“เทพไท”ฟันเปรี้ยง 7 ประเด็น “ทักษิณ” ปราศรัยเชียงราย เหน็บ…ฤาไทยจะมีตำแหน่ง “นายกฯอาวุโส”
เมื่อวันที่ 6 ม.ค.68 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตส.ส.ประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ข้อความในหัวข้อ…ฤาไทยจะมีตำแหน่ง “นายกรัฐมนตรีอาวุโส” มีเนื้อหาว่า…“ถ้าใครได้ติดตามการปราศรัยหาเสียงนายกอบจ.เชียงราย ของนายทักษิณ ชินวัตรแล้ว จะเห็นว่าการปราศรัยเต็มไปด้วยความมั่นใจ และเชื่อมั่นในตัวเองมาก เปรียบเหมือนกับเป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริง แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการบริหารประเทศ ในนามรัฐบาลได้อย่างละเอียด ในหลายประเด็น เช่น
1.การแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศให้ความมั่นใจว่า ปีหน้าปี 2568 เศรษฐกิจจะดีขึ้นอย่างแน่นอน เป็นการขายฝันให้ประชาชนแทนรัฐบาล เหมือนเป็นนายกรัฐมนตรีเอง
2.ได้ปราศรัยเรื่องแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ที่รัฐบาลประกาศไว้เทคโนโลยีจะเสร็จเดือน มี.ค. พอเสร็จแล้ว จะโอนเงินให้คนที่มีต่ำกว่าอายุ 60 ปีลงมา ส่วนวันที่ 29 ม.ค.นี้ จะเป็นเงินให้สำหรับคนที่มีอายุ 60 ปี ขึ้นไป และจะให้คนหนุ่มสาว เรียนรู้การใช้เทคโนโลยี เพราะอีกหน่อยการติดต่อกับรัฐบาล จะผ่านดิจิทัลวอลเล็ตทั้งหมด
3.ยังพูดถึงการขันน๊อตรัฐมนตรีให้ทำงานให้ได้ โดยอ้างคำพูดของนางสาวแพทองธาร (ชินวัตร) ว่ากำลังนั่งไล่ให้รัฐมนตรีไปพูดกับข้าราชการ ก็มีคำแก้ตัวสารพัด นายกฯก็ไปพูดกับรัฐมนตรีว่า ต้องทำให้ได้ ถ้าทำไม่ได้จะเปลี่ยนคนมาแทน รัฐมนตรีจึงจะกระเตื้อง ทั้งที่เป็นความคิดของนายทักษิณทั้งสิ้น นางสาวแพทองธารคงไม่กล้าที่จะไปคาดโทษกับรัฐมนตรีคนใดเลย
4.เรื่องไฟฟ้านายทักษิณบอกว่า ปีนี้ค่าไฟฟ้าจะต้องลงไปอยู่ที่เลข 3 ไม่ใช่เลข 4 ใจอยากให้เหลือ 3.50 บาท แต่คงได้แค่ 3.70 บาท กำลังให้เขาช่วยทุบอยู่ ปีนี้ค่าไฟลงแน่เห็นตัวเลขแล้วทุบได้
5.ได้ประกาศแก้ปัญหาค่าอาหารสัตว์ ค่าปุ๋ย ค่ายาก็จะให้ลง เรื่องนี้จะต้องทำให้เป็นจริงภายในปีนี้ให้หมดทุกอย่าง ทั้งที่รัฐมนตรีผู้รับผิดชอบยังไม่ได้พูดอะไรเลย
6.แถลงแผนงานรัฐบาลว่า ปีนี้ต้องทำงานหนัก 1.ยาเสพติด ต้องเอาให้เกลี้ยง 2.Call Center ต้องเอาให้เกลี้ยง 3.การผูกขาดทุกรูปแบบต้องเอาให้หมด เพื่อให้พี่น้องมีค่าใช้จ่ายในชีวิตต่ำลง ทำรายได้ให้ดีขึ้น มีโอกาสดีขึ้น ทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นในปี 2568
7.ยังตอบคำถามเรื่องข่าวการปรับครม.ว่ายังไม่ปรับตอนนี้ กระแสข่าวจะปรับนายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานออก นายทักษิณก็ตอบว่า ยังทำงานกันได้ ยังไม่มีการปรับครม.
จากคำปราศรัยและการตอบคำถามของผู้สื่อข่าว จะเห็นได้ว่านายทักษิณ ชินวัตร คือนายกรัฐมนตรีตัวจริง จึงไม่จำเป็นต้องเหนียมอายอะไรอีกแล้ว ถ้าจะรับตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการ ก็ให้นางสาวแพทองธารแต่งตั้งขึ้นมา หรือจะเอาแบบอย่างประเทศสิงคโปร์ ที่มีตำแหน่งรัฐมนตรีอาวุโส แต่ถ้าเพื่อให้สมศักดิ์ศรี ก็ตั้งตำแหน่งใหม่ขึ้นมา เป็น “นายกรัฐมนตรีอาวุโส” เสียเลย”