วันอาทิตย์, พฤศจิกายน 24, 2024
spot_img
หน้าแรกNEWS''บิ๊กป้อม''ปิดปากปมยกเลิก MOU 44 สั่งลุยทุกวิถีทางรักษาผืนแผ่นดินไทย
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

”บิ๊กป้อม”ปิดปากปมยกเลิก MOU 44 สั่งลุยทุกวิถีทางรักษาผืนแผ่นดินไทย

”บิ๊กป้อม“ รูดซิบ ปัดออกความเห็นปม เอ็มโอยู 44 สั่งทำทุกวิถีทางเพื่อยกเลิก “พปชร.” จ่อยื่นจดหมายเปิดผนึกถึง นายกฯ-ครม. เสนอ 4 ข้อ จี้ยกเลิก MOU 44

เมื่อวันที่ 12 พ.ย.67 ที่ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ภายหลังการประชุมพรรคพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เดินทางกลับจากพรรคทันที เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงกรณีเอ็มโอยู 44 ซึ่ง พล.อ.ประวิตร เคยดำรงตำแหน่งเป็นประธานคณะเจรจาตามกรอบเอ็มโอยู 44 แต่ พล.อ.ประวิตร เม้มปากเงียบ ไม่ได้ตอบคำถามต่อสื่อมวลชน

จากนั้น พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ แถลงข่าวยืนยันว่า พล.อ.ประวิตร มีข้อสั่งการให้ทำทุกวิถีทางเพื่อยกเลิกเอ็มโอยู 44 เพื่อรักษาไว้ซึ่งผืนแผ่นดินไทยทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ

ด้านนายชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แถลงผลการประชุมว่า ที่ประชุมได้มีมติพรรคให้ยื่นหนังสือเปิดผนึกไปถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ดำเนินการยกเลิก MOU 2544 เนื่องจากพรรคพลังประชารัฐ ได้ศึกษาผลกระทบแล้วพบว่า แผนที่แนบ MOU 2544 ได้ปรากฎเส้นเขตแดนของประเทศกัมพูชาที่ไม่สอดคล้องกับกฎหมายสากลและรวมเอาน่านน้ำภายในของจ.ตราด ทะเลอาณาเขตของเกาะกูดด้านทิศใต้ รวมถึงเขตเศรษฐกิจจำเพาะกลางอ่าวไทย เข้าเป็นพื้นที่ ๆ ฝ่ายกัมพูชา นำมาใช้เป็นกรอบการเจรจา ซึ่งการยอมรับเส้นเขตแดนของฝ่ายกัมพูชาที่กล่าวอ้างโดยไม่เป็นไปตามหลักกฎหมายสากล จึงมีความสุ่มเสียงที่จะทำให้ประเทศไทยเสียอธิปไตยทางทะเลบริเวณเกาะกูด

นายชัยมงคล กล่าวว่า ด้วยเจตนารมณ์ของหัวหน้าพรรคพรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประวิตร และสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ จึงขอเรียกร้องต่อนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี 4 ข้อ ดังนี้

1.ให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ดำเนินการตามกฎหมายเพื่อยกเลิก MOU 2544 อย่างเร่งด่วน

2.ให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ดำเนินการแก้ปัญหาเขตอธิปไตยทางทะเลบริเวณเกาะกูด ต้องยึดตามกฎหมายทะเลที่เป็นสากลและดำเนินการเจรจาเฉพาะเรื่องเขตแดนทางทะเลให้เสร็จสิ้นก่อน โดยต้องให้ความสำคัญกับการปกป้องเขตแดนทางทะเลและอำนาจอธิปไตยของชาติยิงไปกว่าผลประโยชน์อื่นใด โดยจะต้องรักษาทรัพยากรของชาติไว้ให้ลูกหลานสืบไป

3.ขอให้สั่งการให้บุคคลและหน่วยงานรัฐ หยุดกระทำการใดๆ ในอันที่จะก่อให้เกิดข้อผูกพันตามกฎหมายอันจะนำมาจึงก่ารเสียดินแดนอธิปไตยทางทะเลและผลประโยชน์ในทรัพยากรฯของชาติและของประชาชน

4.ขอให้ระลึกถึงบทบัญญัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 161 ที่ได้ถวายสัตย์ไว้ว่า “จะจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ จะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความชื่อสัตย์สุจริตเพื่อประโยชน์ของประเทศและของประชาชน และปฏิบัติตามซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ”

นายชัยมงคล กล่าวต่อว่า พรรคพลังประชารัฐ จะดำเนินการยื่นจดหมายเปิดผนึกฉบับดังกล่าวให้กับนายกรัฐมนตรีภายในสัปดาห์หน้า เพื่อตอกย้ำให้เห็นจุดยืนของพรรคในการที่จะปกป้องอธิปไตยของชาติ และไม่ยอมให้ผู้หนึ่งผู้ใด หรือกลุ่มใดมาแสวงหาผลประโยชน์ในเรื่องของทรัพยากรธรรมชาติ หรืออาณาเขต และจดหมายฉบับนี้หวังว่าจะช่วยคืนความทรงจำและยับยั้งให้นายกรัฐมนตรีได้ฉุกคิดในการที่จะเจรจาผลประโยชน์ปิโตรเลียมในกรอบ MOU 2544

ด้าน พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร ยืนยันชัดเจนว่าจะรักษาผืนแผ่นดินไทยทุกตารางนิ้วไว้ด้วยชีวิต และจะไม่ยอมให้ผู้หนึ่งผู้ใดนำอาณาเขตหรือพื้นที่ของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นทางบก ทางน้ำ หรือทางอากาศ ไปใช้ประโยชน์ เพื่อเอื้อผลประโยชน์ต่อครอบครัวหนึ่ง ครอบครัวใดเท่านั้น

เมื่อถามว่า พรรคพลังประชารัฐจะลงพื้นที่เกาะกูด​หรือไม่นั้น​ พล.ต.ท.ปิยะ​ กล่าวว่า ต้องรอดูสถานการณ์อีกครั้ง​ แต่ขณะนี้ในพื้นที่มีเจ้าหน้าที่ทำงานอยู่แล้ว และสิ่งที่พรรคเป็นห่วงคือในพื้นที่ทับซ้อน​ ที่มีการเซ็นยอมรับ ที่อาจเสี่ยงสูญเสียแผ่นดินไทย ทั้งนี้พรรคจะยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีภายในสัปดาห์หน้า

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img