“สภาเกาหลีใต้” ตอบโต้ “ปธน.เกาหลีใต้” มีมติเป็นเอกฉันท์ 190 ต่อ 0 เสียง คว่ำการประกาศกฎอัยการศึก หลัง สส.ฝ่าแนวกั้นของเจ้าหน้าที่ เข้าไปเปิดประชุมสภาฯได้สำเร็จ ท่ามกลางประชาชนที่ออกมารวมตัวหน้าสภา
จากกรณีที่ “ยุน ซุก-ยอล” ประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลี ประกาศใช้กฎอัยการศึก (Martial Law) ผ่านการแถลงทางโทรทัศน์ ในวันที่ 3 ธ.ค.67 เวลาประมาณ 22.30 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) โดยมีเนื้อหาว่า “เพื่อปกป้องประชาธิปไตยเสรีนิยมจากการคุกคามของการโค่นล้มระบบเกาหลีโดยกองกำลังต่อต้านรัฐ ที่ซุ่มซ่อนอยู่ภายในสาธารณรัฐเกาหลีที่เป็นอิสระ และเพื่อปกป้องความปลอดภัยของประชาชน จึงประกาศต่อไปนี้ทั่วสาธารณรัฐเกาหลี”
จากนั้น พล.อ.พัคอันซู ผู้บัญชาการกฎอัยการศึก ระบุถึงข้อห้ามต่างๆ ในการประกาศกฎอัยการศึกครั้งนี้คือ
1) ห้ามกิจกรรมทางการเมืองทุกประเภท รวมถึงกิจกรรมของรัฐสภา สภาท้องถิ่น พรรคการเมือง สมาคมการเมือง การชุมนุม และการเดินขบวน เป็นสิ่งต้องห้าม
2) ห้ามกระทำการใดๆ ที่ปฏิเสธหรือพยายามโค่นล้มระบอบประชาธิปไตยเสรีนิยม และห้ามเผยแพร่ข่าวปลอม การบิดเบือนความคิดเห็นของประชาชน รวมถึงการโฆษณาชวนเชื่ออันเป็นเท็จ
3) สื่อและสิ่งพิมพ์ทั้งหมดอยู่ภายใต้การควบคุมของกฎอัยการศึก
4) ห้ามการนัดหยุดงาน การก่อวินาศกรรม และการชุมนุมที่ส่งเสริมความวุ่นวายทางสังคม
5) บุคลากรทางการแพทย์ทุกคน รวมถึงประชาชนที่นัดหยุดงานหรือออกจากวงการการแพทย์แล้ว จะต้องกลับมาปฏิบัติหน้าที่ตามปกติภายใน 48 ชั่วโมง และทำงานด้วยความซื่อสัตย์ หากฝ่าฝืนจะมีโทษตามกฎอัยการศึก
6) สำหรับประชาชนทั่วไปที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกลุ่มบ่อนทำลายรัฐ จะมีมาตรการเพื่อบรรเทาความไม่สะดวกในชีวิตประจำวันให้ได้มากที่สุด
ต่อมา สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ภายหลัง “ยุน ซุก-ยอล” ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ประกาศ “กฎอัยการศึกฉุกเฉิน” ได้มีประชาชนจำนวนมาก ออกมารวมตัวกันบริเวณหน้าอาคารรัฐสภาเกาหลีใต้ และเรียกร้องให้กำลังเจ้าหน้าที่ ที่ตรึงกำลังบริเวณดังกล่าว เปิดทางให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสามารถเข้าไปเปิดสภา พิจารณาญัตติเกี่ยวกับการประกาศกฎอัยการศึกของประธานาธิบดี “ยุน ซุก-ยอล” จนสามารถเข้าไปเปิดประชุมสภาได้สำเร็จ และที่ประชุมสภาฯมีมติไม่เห็นชอบกับการประกาศกฎอัยการศึก 190 ต่อ 0 เสียง (สส.เข้าประชุมเกินกึ่งหนึ่ง หรือ 150 คนสามารถเปิดประชุมได้) ประธานในที่ประชุมประกาศว่า “กฎอัยการศึก” เป็นโมฆะ ก่อนจะปิดประชุม และเจ้าหน้าที่ถอนกำลังออกจากรัฐสภา