วันจันทร์, เมษายน 7, 2025
หน้าแรกHighlight“สุวัจน์”เตือน“ทักษิณ”ระวังปม“ครอบงำ” มั่นใจรัฐบาลผ่านปี68แต่ต้องไม่ประมาท
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“สุวัจน์”เตือน“ทักษิณ”ระวังปม“ครอบงำ” มั่นใจรัฐบาลผ่านปี68แต่ต้องไม่ประมาท

“สุวัจน์” มั่นใจ “นายกฯอิ๊งค์” ประสานพรรคร่วมรัฐบาลเดินหน้าผ่านปี 68 ได้ ชี้อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอ ต้องไม่ประมาท เตือน “ทักษิณ” ระวังปม “ครอบงำ” ที่ยังมีข้อร้องเรียนอยู่ รับประสบการณ์จาก “พ่อ” นำไปใช้ประโยชน์ได้ ปัดตอบซบ “เพื่อไทย” ยันสัมพันธ์ราบรื่น พร้อมอวยพรปีใหม่ 68 ขอชาวไทยพ้นวิกฤติเศรษฐกิจ-สุขภาพแข็งแรง

เมื่อวันที่ 30 ธ.ค.67 นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และประธานพรรคชาติพัฒนา ให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมการเมืองในปี 2568 ว่า รัฐบาลของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ต่างจากรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี เพราะมีการปรับโครงสร้างรัฐบาลใหม่ เสียงของรัฐบาลมีความเข้มแข็ง และมีเสถียรภาพมากขึ้น หากดูบรรยากาศของพรรคร่วมรัฐบาลในขณะนี้ แม้จะมีความเห็นต่างในบางเรื่อง แต่ไม่ใช่บรรยากาศของความขัดแย้ง หรือแตกต่างกันอย่างรุนแรง ดังนั้นปี 2568 ยังมั่นใจในการบริหารงานของรัฐบาล ส่วนความสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาล ควรเจอกันบ่อยๆ เกรงใจซึ่งกันและกัน ก็จะทำให้รัฐบาลมีเสถียรภาพในการทำงาน

“แม้นายกรัฐมนตรีอายุน้อย แต่มีมนุษย์สัมพันธ์ให้ความเคารพผู้ใหญ่ในพรรคร่วมรัฐบาล จึงสามารถประสานความเข้าใจในพรรคร่วมรัฐบาลได้ดี ด้วยเสถียรภาพและเสียงของรัฐบาล ภายใต้การประสานงานของนายกรัฐมนตรี พรรคร่วมรัฐบาลไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่เสียงนอกสภา ข้อเรียกร้องต่างๆ หรือบรรยากาศในการทำงาน หรือการสร้างการยอมรับจากประชาชน ก็เป็นเรื่องของผลงานที่ต้องอาศัยการชี้แจงทำความเข้าใจ รัฐบาลต้องบริหารทั้งเสถียรภาพในสภาและนอกสภา เพื่อดูแลสถานการณ์ต่างๆของประเทศให้เรียบร้อย ปี 2568 ไม่น่ามีอะไร รัฐบาลสามารถบริหารประเทศไปได้ เพราะเสถียรภาพยังดูดี” นายสุวัจน์ กล่าว

เมื่อถามว่า จะมีปัญหาปะทุหรือไม่ เพราะมีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้ามาด้วย นายสุวัจน์ กล่าวว่า เดือนพ.ค.68 รัฐบาลก็จะครบครึ่งเทอมแล้ว หนังครึ่งหลังจะเร็วกว่าครึ่งแรก อาจจะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เราต้องไม่ประมาท ต้องมอนิเตอร์สถานการณ์ต่างๆ ให้ดี

เมื่อถามว่า ตัวแปรอย่างนายทักษิณ ที่เข้ามาจะเป็นจุดที่สร้างความสัมพันธ์ให้แย่ลงหรือไม่ นายสุวัจน์ กล่าวว่า ความสัมพันธ์นายทักษิณกับนายกรัฐมนตรี ก็เหมือนพ่อกับลูก ซึ่ง “พ่อ” ก็เป็นอดีตนายกรัฐมนตรี ส่วน “ลูก” ก็เป็นนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ความห่วงใยที่ท่านมีต่อลูก หรือประสบการณ์ที่มี ก็ถือว่าเป็นประโยชน์ต่อการทำงานของนายกรัฐมนตรี หรือในส่วนที่เกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทย นายทักษิณก็เป็นผู้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย และพรรคเพื่อไทย ก็สืบเนื่องมา จึงเป็นการให้ข้อแนะนำให้ข้อมูลจากประสบการณ์

“ต้องยอมรับว่านายทักษิณ อดีตนายกรัฐมนตรีและมีประสบการณ์เรื่องเศรษฐกิจการต่างประเทศ ภาคธุรกิจจึงเป็นเรื่องของการให้ข้อแนะนำของผู้ที่ได้รับข้อมูลจะใช้ประโยชน์อย่างไร ถือว่าเป็นผู้ใหญ่ที่ให้คำแนะนำ” ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา กล่าว

เมื่อถามว่า ปัจจัยนอกพรรค เช่น เรื่องเอ็มโอยู 44 จะมีปัญหากับรัฐบาลหรือไม่ นายสุวัจน์ กล่าวว่า ข้อเรียกร้อง ความเดือดร้อนต่างๆ จะเกิดขึ้นกับรัฐบาลในระบบประชาธิปไตยทุกยุคทุกสมัย ดังนั้นรัฐบาลต้องระมัดระวัง พยายามชี้แจงและทำความเข้าใจกับข้อเรียกร้องต่างๆ ให้เกิดความเข้าใจ เพื่อจะอยู่ได้อย่างเรียบร้อย

เมื่อถามว่า มองว่าอายุรัฐบาลจะไม่สั้น เหมือนที่หลายฝ่ายออกมาวิเคราะห์กันใช่หรือไม่ นายสุวัจน์ กล่าวว่า อย่างที่บอก การเมืองต้องเข้าใจว่า ตามฟอร์มเสถียรภาพไม่ใช่ปัญหา แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ อุบัติเหตุก็เกิดขึ้นได้ ต้องไม่ประมาท

เมื่อถามว่า สิ่งที่นายทักษิณแสดงวิสัยทัศน์และรัฐบาลมาทำต่อ เหมือนเป็นการทำที่อยู่เหนือกฎเกณฑ์ นายสุวัจน์ กล่าวว่า เหมือนข้อแนะนำจากทุกฝ่าย ขึ้นอยู่กับรัฐบาลคิดอย่างไร ฟังข้อมูลด้านไหน จะเอาอะไรไปทำ อะไรเห็นด้วยก็ทำ ไม่เห็นด้วยก็ไม่ต้องทำ

เมื่อถามย้ำว่า จะกลายเป็นเหตุให้ศาลมองว่าครอบงำ แทรกแซงหรือไม่ นายสุวัจน์ กล่าวว่า ต้องว่ากันไปตามกลไกของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ต้องมีความระมัดระวัง เพราะมีการร้องเรียน

เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้นายทักษิณ ชวนไปอยู่พรรคเพื่อไทย ตัดสินใจอย่างไร นายสุวัจน์ กล่าวว่า เรื่องสำคัญทางการเมือง ตนก็ไม่ใช่คนเดียวที่จะตอบได้ กรรมการบริหารต้องพูดคุยกัน ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม เรื่องนี้ยังคุยกัน แต่เราเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ความสัมพันธ์กับพรรคเพื่อไทยก็ราบรื่นด้วยดี บรรยากาศดี ไม่มีอะไร ถ้าจะมีตอนนั้นค่อยคุยกัน

ทั้งนี้ในช่วงท้ายนายสุวัจน์ อดีตนายกรัฐมนตรี ได้อวยพรปีใหม่ 2568 ว่า “เนื่องในโอกาสวาระขึ้นปีใหม่ 2568 ทราบดีว่าพี่น้องประชาชน มีความห่วงใยในเรื่องของปัญหาเศรษฐกิจต่างๆในรอบปี เพราะฉะนั้นในโอกาสปีใหม่นี้ ผมขออาราธณาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในบ้านเมือง ได้โปรดประทานพรให้บ้านเมืองของเรา เป็นไปได้ด้วยความเรียบร้อย พ้นวิกฤติเศรษฐกิจต่างๆ และให้พี่น้องประชาชนทุกท่าน มีเศรษฐกิจที่ดี มีแต่ความสุข คิดหวังสิ่งใด ให้ได้ดั่งใจนึก ขอให้สุขภาพแข็งแรง ออกกำลังกายและเล่นกีฬาทุกท่าน”

- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img