“เทพไท” ฟันฉับ “รัฐบาลอิ๊งค์” เกิดรอยร้าว ระหว่าง “เพื่อไทย” กับ “ภูมิใจไทย” หลังเพจเพื่อไทย ออกมาฉะ “อีแอบ” ซัดหมัดตรง-รับลูก “ทักษิณ” ที่เหน็บ “พรรคร่วมฯเป็นอีแอบ” เชื่อ “นายกฯตัวจริง” คงไม่ยอมให้ใครเล่นบท “อีแอบ” บ่อยๆ อาจขยายผลถึงขั้นแตกหัก
เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.67 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตสส.นครศรีธรรมราช แสดงความเห็นเรื่อง “รัฐบาลมีรอยร้าว !!!” มีเนื้อหาว่า…ผลการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระพิจารณาพ.ร.บ.ประชามติ ที่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมาธิการร่วม สส.-สว. ซึ่งมติของวิปรัฐบาลให้โหวตสนับสนุนการทำประชามติชั้นเดียว แต่ “พรรคภูมิใจไทย” กลับโหวตสวน “มติวิปรัฐบาล” จึงทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องความเป็นเอกภาพ และความขัดแย้งเกิดขึ้นในพรรคร่วมรัฐบาลอย่างกว้างขวาง
มีผู้สื่อข่าวได้สอบถามเรื่องนี้กับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่าจำเป็นต้องคุยกับพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ ได้รับคำตอบว่า “ไม่ต้อง ให้เป็นไปตามกระบวนการสภาฯ เพราะบางที สส.พรรคเดียวกัน ก็คิดไม่เหมือนกัน ไม่เป็นไร ถึงอย่างไรการบริหารงานเราร่วมมือกันอยู่แล้ว” เป็นการตอบคำถามแบบสไตล์เดิมๆ คือ ลอยตัว ตีกรรเชียง หนีการตอบคำถาม อยู่เป็นประจำ
ส่วน นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า “ผลการลงมติร่างพ.ร.บ.ประชามติ คืออีกรูปธรรมหนึ่งของการเมือง 3 ก๊ก พรรคร่วมรัฐบาลสำคัญโหวตไปอีกทาง ซึ่งตรงกับสว.จากกติกาของก๊กอนุรักษ์นิยม” เป็นการพาดพิงไปถึงพรรคภูมิใจไทยโดยตรง
สำหรับ เพจของพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความว่า “อย่าไปหลงคารม “อีแอบ” ที่ล็อกโหวตสองชั้น มิเช่นนั้น ชาติหน้าก็ไม่ได้แก้ อดทนรอเพื่อให้คนไทยใช้สิทธิประชาธิปไตยสร้างอนาคตที่ดีกว่า” เป็นการหยิบยกคำว่า “อีแอบ” ที่ นายทักษิณ ชินวัตร เคยพูดไว้ในการสัมมนาพรรคเพื่อไทย ที่หัวหินว่า “ไม่ชอบพรรคร่วมรัฐบาลที่เป็นอีแอบ” การที่พรรคเพื่อไทยหยิบยกเอาคำว่า “อีแอบ” ขึ้นมาโพสต์ เป็นการยืนยันคำพูดของนายทักษิณ มาพาดพิงถึงพรรคภูมิใจไทยแบบเต็มๆ
ต่อมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้ตอบคำถามที่พรรคเพื่อไทยกล่าวหาเป็น “อีแอบ” นั้นว่า “คงอารมณ์ค้างในเรื่องอื่นๆ คนที่เหน็บแนม เจอกันก็กอดกันทุกที ไม่ได้เป็นเรื่องคอขาดบาดตาย ทุกคนก็ต้องยอมรับการตัดสินใจ ย้ำพรรคภูมิใจไทยไม่เคยวิพากษ์วิจารณ์พรรคอื่น” ซึ่งเป็นการ เหน็บแนมกลับไปยังพรรคเพื่อไทย
จากท่าทีของแกนนำพรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทย จะเห็นได้ชัดว่า มีร่องรอยของความขัดแย้ง และความไม่พอใจต่อกัน เพียงแต่พยายามปกปิด ไม่ให้เกิดภาพความขัดแย้งต่อสาธารณชน และเรื่องนี้ แม้ว่าน.ส.แพทองธาร จะออกมาปฏิเสธว่า ไม่เป็นไร ก็จริงอยู่ แต่นายทักษิณคือนายกรัฐมนตรีตัวจริง คงไม่ยอมให้พรรคภูมิใจไทย แสดงบท “อีแอบ” อยู่บ่อยๆ เช่นนี้ ซึ่งจะเกิดรอยร้าวระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งอาจจะขยายผลถึงขั้นแตกหักก็ได้
แม้ว่าจะพยายามปกปิดอย่างไร ก็ไม่สามารถปกปิดรอยร้าวนี้ได้ เหมือนกับคำสุภาษิตที่กล่าวว่า “อันถ้วยโถโอร้าว เอากาวติด ถึงสนิทก็ยังเห็นว่าเป็นแผล”
