วันศุกร์, ธันวาคม 27, 2024
หน้าแรกNEWS“พิพัฒน์”ตอก“สส.ปชน.”ปมตั้งกระทู้ถามสด เกี่ยเซี๊ยะ“เมียนมา”ขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าว
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“พิพัฒน์”ตอก“สส.ปชน.”ปมตั้งกระทู้ถามสด เกี่ยเซี๊ยะ“เมียนมา”ขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าว

“พิพัฒน์” จ่อเสนอ ครม.ขยายยเวลาต่ออายุแรงงานต่างด้าวในไทย หวั่นทำไม่ทันภายใน ก.พ.68  ตอกหน้า “สส.ปชน.” ขึ้นทะเบียนฝ่ายเดียวไม่ได้ เพราะไม่รู้สัญชาติที่แท้จริง

เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.67 เวลา 10.20 น. ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่ได้พิจารณากระทู้ถามสดของ นายสหัสวัต คุ้มคง สส.ชลบุรี พรรคประชาชน ถามนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน เรื่องการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวว่า ว่าการเปิดให้ต่ออายุแรงงานข้ามชาติจะไม่สามารถทำได้ทันตามกำหนดเวลา เพราะมีขั้นตอนที่ต้องใช้เวลา ว่า มีการลงทะเบียนแรงงานข้ามชาติผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 4.9 แสนราย  เมื่อถึงรอบการต่ออายุแรงงาน 13 ก.พ.68 หากลงทะเบียนไม่ครบ ตนต้องนำเรื่องหารือกับกรมการจัดหางานและเสนอครม.เพื่อขยายเวลาต่อใบอนุญาต ซึ่งการต่อนั้น จะอำนวยความสะดวกไม่ให้ผู้ใช้แรงงานกลับไปในต่ออายุที่ประเทศของตนเอง เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว แต่หากไม่ทันจะยืดอายุให้ ส่วนนายจ้างตามบ้านนั้น สามารถลงทะเบียนและยื่นผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ แต่หากไม่สะดวกให้ยื่นผ่านกรมการจัดหางานทั้ง 76 จังหวัดและกทม. ซึ่งสามารถทำได้ในช่วงวันหยุด

นายพิพัฒน์ ชี้แจงต่อว่า ขั้นตอนของการขึ้นทะเบียนแรงงานต่างชาติ รวมถึงการตรวจเช็คร่างกายที่โรงพยาบาลซึ่งตั้งข้อสังเกตว่ามีจำนวนที่ไม่เพียงพอต่อการใช้บริการในกรอบเวลาที่กำหนด สามารถทำได้ทัน ทั้งนี้ที่ตั้งข้อสังเกตว่าโรงพยาบาลให้บริการไม่มากนั้น เพราะต้องคัดเลือกโรงพยาบาลที่มีห้องแล็บเพื่อไม่ให้โรคระบาดหลุดรอดมาในประเทศ ซึ่งจาการตรวจเช็คแรงงานชาวเมียนมาร์ที่พบการระบาดของเชื้อโรคอหิวาตกโรคนั้น ล่าสุดพบว่า มีรายงานพบผู้ป่วยในประเทศไทยแล้ว 4 คน ทั้งนี้ยอมรับว่าการกำหนดโรงพยาบาลตรวจร่างกาย 69 แห่ง กับจำนวนแรงงานที่ต้องใช้บริการ 2.3 ล้านราย และในระยะเวลา 32 วัน คงเป็นไปไม่ได้ทำทัน

“ส่วนที่ต้องตั้งศูนย์ลงทะเบียน ที่เชียงใหม่ กรุงเทพ และระนอง เป็นข้อเสนอของรัฐบาลเมียนมา เราไม่สามารถกำหนดได้ แต่หากให้ผมกำหนด จะเสนอให้จังหวัดใดที่มีแรงงานต่างด้าวเกิน 1,000 คน จะกำหนดให้จังหวัดนั้นเป็นศูนย์ อย่างไรก็ดีเข้าใจว่าที่รัฐบาลเมียนมาต้องกำหนดดังกล่าวเพราะมีปัญหาเรื่องเจ้าหน้าที่ที่ไม่มีกำลังพอ” นายพิพัฒน์ ชี้แจง

ทั้งนี้นายสหัสวัส ตั้งคำถามโดยตั้งข้อสังเกตว่า ในกรณีที่รัฐบาลไทยทำเอ็มโอยูกับรัฐบาลทหารเมียนมา และมีการเก็บภาษีให้กับรัฐบาลทหารเมียนมา ถือว่ารัฐบาลไทย เป็นหนึ่งเดียวกับรัฐบาลทหารเมียนมาหรือไม่ เพราะเก็บภาษีให้รัฐบาลทหารเมียนมาถึงปีละ 9,000 ล้านบาท และด้วยการจำกัดศูนย์ลงทะเบียน และไม่เปิดออนไลน์เชื่อว่าทำให้แรงงานข้ามชาติหนีเอ็มโอยู และหลุดออกนอกระบบจำนวนมาก ทั้งนี้มีข้อเสนอให้รัฐบาลไทยขึ้นทะเบียนฝ่ายเดียว ไม่ต้องให้รัฐบาลทหารเมียนมา ที่เป็นรัฐล้มเหลวเข้ามายุ่งเกี่ยว

โดยนายพิพัฒน์ ชี้แจงว่า การเก็บภาษีไม่ได้เริ่มเก็บในช่วงนี้ แต่มีการเก็บเพื่อพิสูจน์อัตลักษณ์ หรือ ซีไอ  อย่างไรก็ดีหากไทยทำฝ่ายเดียวจะพิสูจน์ได้อย่างไรว่าเป็นชาติเมียนมา สำหรับขั้นตอนและรายละเอียดอื่นๆ จะขอชี้แจงเป็นหนังสือต่อสภาฯอีกครั้ง

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img