“ไอติม” ลั่นพร้อมพูดคุยทุกฝ่ายทำความเข้าใจร่างแก้รธน.ฉบับพรรคประชาชน แนะครม.เสนอร่างประกบ ยกเคสร่าง “เพื่อไทย” ปี 63 มีเสียง “สว.คสช.” สนับหนุน ชงตัดเสียง 1 ใน 3 ของสว.เหมือนกัน หวังได้รับความเห็นชอบไม่เป็นเงื่อนไขทำร่างตก
วันที่ 7 ม.ค.2568 เวลา 12.00 น.ที่รัฐสภา นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมมาตรา 256 ที่มีการพูดถึงกันว่า เป็นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่พรรคประชาชนเสนอเข้าไป ที่มีเนื้อหาสาระสำคัญอยู่ 2 เรื่องคือการเพิ่มหมวด 15/1 คือการให้สภาร่างรัฐธรรมนูญให้ทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เรื่องที่สองเป็นการแก้ไขเกี่ยวกับเกณฑ์การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งมาถึงวันนี้เราก็รอดูอยู่ว่าจะมีร่างอื่นเข้ามาประกบหรือไม่ เพราะเห็นว่าอาจจะมีสมาชิกรัฐสภาบางส่วนที่มีความเห็นต่างในเชิงรายละเอียดอยู่บ้าง ซึ่งโดยร่างที่คิดว่าจะมีการยื่นประกบเข้ามาคือ ร่างของพรรคเพื่อไทย และคาดหวังว่าร่างดังกล่าวจะไม่ต่างไปจากร่างของพรรคเพื่อไทยเคยยื่นเมื่อปี 67 และร่างประกบที่ตนยังไม่มีเห็นว่าจะมีการสื่อสารออกมา แต่คิดว่าควรจะมีคือร่างของคณะรัฐมนตรี เพราะเรื่องการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เป็นนโยบายที่รัฐบาลได้เคยประกาศต่อรัฐสภา และสัญญากับประชาชน ไม่ใช่เป็นนโยบายของพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งเท่านั้น ในเมื่อเป็นนโยบายเรือธงที่เคยประกาศต่อรัฐสภาและประชาชน เหตุใดครม.จึงไม่ได้ยื่นร่างประกบเข้ามา ฉะนั้นย้ำว่าจะต้องรอดูว่าจะมีการยื่นร่างประกบเข้ามากี่ร่าง
นายพริษฐ์ กล่าวต่อว่า จากการฟังสมาชิรัฐสภาบางส่วนให้สัมภาษณ์ไปเมื่อช่วงที่ผ่านมา และแสดงอาการคัดค้านต่อร่างของพรรคประชาชนที่เป็นการหยิบยกเอามาเพียงรายละเอียดปลีกย่อยที่ค่อนข้างชวนให้น่าสงสัยเช่นกัน คือหากเห็นต่างกันในรายละเอียด แต่เห็นตรงกันในหลักการ ก็เป็นสิทธิ์ของสส. สว.หรือรัฐบาล ที่จะเสนอร่างเข้ามาประกบ ไม่ควรเป็นเหตุที่จะทำให้เราไม่สามารถเดินหน้าในการแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อให้มีการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ ทั้งนี้ประเด็นหนึ่งที่มีการหยิบยกขึ้นมาเพื่อที่จะบอกว่าไม่เห็นด้วยกับร่างของพรรคประชาชน คือการที่เราจะไปแก้มาตรา 256 ที่ไปตัดเงื่อนไข 1 ใน 3 ของเสียงสว.ออก และหากย้อนไปในสภาฯชุดที่แล้ว พรรคเพื่อไทยก็เคยยื่นร่างแก้ไขมาตรา 256 ตัดเงื่อนไข 1 ใน 3 ของสว.ออกรัฐสภาขณะนี้ก็โหวตเห็นชอบในหลักการ สว.ชุดที่แต่งตั้งโดยคสช.ประมาณ 100 กว่าคนก็โหวตเห็นชอบ เช่นเดียวกับสส.รัฐบาลในขณะนั้น
“ผมจึงตั้งข้อสังเกตว่าร่างที่เคยได้รับการเห็นชอบในปี 63 แต่ตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นสว.ชุดใหม่ทำไมเราจึงมองว่าการตัดเงื่อนไข 1 ใน 3 ของสว.ออกจึงจะไม่เป็นเหตุเป็นผล ตกลงแล้วสว.ชุดนี้จะเป็นปฏิปักษ์ต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญมากกว่าชุดที่แล้วหรือไม่ ”นายพริษฐ์ กล่าว และส่วนจะมีการพิจารณาร่างแก้ไขแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 ในวันไหนนั้นจากที่มีการพูดคุยกับวิป 4 ฝ่ายที่ผ่านมาเราได้มีการพูดคุยกันเบื้องต้นว่า หากร่างเกี่ยวกับส.ส.ร.หรือมาตรา 256 บรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมเราจะหยิบมาเป็นร่างหลักในการพูดคุยกัน ในวันที่มีการประชุมรัฐสภาในวันที่ 14-15 มกราคม และคิดว่าในการประชุมวิป 3 ฝ่ายในวันที่ 8 มกราคม ก็น่าจะเห็นตรงกับที่เคยตกลงกันไว้
เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยอาจกังวลเรื่องการไม่ได้เสียงในการแก้ไขจากสว.จึงทำให้มีการประนีประนอม นายพริษฐ์ กล่าวว่า ในเมื่อไม่เป็นอุปสรรครอบที่แล้วก็หวังว่าจะไม่เป็นอุปสรรคในรอบนี้ หรือหากเห็นต่างจริงๆก็สามารถยื่นร่างเข้ามาประกบได้ หากพรรคเพื่อไทยยึดตามร่างที่เคยเสนอเมื่อปี 67 ก็จะเสนอให้ตัดเงื่อนไข 1 ใน 3 ของสว.ออกเช่นกัน แต่หากมีฝ่ายไหนที่กังวลตนจึงทวงถามว่าครม.จะยื่นร่างเข้ามาประกบหรือไม่ในส่วนนี้ต้องถามทางรัฐบาล และไม่ควรมีเหตุผลอะไรที่ครม.จะไม่ยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ว่าร่างของพรรคประชาชนอาจจะไม่ผ่าน นายพริษฐ์ กล่าวว่า ตนหวังว่าทุกฝ่ายจะพิจารณาร่างกฎหมายจากประโยชน์ส่วนรวม และระบบการเมืองที่เราคิดว่าจะตอบโจทย์ประเทศไทย ไม่ใช่มากังวลว่าร่างกฎหมายดังกล่าวจะไปลดอำนาจหรือไม่ ซึ่งตนยินดีที่จะไปพูดคุยกับทุกฝ่ายเพื่อทำความเข้าใจในรายละเอียดของร่างพรรคประชาชน