“ราชทัณฑ์’’ เผยยอดผู้ต้องขังติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 523 ราย พร้อมเผย เริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แก่ผู้ต้องขังเป็นวันแรกที่เรือนจำพิเศษมีนบุรี ตั้งเป้าฉีดให้ครบทุกคนภายใน 1 สัปดาห์
เมื่อวันที่ 22 พ.ค.64 นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผย ความคืบหน้าสถานการณ์การแพร่ระบาตของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) ในเรือนจำและทัณฑสถานข้อมูล ณ วันที่ 22 พฤษภาคม 2564 เวลา 11.00 นาฬิกา มีผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 523 ราย รักษาหาย 218 ราย รวมผู้ต้องขังที่อยู่ระหว่างการรักษา 14,318 ราย
นายอายุตม์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันมีผู้ต้องขังที่ได้รับการตรวจเชื้อแล้ว จำนวน 37,288 รายมีเรือนจำที่ตรวจครบ 100% เพิ่มอีก 1 แห่ง คือ เรือนจำกลางฉะเชิงเทรา ส่วนเรือนจำอื่นๆ ที่ตรวจครบแล้วยังมีการ SWAB หาเชื้อซ้ำทุกๆ 7 วันในกลุ่มที่ยังไม่พบเชื้อ รวมถึงการตรวจหาเชื้อในผู้ต้องขังเรือนจำอื่นๆและผู้ต้องขังเข้าใหม่ทุกรายจนกว่าสถานการณ์จะปกติ
“ด้านความคืบหน้าในการดำเนินการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 โนผู้ต้องขัง ในวันนี้(22 พฤษภาคม 2564) กรมราชทัณฑ์จะเริ่มฉีดวัคซีนแก่ผู้ต้องขังที่เรือนจำพิเศษมีนบุรีเป็นแห่งแรก จำนวน1,500 ราย และตั้งเป้าฉีดวัคซีนเข็มแรกจนครบ 3,831 ราย ภายใน 1 สัปดาห์ โดยการสนับสนุนวัคซีนจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เป็นวัคซีน 2 ชนิด คือ ซิโนแวค เพื่อฉีดแก่ผู้ต้องขังกลุ่มอายุต่ำกว่า 60 ปี และแอสตร้าเซนเนก้า เพื่อฉีดให้กับผู้ต้องขังกลุ่มสูงอายุ และกลุ่มป่วย 7 โรคเรื้อรัง ด้วยความร่วมมือในการให้บริการฉีด โดยโรงพยาบาลนวมินทร์ 9 และทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ” นายอายุตม์ กล่าว
นอกจากนี้ กรมราชทัณฑ์ ได้มอบหมายให้ศูนย์ CARE ประจำเรือนจำและทัณฑสถานทุกแห่ง
รับผิดชอบในการประสานงานรวบรวมข้อมูลของผู้ต้องขังที่ติดเชื้อ และแจ้งให้ญาติผู้ต้องขังทราบเป็นการเฉพาะราย
พร้อมทั้งจังความคืบหน้าการรักษา และอาการป่วยของผู้ต้องขังให้ญาติทราบผ่านทางโทรศัพท์ หรือช่องทางการสื่อสารอื่นใดที่ได้แจ้งไว้ เพื่อบรรเทาความห่วงใยของญาติผู้ต้องขัง ทั้งนี้ การดำเนินการทุกขั้นตอนจะต้องได้รับความยินยอมจากผู้ต้องขังก่อนเสมอ
