“ธนกร“ ขอทุกฝ่ายเพลาเล่นการเมืองลงบ้าง แนะ ร่วมมือแก้ปัญหาวิกฤตน้ำท่วม บรรเทาความเดือดร้อนประชาชนก่อน มอง ควรให้เวลานายกฯ-รัฐบาลทำงาน ชี้ แต่หากพบข้อบกพร่องจริง ก็ยึดตามกระบวนการกฎหมาย
วันที่ 12 ต.ค.67 นายธนกร วังบุญคงชนะ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า ขณะนี้ทั้งจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดเชียงรายยังไม่พ้นวิกฤตสถานการณ์น้ำท่วมหลายพื้นที่ บางพื้นที่น้ำลดแล้วแต่ก็ยังมีโคลนเกาะแน่น ซึ่งรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ระดมสรรพกำลังพร้อมอุปกรณ์ลงไปช่วยอย่างเต็มที่ โดยทุกคนต่างทำงานอย่างหนักเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน อาทิ พลเอกณัฐพล นาคพานิช รมช.กลาโหม ในฐานะที่ปรึกษาศปช.ส่วนหน้า ได้ลงไปปักหลักติดตามและแก้ไขสถานการณ์ถึงหน้างานในจังหวัดเชียงรายที่สถานการณ์ยังคงหนักอยู่ ขณะที่ฝ่ายค้าน ยังมีบางพรรคการเมืองที่จ้องจะใช้การไม่ได้มาตอบกระทู้ถามสดในสภาฯ เป็นประเด็นโจมตีรัฐบาล ตรงนี้ตนมองว่าไม่เหมาะสม ขอให้ทุกฝ่ายลดวาทกรรม หรือเพลาการเล่นเกมการเมืองลงบ้าง ในสถานการณ์ที่ประชาชนเดือดร้อนอย่างนี้ ขอให้ทุกฝ่ายร่วมมือร่วมใจช่วยผู้ประสบภัยก่อนจะดีกว่า
เมื่อถามว่า มองความเคลื่อนไหวทางการเมืองเรื่องการยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ โดยเป้าหมายไปถึงการยุบพรรคเพื่อไทยและบางคนมองว่าอาจเป็นตัวเร่งให้มีการเปลี่ยนตัวนายกฯอีกครั้งนั้น นายธนกร กล่าวว่า หากประเด็นใดเข้าข่ายผิดหรือขัดต่อข้อกฎหมายจริง ๆ ก็เป็นดุลพินิจของศาลที่จะวินิจฉัย ซึ่งตนไม่ก้าวล่วง แต่เชื่อมั่นว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญยึดตามกระบวนการกฎหมายอย่างตรงไปตรงมา
นอกจากนี้ ยังมีประเด็นดราม่าจับผิดนายกฯเรื่องการใช้ไอแพด การแต่งกายต่าง ๆ นานา ตนมองว่า สังคมควรจับจ้องประเด็นหลักเรื่องการทำงาน การแก้ปัญหาต่างๆ รวมถึงนโยบายทั้งหมดที่ได้แถลงต่อรัฐสภาไว้ รัฐบาลสามารถเดินหน้าทำตามที่ได้แถลงไว้ได้หรือไม่มากกว่า
“ส่วนตัวมองว่าควรให้โอกาสและให้เวลานายกฯและรัฐบาลได้ทำงานพิสูจน์ฝีมือให้ประชาชนเห็น ว่าได้ทำตามที่หาเสียงและได้แถลงต่อรัฐสภาไว้แล้ว ทำได้จริงหรือไม่ หากมีข้อผิดพลาดบกพร่องก็ต้องรับผิดชอบตามกระบวนการ ซึ่งทุกฝ่ายก็ควรให้กำลังใจและให้โอกาส ไม่ใช่มัวแต่จ้องจับผิดและสร้างประเด็นดราม่าโจมตีกันไปมา ควรใช้โอกาสที่มีสถานการณ์วิกฤต ร่วมมือร่วมใจกันช่วยเหลือประชาชน ให้สามารถก้าวพ้นความทุกข์ยากเดือดร้อนในช่วงนี้ไปให้ได้” นายธนกร กล่าว