“นายกฯอิ๊งค์” ขอบคุณทีมไทยแลนด์และนักธุรกิจสหรัฐหลังประสบความสำเร็จสองวัน ในอเมริกา เชิญชวนลงทุนมาไทยได้เพิ่ม ยืนยันการเมืองไทยมีเสถียรภาพมากสร้างความมั่นใจให้นักลงทุนทั่วโลกได้
เมื่อวันที่ 13 พ.ย.67 เวลา 16.00 น. (เวลาท้องถิ่นนครลอสแอนเจลิส ซึ่งช้ากว่าไทย 15 ชั่วโมง) ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 14 พ.ย. เวลา 07.00 น.) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ประชุมสรุปผลการเยือนสหรัฐ พร้อมด้วยนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ปลัดกระทรวงต่างประเทศ เอกอัครราชทูตประจำกรุงวอชิงตันดีซี และกงสุลใหญ่นครลอสแอนเจลิส และคณะทำงาน ทีมไทยแลนด์ โดยที่ประชุมสรุปผลภาพรวมภารกิจ เป็นที่น่าพอใจ แม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่ถือว่าได้พบปะชุมชนคนไทย และได้มอบนโยบายกับทีมไทยแลนด์ อีกทั้งยังได้หารือกับภาคเอกชนสหรัฐในด้านอิเล็กทรอนิกส์และภาพยนตร์ ซึ่งต่างชื่นชมผลงานรัฐบาลที่ได้มอบสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีให้แก่นักลงทุนเพื่อจูงใจการลงทุนและการถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทย
นายกรัฐมนตรียังได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ถึงภาพรวมภารกิจที่ได้เดินทางเยือนนครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา โดยกล่าวว่า วันแรกได้พบปะชุมชนชาวไทยในนครลอสแอนเจลิส ซึ่งมีคนจำนวนมากมาให้กำลังใจ ถือเป็นการเริ่มต้นภารกิจที่ดีและได้มีโอกาสแวะเยี่ยมชมตลาดภายในวัดไทยในนครลอสแอนเจลิส พบปะพูดคุยกับพี่น้องคนไทยที่มาร่วมให้กำลังใจ รวมทั้งได้มีโอกาสรับชมการแสดงของเยาวชนไทย ทั้งรำไทย โชว์ศิลปะมวยไทยจากเยาวชนไทยที่อยู่ในสหรัฐฯ ทำให้รู้สึกอบอุ่นเหมือนได้อยู่ที่เมืองไทย
นอกจากนี้ยังได้พบปะเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ในภูมิภาคอเมริกา อาทิแคนาดา ชิลี เม็กซิโกฯโดยได้มอบนโยบายรัฐบาลรวมถึงรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะจากทีมไทยแลนด์ ซึ่งได้เน้นย้ำกับคณะเอกอัครราชทูตให้มี “การทูตเชิงรุก” มากยิ่งขึ้น ซึ่งทีมไทยแลนด์เปรียบเสมือน “ทัพหน้าของประเทศไทย” ในต่างประเทศที่จะช่วยแสวงหาโอกาสและศักยภาพในการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาสู่ประเทศไทยมากยิ่งขึ้น รวมถึงถือโอกาสนี้ ให้ช่วยกันเชิญชวนคนไทยในต่างประเทศที่มีศักยภาพกลับมาทำงานเพื่อพัฒนาประเทศไทยด้วย โดยรัฐบาลกำลังเร่งพัฒนาเพื่อสร้างโอกาสให้กับประเทศไทย
สำหรับวันที่สอง นายกรัฐมนตรีได้หารือกับผู้บริหารภาคเอกชนสหรัฐ ด้านอิเล็กทรอนิกส์และฮาร์ดไดรฟ์ คือ บริษัท WD หรือเวสเทิร์นดิจิตอล ซึ่งมีโรงงานอยู่ที่ประเทศไทยด้วย ในการหารือได้มีการผลักดันนโยบายพลังงานสะอาด ซึ่งรัฐบาลจะผลักดันความร่วมมือในเรื่องนี้เพื่อสร้างการจ้างงานให้คนไทยมากยิ่งขึ้น
ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ยังได้ร่วมงานเลี้ยงรับรองเพื่อสร้างเครือข่าย (networking reception) กับนายชาร์ลส์ เอช. ริฟกิน (Charles H. Rivkin) ประธานและประธานกรรมการบริหาร สมาคมผู้สร้างภาพยนตร์แห่งสหรัฐฯ (Motion Picture Association : MPA) พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงจากบริษัท ผู้ผลิต ภาพยนตร์ชั้นนําของสหรัฐฯ ซึ่งได้เน้นย้ำถึงนโยบายรัฐบาลที่จะส่งเสริมอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ และการถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทย โดยได้แจ้งให้บริษัทด้านภาพยนตร์ของสหรัฐฯ ทราบว่าประเทศไทยมีมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ในไทย โดยเพิ่มสิทธิประโยชน์ในรูปแบบของการคืนเงินสูงสุดที่อัตราร้อยละ 30 และไม่กำหนดเพดานคืนเงินสูงสุดต่อโครงการ ซึ่งซีอีโอจากบริษัทต่างๆ ดีใจ และพร้อมส่งต่อข้อมูลสิทธิประโยชน์นี้ให้บริษัทในเครือได้รับทราบ ซึ่งจะเพิ่มการจ้างงานและโอกาสให้กับคนไทยในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องมากยิ่งขึ้น