“เทพไท” ชี้ 6 คำร้องต่อศาลรธน.มีแค่ 2 เรื่องคือรพ.ชั้น 14 และครอบงำพรรคที่เข้าเป้า แต่ทำพรรคเพื่อไทย “ปากกล้า-ขาสั่น” เหน็บรมต.-กรรมการบริหารพรรค ใจเย็นๆ อย่าพึ่งสบประมาท เดี๋ยวจะหน้าแตกแบบหมอไม่รับเย็บ
เมื่อวันที่ 12 ต.ค.67 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตสส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง “คำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญพรรคเพื่อไทย ปากกล้าขาสั่น” โดยระบุว่า กรณีนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ยื่นคำร้องขอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้นายทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย เลิกการกระทำที่เป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพอันจะนำไปสู่การล้มล้างการปกครองระบอบ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 นั้น
ใน 6 ประเด็นที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ร้องศาลรัฐธรรมนูญ ส่วนตัวเห็นว่า ประเด็นที่มีน้ำหนักมาก น่าจะเป็นเรื่องที่ 1 พรรคเพื่อไทยสั่งรัฐบาลให้จัดที่พักชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจให้แก่นายทักษิณ กับเรื่องที่ 4 นายทักษิณสั่งพรรคเพื่อไทยให้เสนอชื่อนายกรัฐมนตรีหลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้นายเศรษฐา ทวีสิน พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ส่วนอีก 4 เรื่องนั้น เป็นประเด็นทั่วไปมีน้ำหนักไม่มากนัก แต่เรื่องที่ 1 กับเรื่องที่ 4 ถ้าหากฝ่ายผู้ร้องมีพยานหลักฐานชัดเจน เชื่อว่าทำให้มีการได้เสียทางการเมืองอย่างแน่นอน
การที่รัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้ และสมาชิกพรรคเพื่อไทยหลายคน ออกมาสบประมาทว่า เป็นเรื่องไร้สาระบ้าง เป็นประเด็นหน่อมแน้มบ้าง เป็นเรื่องเลอะเทอะบ้าง น่าจะเป็นการแสดงความเห็นในลักษณะปลอบใจตัวเองมากกว่า ถ้าหากคิดว่า ประเด็นที่นายธีรยุทธยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ไม่สามารถเอาผิดกับนายทักษิณ และพรรคเพื่อไทยได้ น่าจะเป็นการประเมินพำพำพำพำพำที่ต่ำเกินไป
ถ้าหากพิจารณาในคำร้องทััง 6 ข้อแล้ว พบว่าในเรื่องที่ 1 การที่นายทักษิณรักษาตัว ที่โรงพยาบาลตำรวจ ชั้น 14 โดยไม่ได้ป่วยจริง และมีหลักฐานยืนยันชัดเจน จะทำให้มีความผิดในการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขใด
ส่วนในเรื่องที่ 4 การที่นายทักษิณครอบงำพรรคการเมืองในการเสนอตัวนายกรัฐมนตรี ถ้ามีการยืนยันในพยานหลักฐาน ไม่ว่าจะเป็นพยานบุคคล คลิปเสียง หรือคลิปวิดีโอ เกี่ยวกับการล็อบบี้พรรคการเมือง ให้เสนอชื่อนายชัยเกษม นิติสิริ หรือนางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ก็จะเป็นหลักฐานยืนยันว่า นายทักษิณเป็นบุคคลภายนอกที่ครอบงำพรรคการเมืองจริง จะมีผลกระทบต่อการยุบพรรคการเมืองที่เกี่ยวข้องทั้งหมด จะสร้างผลสะเทือนทางการเมืองมากที่สุด
อยากให้สมาชิกพรรคเพื่อไทยระดับรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้ ใจเย็นๆ อย่าพึ่งสบประมาท เดี๋ยวจะหน้าแตกแบบหมอไม่รับเย็บ อย่าออกมาดิสเครดิตผู้ร้องในลักษณะปากกล้าขาสั่นอีกเลย