วันเสาร์, ธันวาคม 21, 2024
หน้าแรกNEWS"โรม" จับตา ป.ป.ช.รับคดีจนท.รัฐเอื้อ "ทักษิณ" นอนชั้น 14 หวด "แม้ว” แย่ง "อิ๊งค์" เป็นนายกฯ ทำลายเครดิตรบ.พัง
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“โรม” จับตา ป.ป.ช.รับคดีจนท.รัฐเอื้อ “ทักษิณ” นอนชั้น 14 หวด “แม้ว” แย่ง “อิ๊งค์” เป็นนายกฯ ทำลายเครดิตรบ.พัง

“โรม” จับตา “ป.ป.ช.” รับทำคดีจนท.รัฐเอื้อ “ทักษิณ” นอนชั้น 14 ชี้ถ้าปล่อยให้ดำมืดหน่วยงานตรวจสอบจะโดนตั้งคำถามเป็นหน่วยงานแรก ยันหากทำให้กระจ่างไม่จำเป็นต้องใช้เวลาเต็มกรอบ ปูดข้อมูลเริ่มโผล่ขึ้นเรื่อยๆ เหน็บ “ทักษิณ” แย่ง “อิ๊งค์” เป็นนายกฯ เชื่อทำเครดิตรัฐบาล-การเมือง “เพื่อไทย” พัง

วันที่ 17 ธ.ค. 2567 เวลา 09.30 น.ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รับพิจารณาคดีเจ้าที่รัฐเอื้อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้ารักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ว่า ถ้า ป.ป.ช. มาเป็นองค์คณะไต่สวน ก็หวังว่าเรื่องนี้จะมีคำตอบต่อสังคมโดยเร็ว ตนคิดว่ามาถึงวันนี้ ทั้งอากัปกิริยาและการให้ความร่วมมือของหน่วยงานรัฐในหลายอย่างค่อนข้างชัดเจนว่ากรณีชั้น 14 ไม่ปกติแน่ๆ คนที่ติดตามข่าวการเมืองมาจะทราบว่า เรื่องที่เข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) เราจะเห็นว่าถ้าเรื่องไหนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการทุจริตคอร์รัปชันภายในส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ก็จะให้ความร่วมมือ แต่ทำไมเรื่องชั้น 14 จะพบว่าเอกสารและข้อมูลหลายอย่างมีความยาก เพราะฉะนั้นในเรื่องนี้ มีบางอย่างที่ถูกปิดซ่อนอยู่ แต่วันนี้สังคมอาจจะเดาไปต่างๆนานา รู้กันอยู่แล้วว่ามีประมาณไหน อย่างไร แต่สุดท้าย สิ่งที่ยังขาดอยู่ในช่วงที่ผ่านมาคือการที่จะเอาความจริงทั้งหมดมาเปิดเผย และการระบุว่าใครเกี่ยวข้องอย่างไร มีความผิดตรงไหน สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่อาจจะยังไม่ปรากฎออกมาชัดเจนมากนัก

นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ต้องยอมรับว่า ป.ป.ช. มีอำนาจมากกว่า กมธ.ต่างๆเยอะ ถ้าสมมติมีความชัดเจนตรงนี้ ตนคิดว่า ก็คงจะสร้างความกระจ่างได้ ตนในฐานะที่ติดตามเรื่องนี้ ก็รอดูว่าจะมีความคืบหน้าอย่างไร ตนยืนยันว่าบรรดาข้าราชการทั้งหลายที่เป็นข้าราชการน้ำดี ต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ใครก็ตามที่มีข้อมูล ข้อเท็จจริงเรื่องนี้ สามารถส่งมาที่ตนได้เราก็ยินดีที่จะทำหน้าที่ต่อไป และข้อมูลไหนที่เป็นประโยชน์ต่อการทำหน้าที่ของ ป.ป.ช. ตนก็ยินดีที่จะมอบข้อมูลเหล่านี้ให้ ป.ป.ช.ต่อ เพราะมีหลายเรื่องที่เราส่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์ไปให้แล้ว

เมื่อถามว่าการที่ ป.ป.ช.นำขึ้นมาพิจารณาช่วงนี้ มีนัยะอะไรหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ต้องยอมรับว่ากรณีนายทักษิณ มีคนร้องเรียน และมีข้อวิพากษ์วิจารณ์ มีการเปิดเผยข้อมูลมากขึ้นเรื่อย ๆ และข้อมูลทางการแพทย์ก็มากขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน รวมไปถึงการให้ความร่วมมือของส่วนราชการที่มีพิรุธด้วย สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ทำให้ตนเชื่อว่า มีส่วนที่ทำให้หน่วยงานที่มีอำนาจตรวจสอบจำเป็นต้องทำอะไร เพราะถ้าเรื่องของนายทักษิณไม่มีความกระจ่างอะไร มันยังดำมืดอยู่แบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ หน่วยงานที่ถูกตั้งคำถามหน่วยงานแรก คือหน่วยงานที่มีอำนาจตรวจสอบ

เมื่อถามว่ามีข้อกังวลถึงกรอบระยะเวลาการพิจารณาของ ป.ป.ช. หรือไม่ เนื่องจากคดีหนึ่งจะใช้เวลาหลายปี นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนเองก็เป็นหนึ่งในคนที่ร้องไปยัง ป.ป.ช.หลายเรื่อง ตนทราบดีว่าการดำเนินการของ ป.ป.ช. ค่อนข้างใช้เวลา แต่หากเป็นเรื่องของพรรคประชาชนหรือพรรคก้าวไกลก็อาจจะเร็ว ซึ่งในเรื่องนี้ ป.ป.ช. มีกรอบเวลาตามอำนาจหน้าที่ แต่เมื่อ ป.ป.ช. เป็นองค์คณะต้องติดตามเรื่องกรอบเวลาทำงานที่ใช้จะมากเท่าเดิมหรือไม่ และมีเหตุผลอะไร และหากเรื่องนี้กระจ่างแล้วก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้ระยะเวลาเต็มกรอบเวลา ตนเชื่อว่าสามารถดำเนินการได้โดยเร็ว หากมีหลักฐานทั้งหมด โดยประเด็นที่ต้องวินิจฉัยคือ 1. นายทักษิณป่วยจริงหรือไม่ 2.ที่ถูกส่งไปรักษาตัวยังโรงพยาบาลกระบวนการชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ 3.อยู่โรงพยาบาลจนครบ 180 วันชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ และ4.เมื่ออยู่จนครบได้รับการพักโทษการประเมินต่างๆ เป็นไปตามหลักเกณฑ์หรือไม่

เมื่อถามว่าคดีนี้ ป.ป.ช.จะกลายเป็นชนักติดหลัง เพื่อถือไพ่ทางการเมืองของผู้มีอำนาจหรือไม่นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนเริ่มไม่แน่ใจใครมีอำนาจบ้าง และต้องยอมรับว่าพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล และมีโอกาสหลายอย่างที่จะทำหน้าที่ในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ และการบริหารประเทศ ซึ่งเรื่องความไม่สง่างามกรณีนายทักษิณ ทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาล เพราะรัฐบาลจะต้องมีเครดิตทางการเมือง แต่เมื่อเจอกรณีนายทักษิณ เครดิตทางการเมืองก็ถูกทำลายไป

”คุณทักษิณแย่งคุณอุ๊งอิ๊งเป็นนายกฯ คุณทักษิณแสดงบทบาทความเป็นนายกรัฐมนตรี จนราวกับว่าคุณอุ๊งอิ๊งเป็นอะไร ผมคิดว่าสิ่งเหล่านี้เมื่อผนวกรวมกันกับกรณีเรื่องชั้น 14 เครดิตของรัฐบาลหายไปเยอะ ทำให้รัฐบาลที่จะผลักดันในวาระต่างๆ ที่ต้องอาศัยความน่าเชื่อถือ ก็ยิ่งแย่ลงตามลำดับ ยังไม่นับว่ามีนโยบายหลายอย่างที่รัฐบาลอาจจะไม่สามารถทำให้เกิดตามที่สัญญาเอาไว้กับประชาชนได้ สิ่งเหล่านี้ยิ่งทำลายเครดิตของรัฐบาล ต้องยอมรับว่าวิกฤตทางการเมืองที่จะเกิดขึ้นต่อไปในคราวนี้ มันอาจจะมีองค์ประกอบอื่น  แต่องค์ประกอบไม่น้อย ก่อโดยพรรคเพื่อไทยเอง“ นายรังสิมันต์ กล่าว

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img