“เทพไท” จี้ “ยธ.-ราชทัณฑ์” ก่อนคิดออกระเบียบคุมขังนอกเรือนจำแก่นักโทษที่ศสลตัดสินแล้ว ควรคิดออกระเบียบช่วยเหลือ “ผู้ต้องหา” ที่อยู่ระหว่างต่อสู้คดี และยังเป็น “ผู้บริสุทธิ์” ดีกว่า ยกเคส “แมน-ใบเตย” ที่ศาลยกฟ้อง แต่ติดคุกฟรี ใครจะรับผิดชอบ
เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.67 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตสส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊กว่า ก่อนจะทำเรื่อง “จำคุกนอกเรือนจำ” มาทำเรื่องที่คุมขัง “ผู้กำลังสู้คดี” ก่อนดีมั้ย
หลังจากศาลอาญามีคำพิพากษายกฟ้อง ดีเจแมนและใบเตย ในคดี Forex-3D แล้ว มีหลายฝ่ายออกมาตั้งคำถามต่อระบบของกระบวนการยุติธรรมไทยว่า ติดคุกฟรีแบบนี้ ใครจะรับรับผิดชอบ จะเรียกร้องความรับผิดชอบจากองค์กร หรือหน่วยงานใดได้บ้าง เพราะเขาไปอยู่ในเรือนจำระหว่างสู้คดีเยี่ยงนักโทษทั่วไป เมื่อวันหนึ่งศาลตัดสินว่า เขาเป็นผู้บริสุทธิ์ ได้รับการปล่อยตัวไป แต่ระหว่างที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ ทำให้สูญเสียเสียอิสรภาพ มีผลกระทบต่อสภาพจิตใจอย่างไม่อาจประเมินได้
แม้ว่าจะมี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ออกมาพูดถึงหลักเกณฑ์เยียวยา ชดใช้ให้วันละ 500 บาท เป็นไปตามระเบียบของราชการ แต่ต้องรอให้คดีถึงที่สุดก่อน ซึ่งไม่คุ้มค่ากับความเสียหายที่เกิดขึ้น และจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากองค์กรรัฐ ก็เรื่องที่ยากลำบากมาก
ตอนนี้ยังมีผู้ต้องหาที่ไม่ได้รับการประกันตัวอีกจำนวนมาก ถูกคุมขังอย่างนักโทษเด็ดขาด ในระหว่างที่กำลังต่อสู้คดีในชั้นศาล เมื่อศาลยังไม่มีคำพิพากษา ตามรัฐธรรมนูญต้องถือว่า ยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ แต่กลับได้รับการปฎิบัติอย่างผู้ได้กระทำความผิดแล้ว ซึ่งไม่เป็นธรรมต่อผู้ต้องหาที่อยู่ในระหว่างต่อสู้คดี และไม่ได้รับการประกันตัวออกมาสู้คดี ซึ่งขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนอีกด้วย
ผมในฐานะผู้มีประสบการณ์ตรง เคยอยู่ในเรือนจำมาก่อน ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเพื่อนๆ ที่เป็นผู้ต้องหาคดียังไม่ถึงที่สุด และนักโทษที่ถูกศาลตัดสินคดีถึงที่สุดแล้ว เห็นว่าควรจะแยกสถานที่คุมขังออกจากกัน และปฏิบัติต่อผู้ต้องหาที่ถูกคุมขังอยู่ในระหว่างต่อสู้คดี ต้องได้รับการปฎิบัติที่ดีกว่านี้ เช่น สถานที่คุมขัง อาหารการกิน ญาติส่งอาหารให้ได้ สิทธิการพบทนายความ และพบญาติ ต้องมีโอกาสพบกันอย่างใกล้ชิด ระเบียบการปฏิบัติตัว การแต่งตัว การตัดผม ต้องปฏิบัติเหมือนคนปกติทั่วไป ควรกำหนดและเข้มงวดเฉพาะถูกจำกัดให้อยู่สถานที่เท่านั้น
ถ้าหากผู้ต้องหาคนใดที่ไม่ได้รับการประกันตัว แต่อยู่ระหว่างการถูกคุมขังระหว่างต่อสู้คดี และเมื่อศาลตัดสินยกฟ้อง ต้องปล่อยตัวไป ก็จะไม่ทำให้เสียสิทธิ์ และกระทบต่อสุขภาพจิตมากจนเกินที่จะเยียวยาได้
จึงอยากนำเสนอต่อกระทรวงยุติธรรมและกรมราชทัณฑ์ว่า ก่อนที่คิดจะออกระเบียบการคุมขังนอกเรือนจำ ให้กับนักโทษที่ถูกคำพิพากษาของศาลตัดสินคดีถึงที่สุดแล้ว ได้ออกมาจำคุกนอกเรือนจำนั้น ควรคิดออกระเบียบช่วยเหลือผู้ต้องหา ที่อยู่ระหว่างต่อสู้คดี ซึ่งยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ให้ได้เสียก่อนจะดีกว่า