“เอกณัฏ” แจงปม “ทักษิณ” เหน็บพรรคร่วมรัฐบาล ยืนยันในที่ประชุม ครม.วันดังกล่าว อยู่ในที่ประชุม และเป็นผู้ที่ยกมือสนับสนุนพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ภาษี 2 ฉบับ เพราะมองว่าเป็นเรื่องสำคัญของประเทศ พร้อมกับย้ำจุดยืน “รทสช.” ไม่ยุ่งม.112 รวมถึงอาญาร้ายแรง
เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.67 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีจุดยืนของพรรครวมไทยสร้างชาติในการแก้รัฐธรรมนูญ พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม ยังเหมือนเดิมหรือไม่ ว่า เรามีจุดยืนชัดเจน ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่เราร่วมรัฐบาล คือ ต้องไม่ยุ่งเกี่ยวกับ ม.112 และการทุจริต รวมถึงอาญาร้ายแรง ซึ่งเป็นจุดยืนที่เราแสดงไว้ตั้งแต่จะเข้าร่วมรัฐบาล เท่าที่ตนทราบ ทุกพรรคที่รวมตัวกันมาเป็นรัฐบาล ให้เกียรติกับจุดยืนตรงนี้ไว้ตั้งแต่ต้น ตราบใดที่ยังเป็นเช่นนี้ก็เดินหน้าทำงานต่อไปได้
ส่วนกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุในงานสัมมนาพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม ว่าไม่ชอบอีแอบ จากกรณีที่มีรัฐมนตรีบางคนไม่ร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี จะหมายถึงพรรครวมไทยสร้างชาติหรือไม่ ตนไม่ทราบ ส่วนการพูดแบบนั้นทำให้พรรคร่วมรัฐบาลหวาดระแวงหรือไม่นั้น หากถามตนในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ตนอยู่ในการเมืองมานาน ไม่เคยหวั่นไหวอะไรอยู่แล้วเพราะขณะนี้มีโจทย์มีภารกิจที่สำคัญที่ต้องทำ บางเรื่องที่เป็นเรื่องเล็กน้อยก็ปล่อยไป ที่สำคัญคืองานที่ต้องทำให้กับประเทศและงานก็ยากอยู่แล้ว ต้องทำแข่งกับเวลา ทางที่ดีก็ต้องจับมือกันทำงานให้ดีที่สุด
นายเอกนัฏ ยังระบุว่า ในที่ประชุม ครม.วันดังกล่าว ตนอยู่ในที่ประชุม และเป็นผู้ที่ยกมือสนับสนุนพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ภาษี 2 ฉบับ เพราะมองว่าเป็นเรื่องสำคัญของประเทศและเกี่ยวเนื่องกับกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งจะรอช้าไม่ได้ และตนได้พูดในที่ประชุมว่าสนับสนุน และเป็นข้อสังเกตส่วนตัวด้วยในฐานะที่ตนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ขอว่าการใช้เงินกองทุนเพิ่มขีดความสามารถ ใช้สิทธิประโยชน์ ซึ่งจะเป็นอาวุธอีก 1 ตัว ในการนำเงินก้อนนี้ไปดึงนักลงทุนใหม่ๆ มาได้ แต่สิ่งสำคัญคือเมื่อดึงมาแล้วประเทศไทยต้องได้ประโยชน์ เพราะฉะนั้นตนไม่คิดว่าจะมีปัญหาอะไร และก็อยากทำงานเต็มที่อยู่
