“เลิศศักดิ์” ฉะ “พปชร.”ปูดอักษรย่อคนเพื่อไทยเอี่ยว ดิไอคอน ซัด ไร้สาระ ไล่ไปแก้ปัญหาพรรคตัวเองก่อน ไม่ใช่มาโยนให้พรรคอื่น ลั่น กมธ.ฟอกเงินฯ สอบให้ถึงที่สุด หากโยงถึง นักการเมืองส. เรียกมาสอบแน่
เมื่อวันที่ 30 ต.ค.เวลา 09.45 น. ที่รัฐสภา นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล สส.เลย พรรคเพื่อไทย ในฐานะ ประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)ป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการประชุมกมธ.ฯที่มีวาระเรื่องการพิจารณากรณี ดิไอคอน ว่า เนื่องจากสภาผู้แทนราษฎรได้มีการลงมติมอบหมายให้ กมธ.ฯศึกษาและแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ วันนี้ได้มีการเชิญ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) ,ตำรวจสอบสวนกลางและผู้เสียหาย มาให้ข้อมูล ซึ่งจะมีการติดตามในส่วนของปปง.เรื่องของการอายัดทรัพย์สิน ว่ามีความคืบหน้า มีของใครเท่าไหร่บ้าง และมีความเหมาะสม มากน้อยแค่ไหน รวมถึงเส้นทางทางการเมืองว่าเท่าที่ปปง.ตรวจสอบแล้วโยงไปถึงบุคคลใดอีกบ้าง
เนื่องจากคดีมีการโอนให้กับ กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ไปแล้ว แต่ในส่วนของตำรวจสอบสวนกลาง ก็จะมีการสอบถามถึงการดำเนินการและความคืบหน้า และผู้ที่จะต้องถูกกล่าวหาในคดีนี้จะต้องเป็นคนกลุ่มไหนบ้าง เบื้องต้นจะสอบถามถึงการรับแจ้งความว่าเนื้อหาหลักๆเป็นอย่างไร และคนที่จะเป็นผู้ถูกกล่าวหาหรือผู้ต้องหาจะต้องเป็นคนกลุ่มไหนเพราะมีการโยนกันไปโยนกันมา ระหว่างผู้เสียหายกับแม่ข่าย กมธ.ฯ จะต้องหาข้อเท็จจริงในเรื่องนี้
ส่วนที่ตำรวจสอบสวนกลางบอกว่าคดี ดิไอคอน เป็นแชร์ลูกโซ่นั้น นายเลิศศักดิ์กล่าวว่า หน่วยงานหลักขณะนี้เป็น ดีเอสไอ และปปง. ซึ่งมีอำนาจในการตรวจสอบเส้นทางทางการเงิน ของผู้ต้องสงสัยและผู้ถูกกล่าวหาอยู่แล้ว ดังนั้นกมธ.ฯ ก็มีแนวทางที่จะติดตามเรื่องนี้ให้ถึงที่สุดไม่ลดละและไม่ปล่อย ถ้าหากมีการพิจารณาในกมธ.ฯชุดใหญ่ 2-3 ครั้งแล้วยังไม่จบ ก็จะต้องมีการตั้งอนุกรรมาธิการ ขึ้นมาติดตามเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด
เมื่อถามถึงกรณีดิไอคอน ขยายไปไกลถึง นายษิทา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม กับ มาดามอ้อย ที่อ้างว่าตบทรัพย์กัน จะต้องตรวจสอบด้วยหรือไม่ นายเลิศศักดิ์ กล่าวว่า ต้องดูก่อนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้มากน้อยแค่ไหน ตอนนี้เรารับภารกิจจากสภาผู้แทนราษฎร เราก็ต้องเน้นในเรื่องของเนื้อหาสาระหลักเกี่ยวกับคดี ดิไอคอน เกี่ยวกับแชร์ลูกโซ่ การฉ้อโกงประชาชน รวมถึงจะมีการพิจารณาแก้ไขกฎหมาย หรือเสนอร่างกฎหมายฉบับใหม่ที่ผ่านการศึกษาแล้วให้เป็นปัจจุบัน
ต่อข้อถามถึงกรณีที่พรรคพลังประชารัฐ พาดพิงว่าเทวดาจริงๆ แล้วอยู่ในพรรคเพื่อไทย พร้อมกับเปิดเผยอักษรย่อ ออกมาด้วย นายเลิศศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่ทราบ แต่คณะกรรมาธิการคณะนี้ ไม่มีส่วนใดๆเกี่ยวกับ คดี ดิไอคอน ไม่มีแม้กระทั่งของสภาชุดที่แล้ว และสบายใจได้ว่าเรามีความบริสุทธิ์ใจในการดำเนินการตรวจสอบเรื่องนี้อย่างเต็มที่แน่นอน ส่วนตัวอักษรย่อนั้นก็คงต้องตรวจสอบ และหาให้ได้ว่าชื่อจริงคือใคร หากมีความเชื่อมโยงอาจจะมีการเชิญมาชี้แจงด้วยถ้ามีจริง
ส่วนอักษรย่อ ดังกล่าว เคยเป็นประธานคณะกรรมาธิการในสมัยที่แล้วนั้น นายเลิศศักดิ์กล่าวว่า ตนคิดว่าไม่ใช่ของ กมธ.ป้องกันและปราบปรามการ ฟอกเงินฯและยาเสพติด แต่อาจจะเป็นคณะอื่นหรือไม่ ตนมองว่าไม่มีสาระ เพราะกรรมาธิการที่เกี่ยวข้องในอดีตเรื่องนี้ที่ผ่านมาก็มีแค่ กมธ.คุ้มครองผู้บริโภค และกมธ.ป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด แต่กมธ.ก็ไม่ได้มีเหตุให้ตรวจสอบทุกๆเรื่อง ดังนั้นช่วงก่อนหน้านี้อาจจะไม่มีผู้ร้องเรียน หรือเรื่องไม่เข้าสู่กมธ.ก็ไม่ได้มีการตรวจสอบ จึงต้องให้ความเป็นธรรมกับกมธ.ด้วยเช่นเดียวกัน
“เพราะฉะนั้นการกล่าวอ้างมาถึงโดยที่ไม่ให้ข้อมูลเหตุผลที่เพียงพอก็ทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้ เรื่องนี้เป็นแค่ความเข้าใจที่ไม่ตรงกัน ความเข้าใจผิดและสำคัญผิด กรรมาธิการไม่ได้มีหน้าที่ในการติดตามในทุกเรื่อง ทุกขั้นตอน บางเรื่องหากไม่มีการร้องเรียนเข้ามา กรรมาธิการก็ไม่ทราบ แต่ถ้ามีการร้องเรียนเข้ามาแล้วไม่ปฏิบัติ ไม่ติดตามถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่”ประธานกมธ.ฯ กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคพลังประชารัฐ พาดพิงถึงพรรคเพื่อไทย นายเลิศศักดิ์ กล่าวว่า ยืนยันพรรคเพื่อไทยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้น ทั้งนี้ตนมองว่าเป็นมารยาทของพรรคการเมืองด้วยเช่นเดียวกัน ที่ควรจะแก้ปัญหาของตนเองให้เรียบร้อย ไม่ใช่มาโยนพาดพิงถึงพรรคอื่น ตนคิดว่าไม่ค่อยเหมาะสม ดังนั้นต้องใช้วิจารณญาณในการพิจารณาดีๆ เรื่องนี้โดยตรงไปเกี่ยวข้องกับบุคคลในพรรคการเมืองที่อาจจะพูดถึง
ส่วนการตรวจสอบนักการเมืองส.ที่มีการชิงลาออกจากสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ จะมีการตรวจสอบเรื่องคลิปเสียง เพื่อโยงไปถึงเส้นเงินด้วยหรือไม่ นายเลิศศักดิ์กล่าวว่า หากมีความเกี่ยวข้องหรือเกี่ยวพัน กับเส้นเงินของ ดิไอคอน ทางกมธ.ฯ ก็จะเชิญนักการเมืองส.มาสอบเช่นเดียวกัน เราจะทำเรื่องของการฉ้อโกงในส่วนของ ดิไอคอน เป็นหลัก ส่วนประเด็นที่มีการรีดไถเงินผู้เสียหายนั้น หากตรวจสอบเส้นทางการเงินแล้วเชื่อมโยง ก็ต้องเชิญมาสอบ
“สส.ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แน่นอนตามที่ข้อกล่าวอ้างของพรรคการเมืองบางพรรค โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สส.ที่ปฏิบัติหน้าที่ใน กรรมาธิการ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแน่นอน แต่คนที่ไม่ใช่ สส.แล้วเอาตำแหน่งในกรรมาธิการ ที่ได้รับการแต่งตั้งไปใช้ประโยชน์ไปหากิน อันนี้เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง ถ้าอยู่ในพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองนั้นต้องดูแลและจัดการให้เรียบร้อย”นายเลิศศักดิ์กล่าว