล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานการประชุม โดยนายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร สมาชิกวุฒิสภา(สว.) ได้ลุกขึ้นเสนอญัตติด่วน ขอให้วุฒิสภาพิจารณาหาแนวทางในการป้องกัน แก้ไข และช่วยเหลือเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น จากกรณีเหตุไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษาของนักเรียน เพื่อเสนอไปยังคณะรัฐมนตรีพิจารณาดำเนินการ

นายวุฒิชาติ กล่าวว่า เหตุการณ์เพลิงไหม้รถบัสทัศนศึกษาของนักเรียนโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม อ.ลานสักจ.อุทัยธานี ที่บริเวณถนนวิภาวดีขาเข้า หน้าอนุสรณ์สถาน จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา ทำให้มีนักเรียนบนรถไม่สามารถหนีออกมาได้ทัน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตถึง 23 ราย สร้างความสะเทือนใจให้กับครอบครัวผู้สูญเสียและสังคมอีกทั้งก่อให้เกิดคำถามถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ ทั้งมาตรฐานความปลอดภัยของตัวรถ มาตรฐานการตรวจสอบและความปลอดภัยคของตัวรถจากหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง รวมถึงความรู้และความสามารถของผู้ขับในการป้องกัน การระงับเหตุ การเตรียมความพร้อม และการซักซ้อมให้กับผู้โดยสารหากเกิดเหตุ นอกจากจะพิจารณาหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุแล้ว สิ่งสำคัญต้องพิจารณาการช่วยเหลือเยียวยา โดยเฉพาะญาติและครอบครัวของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างเหมาะสมและเป็นธรรม แม้จะไม่คุ้มค่าต่อการเสียคนที่รักในครอบครัวไปก็ตาม

จากนั้นน.ส.รัชนีกร ทองทิพย์ สว. ได้ขอลุกขึ้นอภิปรายด้วยเสียงที่สะอื้นตั้งแต่เริ่ม ว่า เป็นเรื่องที่ยากมากที่จะพูด แต่ต้องพูดให้เกิดการแก้ไขปรับปรุง ไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก ในวันที่ 1 ต.ค. เป็นช่วงปิดเทอมเด็กๆ วัยบริสุทธิ์ไร้เดียงสา ตื่นเต้น ดีใจที่จะได้ไปเที่ยวกับคุณครูและเพื่อนๆ บางคนเป็นครั้งแรกในชีวิต แต่ก็กลายเป็นครั้งสุดท้ายผู้ใหญ่ควรตั้งคำถามว่าเราปล่อยให้เป็นแบบนี้ได้อย่างไรในสังคมไทย จึงขอเสนอให้ยกเลิกรถขนส่งสาธารณะที่มีการติดตั้งถังแก๊สไว้ เพราะจะกระทบต่อความปลอดภัยของบุคคลทั่วไป หรือควรติดตั้งสติกเกอร์ที่ระบุว่ารถคันดังกล่าวมีการติดตั้งระบบแก๊ส เพื่อประกอบการตัดสินใจของผู้ใช้บริการ รวมถึงควรมีการติดตั้งระบบตัดไฟอัตโนมัติด้วยสารเคมีในรถขนส่งสาธารณะ รวมถึงรถไฟฟ้าในอนาคต การออกแบบการรับรองมาตรฐานแนวเรื่องการติดตั้งถังแก๊ส ประตูฉุกเฉิน รวมถึงการอบรมผู้ขับขี่ที่ถือใบอนุญาตผู้ขับรถทุกประเภทชนิดที่ 2 ให้ผ่านการทดสอบหลักสูตรการเผชิญเหตุและรับผิดชอบผู้โดยสารและต้องตรวจสอบเป็นระยะทุกปี ไม่ใช่ครั้งแรกครั้งเดียวแล้วหายไป

น.ส.รัชนีกร กล่าวด้วยว่า ประเทศไทยมีปัญหาการทุจริตเบ่งบานไปทุกหย่อมหญ้า ในลักษณะกินบ้านกินเมืองเหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้เห็นชัดเจนว่ามีเรื่องนี้จริงๆในสังคมไทย จนมีคำถามว่าหากรถขนส่งสาธารณะรวมถึงผู้ประกอบการ เห็นว่ารถของตัวเองไม่สามารถตรวจสภาพผ่าน ก็อาจใช้เงินจำนวนมากในการดูแลผู้มีหน้าที่หรือไม่ จึงอยากให้มีการเข้าไปดูแลเรื่องนี้อย่างจริงจัง ก่อนที่เหตุการณ์เลวร้ายจะเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีกจนไม่มีจุดสิ้นสุด ขอให้เหตุการณ์ในครั้งนี้เป็นบทเรียนและตระหนักให้มีการเตรียมความพร้อมป้องกัน และหวังว่าจะไม่ทำเฉพาะช่วงนี้แต่ต้องทำอย่างจริงจังให้มีผล กับสังคมไทยเสียที

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการอภิปราย มีหลายจังหวะที่น.ส.รัชนีกรนิ่งไปชั่วขณะ ในช่วงท้ายน.ส.รัชนีกร ถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ร้องไห้อภิปรายทั้งน้ำตาว่า สุดท้ายนี้ ตนขอสดุดีคุณครูที่เสียชีวิตทั้ง 3 คน ได้แก่ น.ส.พิมพ์ทอง สมบัติ , น.ส.สรัญญา หอมเกสร และน.ส.กนกวรรณ ศรีพร

“ภาพสุดท้ายที่กู้ภัยไปเห็นคือท่านกอดกันและนักเรียนอยู่ตรงกลาง ท่านทำหน้าที่ครูจนถึงนาทีสุดท้าย ดิฉันขอคารวะท้ายที่สุดนี้ขอมอบบทกลอนที่แต่งด้วยตัวเองตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. ที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าตั้งแต่นั้นมานอนไม่หลับเลยเพราะเป็นคนที่มีลูกเล็กอายุ 6 ขวบ ดิฉันเข้าใจความสูญเสีย เข้าใจว่าเด็กอายุเท่านั้นไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ไม่สามารถหาทางหนีออกมาเองได้ สังคมไทยต้องกลับมาแก้ไขอย่างจริงจังเสียที” น.ส.รัชนีกร กล่าว

ด้านพล.ต.ท.วันไชย เอกพรพิชญ์ สว. ลุกขึ้นอภิปราย เรียกร้องให้ผู้บริหารของกระทรวงคมนาคมลาออก โดยยกตัวอย่างเหตุการณ์โศกนาฏกรรมเรือเซวอล ประเทศเกาหลีใต้เป็นบรรทัดฐาน พร้อมกล่าวว่า เหตุการณ์นั้น เจ้าหน้าที่เรือยังต้องผูกคอตาย นายกรัฐมนตรีสมัยนั้นยังประกาศลาออก ประธานาธิบดีโดนถอดถอนออกจากตำแหน่ง ตนจึงถามหาความรับผิดชอบ

“รัฐมนตรีคมนาคมท่านต้องลาออก อธิบดีกรมขนส่งทางบกท่านต้องลาออก ท่านทำให้ได้สิครับ สร้างบรรทัดฐานให้กับพี่น้องคนไทย ผมไม่รู้ว่าท่านคิดอย่างไร แต่วันนี้สิ่งที่เกิดขึ้น ไม่เคยทำ และที่ผ่านมาก็ไม่เคยทำ และเดี๋ยว PM 2.5 มา น้ำท่วมมา ท่านก็เอาเรื่องพวกนี้ เป็นประเด็นไป ผมก็ฝากถึงผู้บริหารในรัฐบาลว่าอย่าให้มันเกิดมาอีกเลยครับ ขอให้ท่านดำเนินการในส่วนนี้ กำกับดูแลให้ผู้มีส่วนรับผิดชอบที่แท้จริง แล้วผมก็มีคำถามในวันจันทร์หน้าที่จะถึงในกระทู้สด ขอบคุณครับท่านประธาน” พล.ต.ท.วันไชย กล่าว

ขณะที่น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว. ลุกอภิปรายว่า ตนในฐานะที่เป็นทั้งครูและแม่ เข้าใจความรู้สึกสูญเสียของพ่อแม่ จึงอยากเสนอแนวทางให้รัฐบาลเพื่อให้โศกนาฏกรรมนี้เป็นกรณีสุดท้าย เหตุการณ์นี้สะท้อนความล้มเหลวในมาตรการการเดินทางเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในบริบทสวัสดิภาพครูและนักเรียน หนึ่งในสิ่งที่หยิบยกมาพูดถึงอย่างกว้างขวางคือสวัสดิภาพการทัศนศึกษาต้องได้รับการดูแลแบบใด เราลองนึกดูว่าถ้าเอาด็ก 7 ขวบ มาทัศนศึกษากับเด็กอายุ 15 อนุบาลไปจนถึงมัธยม การดูแลจะดูแลอย่างไร แล้วเรื่องครูที่ไปดูแลจะดูแลระดับใด ในเมื่อสัดส่วนอายุมันห่างกันอย่างยิ่ง ต้องไปตรวจสอบว่าต้องดำเนินการอย่างไร มีการตรวจสอบแผนการเดินทางว่าสมเหตุสมผลหรือไม่ นักเรียนจะอิดโรยเหนือกว่าสภาพร่างกายจะรับได้หรือไม่ มีการตรวจสภาพรถโดยสารตามมาตรฐานหรือไม่ มีผู้ขับสำรอง แผนเผชิญเหตุหรือไม่

น.ส.นันทนา ตั้งคำถามว่า โรงเรียนได้มีการประเมินผลจากการทัศนศึกษาหรือไม่ ตนคิดว่าไม่มีเหตุผลมที่กระทรวงศึกษาธิการจะไม่ให้มีการทัศนศึกษา แต่ต้องมีการประเมินผลสัมฤทธิ์สอดคล้องกับวัยที่จะเรียนรู้หรือไม่ ถ้าการเดินทางสุ่มเสี่ยงต่อการเสียชีวิตก็ต้องพิจารณาให้รอบคอบ การนำเด็กอนุบาลไปเรียนรู้เรื่องการไฟฟ้ากับเด็กมัธยม ตนไม่แน่ใจว่าสัมฤทธิ์ผลของการทัศนศึกษาตรงตามเป้าหมายหรือไม่ เด็กอนุบาลจะไปเรียนรู้โรงงานการผลิตไฟฟ้า มันจะตอบโจทย์เป้าหมายของการทัศนศึกษาหรือไม่ เดินทางกว่า 8-9 ชั่วโมง ตรงนี้ต้องดูแล พร้อมแนะนำว่าต้องทำรถบัสนักเรียนเป็นมาตรฐานเดียวกัน สีเดียวกันทั้งประเทศ เพื่อให้เกิดความเข้าใจต่อคนใช้รถใช้ถนน จะได้ระมัดระวัง ถึงเวลาแล้วเมืองไทยจะต้องพิจารณาชีวิตคนบนท้องถนน รัฐบาลต้องสังคายนาเรื่องนี้ เพื่อให้เรื่องนี้เป็นน้ำตาหยดสุดท้ายที่เราจะเสียไป

เมื่อสมาชิกวุฒิสภาอภิปรายจนครบแล้ว นายวุฒิชาติ ได้กล่าวสรุปโดยนำคลิปวิดีโอของต่างประเทศที่มีการสอนเยาวชน ให้เรียนรู้ถึงวิธีการป้องกันภัยต่างๆและการเอาตัวรอดเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน และอภิปรายว่านี่เป็นการเตรียมความพร้อมของเด็ก เป็นการสอนให้เด็กเรียนรู้ตั้งแต่เล็ก ว่าเกิดเหตุการณ์ต่างๆควรจะดำเนินการแก้ไขอย่างไรหรือการเตรียมตัว เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในตัวของเยาวชนเอง ถึงเวลาหรือยังที่เราจะนำสิ่งเหล่านี้บรรจุในหลักสูตรเพื่อสร้างเสริมประสบการณ์เรียนรู้ให้กับเยาวชนที่มีความสามารถในการช่วยเหลือตัวเองได้น้อยมาก ขอบคุณเพื่อนสมาชิกทุกคน ที่ได้อภิปรายโดยเชื่อว่าจากการอภิปรายของสมาชิกทุกคนครบทุกแง่มุมสามารถส่งเป็นข้อสังเกตให้กับรัฐบาลเป็นแนวทางในการปฏิบัติเพื่อต่อยอดสิ่งที่รัฐบาลหากดำเนินการแล้วยังขาดสิ่งใดนำข้อสังเกตของสมาชิกส่งไป

นายวุฒิชาติ กล่าวสรุปว่า 1.ถึงเวลาที่มีการขึ้นบัญชีรถโดยสารหรือรถเช่าเหมาให้บริการกับเด็กเล็กหรือผู้สูงอายุ โดยกรมการขนส่งทางบกเป็นเจ้าภาพ ดำเนินการว่ามีบริษัทใดบ้างสามารถจัดรถให้บริการให้กับผู้สูงอายุและเด็กนักเรียน 2. เลิกการอ้างถึงงบประมาณที่จำกัดในการว่าจ้างรถ เกิดกรณีการตรวจบริการรถที่ไม่ถูกต้องตามข้อเท็จจริง หรือการตรวจทริปที่ไม่คำนึงถึงความปลอดภัย 3. การให้ความรู้กับผู้โดยสารสาธารณะก่อนออกเดินทาง เส้นทางออกฉุกเฉินรถบัส หรือวิธีการเปิดทางออกฉุกเฉิน 4. การตรวจสภาพรถจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเช่นจากกรมการขนส่งหรือบริษัทเอกชน ตรอ. แม้จะตรวจตามจรรยาบรรณแต่ผู้ประกอบการไปดัดแปลงเพิ่มเติมจะต้องมีการตรวจติดตาม ไม่เพียงแค่รอครบ1ปี 5. ฝากถึงสถานศึกษาเรื่องการจัดสัมมนาหรือทัศนศึกษาต้องกำหนดความเหมาะสมของอายุ เช่น เด็กอนุบาลหรือเด็กที่ต้องได้รับการช่วยเหลือควรเดินทางในระยะใกล้หรือมีผู้ปกครองเดินทางด้วย 6. เมื่อแก๊สรั่วไม่มีสัญญาณเตือนบอก จนทำให้เกิดเพลิงไหม้ จึงมีข้อเสนอว่าให้ใส่กลิ่นเพิ่มเติมเข้าไปเพื่อที่เป็นการเตือนหรือส่งสัญญาณว่าเกิดเหตุแก๊สรั่ว 7. การอบรมให้ความรู้แก่พนักงานประจำรถ ควรเพิ่มความรู้ใหม่ และประตูทางออกฉุกเฉินที่ด้านนอกจะต้องอยู่ในระยะที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ โดยทิ้งท้ายฝากข้อสังเกตของสมาชิกวุฒิสภาไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยว หากข้อเสนอแนะใดที่เป็นประโยชน์เชื่อว่ารัฐบาลสามารถนำไปต่อยอดดำเนินการได้

จากนั้นนายบุญส่ง น้อยโสภณ รองประธานวุฒิสภาคนที่สอง กล่าวในช่วงท้าย ถึงข้อสังเกตเรื่องการติดตั้งถังดับเพลิงอัตโนมัติอัตโนมัติตามมาตรฐานสากล การตรวจสอบสภาพรถและผู้ขับขี่โดยกำหนดมาตรฐานในการตรวจสอบอย่างเข้มงวด การออกใบอนุญาตและความรับผิดของผู้ครอบครองหรือผู้ถือครองกรรมสิทธิ์ การบูรณะการดำเนินงานระหว่างหน่วยงานของรัฐ กระทรวงศึกษาธิการ กรมการขนส่งทางบก และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง การยกระดับการให้บริการผู้ประกอบกิจการ การขนส่งให้มีประสิทธิภาพมาตรฐาน จัดสรรงบประมาณสำหรับโรงเรียนที่ขาดแคนและทบทวนการจัดทัศนศึกษา หลังจากนี้มอบหมายให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ดำเนินการส่งข้อสังเกตไปยังคณะรัฐมนตรีดำเนินการต่อไป

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img