“วิลาศ” เปิดหน้าจวก “กรมที่ดิน” หลังมุบมิบออกหนังสือไม่เพิกถอนที่ดินเขากระโดงคืนให้ “รฟท.” ถามจี้ใจดำ “รมต.” ใครอ้างคำพิพากษาศาลฏีกาถึงที่สุด ยกคำพิพากษาศาลฏีกา 2 คดี ชี้ชัด “ที่ดินเขากระโดง” เป็นของรัฐ ซ้ำยังแย้งพรฏ. ถือเป็นการโต้แย้งพระราชโองการหรือไม่ งัดหลักฐานเด็ดบันทึกการประชุมร่วมปี 13 “ปู่ชัย” ขออาศัยที่ดินการรถไฟ เทียบภาพถ่ายทางอากาศปี 97 กับปัจจุบัน ถูกรุกเขา 5 พันกว่าไร่ ตบหน้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเอื้อประโยชน์ใคร
เมื่อวันที่ 15 พ.ย.67 เวลา 11.00 น.ที่รัฐสภา นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต สส.กทม. แถลงถึงกรณีกรมที่ดินทำหนังสือเลขที่ มท. 0516.2(2)/22062 ลงวันที่ 21 ต.ค.67 เรื่องการเพิกถอนหนังสือแสดงสิทธิ์ในที่ดิน ที่ออกทับซ้อนกับที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) แจ้งว่ายังไม่สมควรที่จะเพิกถอน หรือแก้ไข หนังสือแสดงสิทธิ์ในที่ดิน เนื่องจาก รฟท.ไม่มีพยานหลักฐานยืนยันการได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ของที่ดินของรฟท.ว่า เท่าที่ตนติดตามเรื่องที่ดินเขากระโดง ทำไมฝ่ายการเมืองไม่มีการพูดถึง ก่อนหน้านี้ฝ่ายบริหารออกมาแถลงข่าวถึงคำพิพากษาของศาลฎีกาถือเป็นที่สุด ไม่มีอะไรใหญ่กว่า ถึงขนาดรัฐมนตรีบางคนบอกว่า ไม่ยอมเสียแผ่นดินแม้แต่ตารางวาเดียว แต่กลับไม่มีการสั่งการอะไร จึงขอเตือนถึงข้าราชการที่รับผิดชอบว่า ให้ยึดถือตามกฎหมาย และคำพิพากษาของศาลฏีกา อย่าเกรงใจฝ่ายการเมือง ไม่เช่นนั้นวันหนึ่งตัวท่านจะเดือดร้อน
นายวิลาศ กล่าวว่า จากที่ตนตรวจสอบพบว่า มีรัฐมนตรีบางคน ทำบัตรประชาชนอาศัยอยู่เลขที่บ้านในที่ดินที่อยู่เขากระโดง แล้วข้าราชการที่ไหนกล้าไปไล่ ทั้งนี้เรื่องที่ดินเขากระโดง ศาลฏีกาเคยตัดสินไปแล้วถึง 2 คดี ว่าเป็นที่ดินของ รฟท. ส่วนอีกคดีเป็นคดีศาลอุทธรณ์ภาค 3 ก็ยืนยันว่าเป็นที่ดินของ รฟท.ด้วยเช่นกัน จึงมีคำถามว่า แล้วทำไมกรมที่ดินจึงกล้าทำหนังสือ ไม่เพิกถอนที่ดินดังกล่าวถึง รฟท. เท่ากับเป็นการโต้แย้งหรือคัดค้างคำพิพากาษศาลฏีกาหรือไม่อย่างไร
“เรื่องเขากระโดงเป็นเรื่องลึกลับซับซ้อน เหตุการณ์เริ่มตั้งแต่มีพระราชกกฤษฎีกาวันที่ 8 พ.ย.2462 กว่า 100 ปีแล้วดึงกันไปมา จนตอนนี้ยังไม่รู้ว่าข้อเท็จจริง อะไรผิด-อะไรถูก ใครจะต้องออกจากพื้นที่ หรือใครมีสิทธิที่จะอยู่ยังพิสูจน์ไม่ได้ ผมจึงขอตั้งข้อสังเกตถึงกรมที่ดินว่า การที่เลขาธิการสำนักงานกฤษฏีกาออกมายืนยัน ว่าที่ดินเขากระโดงเป็นที่ดินของ รฟท. ตามคำพิพากษาของศาลฏีกา และคนที่ไปให้การเป็นพยานต่อศาล จะถือเป็นการให้การเท็จหรือไม่”นายวิลาศ กล่าว
นายวิลาศ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้การสร้างทางรถไฟสายโคราช-อุบลราชธานี กิโลเมตรที่ 375+650 มีการสร้างทางแยกไปอีก 8 กม. เพื่อทำทางไปขนหินจากบ้านเขากระโดง ในจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อเอามาสร้างทางรถไฟสายดังกล่าว มีการออกเป็นพระราชกฤษฏีกา ปี 2562 การที่กรมที่ดินมีหนังสือแจ้ง รฟท.ว่า ไม่เพิกถอนที่ดินเขากระโดง ถือเป็นการโต้แย้งต่อพระบรมราชโองการหรือไม่
“ที่สำคัญที่สุดมีผู้ส่งหนังสือเป็นเอกสารการบันทึกการประชุมร่วม เรื่องข้อพิพาทเกี่ยวกับทีดินเขากระโดง ลงวันที่ 9 พ.ย.2513 ระหว่างนายชัย ชิดชอบ และเจ้าหน้าที่ รฟท. โดยมีการบันทึกว่า นายชัยขออาศัยในที่ดินดังกล่าว จากการรถไฟฯได้ และการรถไฟฯตกลงยินยอมให้อาศัย ซึ่งจะได้ทำสัญญาการอาศัยต่อไป เท่ากับว่าหนังสือฉบับนี้ นายชัยก้ยอมรับแล้วว่า ไม่ใช่ที่ดินของท่าน แล้วทำไมกรมที่ดิน อยู่ดีๆ ไปออกหนังสือรับรองเช่นนั้นมา” นายวิลาศกล่าว
อย่างไรก็ตาม นายวิลาศ กล่าวอีกว่า ตนจะติดตามเรื่องนี้ต่อไป และหากมีหลักฐาน พยาน ที่เกี่ยวข้อง จะมาแถลงต่อสื่อเพิ่มเติม และขอย้ำว่า เมื่อศาลฏีกาตัดสินแล้ว ก็ต้องยึดไปตามนั้น ผู้ที่เกี่ยวข้องที่พยายามเบี่ยงเบน มีเจตนาเช่นไร สังคมมองออก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการแถลง นายวิลาศได้โชว์ภาพถ่ายทางอากาศแผนที่่เขากระโดง ซึ่งครอบคลุมที่ดิน 5,083 ไร่ โดยมีการแบ่งเป็นพื้นที่สนามฟุตบอล บริษัท ศิลาชัย บุรีรัมย์ (1991) จำกัด บ้านพักของอดีตรัฐมนตรีท่านหนึ่ง และบ้านพักของเครือญาติตระกูลใหญ่ตระกูลหนึ่งในบุรีรัมย์ รวมถึงภาพถ่ายทางอากาศเปรียบเทียบ เมื่อปีพ.ศ.2497 ขณะที่เป็นที่ดินรกร้าง ที่อยู๋ในอาณัติของ รฟท. กลับภาพถ่ายดาวเทียมปัจจุบันที่ถูกครอบครอง