วันพฤหัสบดี, มกราคม 9, 2025
หน้าแรกHighlight“อัจฉริยะ”ยื่น“โรม”สอบ“ต่อศักดิ์-บิ๊กโจ๊ก” จับยึดทรัพย์​จีนเทา700ล.แต่ไม่ดำเนินคดี
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“อัจฉริยะ”ยื่น“โรม”สอบ“ต่อศักดิ์-บิ๊กโจ๊ก” จับยึดทรัพย์​จีนเทา700ล.แต่ไม่ดำเนินคดี

“อัจฉริยะ” ยื่น “โรม” สอบ”ต่อศักดิ์-โจ๊ก” ปม จับยึดทรัพย์​ทุนจีน 700 ล้าน แถลงใหญ่โต แต่สุดท้ายไม่ดำเนินคดี-คืนทรัพย์​ให้ผู้ต้องหาหมด ย้อนถามผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่ พร้อมเปิดคลิปสาวจีนถูกตำรวจอุ้มรีดทรัพย์​ ฟ้องร้องแล้ว แต่ผู้ใหญ่เงียบ

เมื่อวันที่ 9 ม.ค. ที่รัฐสภา นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์​ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เขายื่นหนังสือ ต่อนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)ความมั่นคงแห่งรัฐฯ ของสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ตรวจสอบกรณีเมื่อปี 2565 พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุวิมล อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ซึ่งขณะนั้นเป็นรองผบ.ตร. และพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร.ซึ่งขณะนั้นเป็น รอง ผบ.ตร. ได้มีการจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่มีการฟอกเงินของกลุ่มชาวจีนสีเทา และมีการยึดอายัดทรัพย์จำนวน 700 ล้านบาท โดยกองบัญชาการตำรวจไซเบอร์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับผับจินหลิง โดยมีการยึดทรัพย์และดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มากกว่า 15 คน ทั้งคนไทยและคนจีน

ต่อมาปรากฎว่ามีการส่งของกลางทั้งหมด และผู้ต้องหาทั้งหมดให้กับกองบัญชาการตำรวจนครบาล มาทราบภายหลังว่า มีนายหลี่เหลียง คนเดียว ที่เป็นผู้ต้องหาสวมบัตรประชาชนคนไทย แต่ที่เหลือกลับได้รับการปล่อยตัว โดยไม่มีความผิด และเงินของกลางที่เป็นเงินสดเกือบ 100 ล้านบาท รวมทั้งรถของกลางด้วย คืนให้กับผู้ต้องหาทั้งหมด โดยไม่มีการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาแม้แต่รายเดียว


“ผมจึงแปลกใจว่า เป็นการส่อไปในทางที่ไม่สุจริตหรือไม่ จึงขอให้ กมธ.ฯช่วยตรวจสอบ เพราะการที่ตำรวจแถลงข่าวในเรื่องนี้อย่างใหญ่โต เหตุใดจึงไม่มีผู้ต้องหาถูกดำเนินคดีแม้แต่รายเดียว แล้วทำไมทางกอง บัญชาการตำรวจไซเบอร์ กองบัญชาการตำรวจนครบาล จึงคืนของกลางให้กับผู้ต้องหาทั้งหมด มีผลประโยชน์อะไรหรือไม่”นายอัจฉริยะ กล่าว

นายอัจฉริยะ ยังได้เปิดคลิปที่สาวจีน มาเที่ยวเมืองไทยและถูกคนไทยรีดไถ่ พร้อมกล่าวว่า สาวจีนมาเที่ยวเมืองไทย กับครอบครัว เพราะมองว่าเมืองไทยเป็นเมืองที่น่าท่องเที่ยว แต่ถูกตำรวจนครบาล ทำการอุ้มไปห้องสืบสวนของนครบาล แล้วรีดเงินไปทั้งสิ้น 7 ล้านบาท โดยสาวจีน ได้ไปแจ้งความที่โรงพักแห่งหนึ่งในนครบาล แต่กลับถูกพนักงานสอบสวนเรียกเงินอีก 260,000 บาท เป็นค่าทำคดี ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่เสียหาย เพราะคลิปดังกล่าวมีการเผยแพร่ไปทั่วโลก

นายอัจฉริยะ กล่าวต่อว่า ตนได้ประสานกับผู้ใหญ่ในวงการตำรวจ แต่ไม่มีใครสนใจ วันนี้จึงนำข้อมูลและคลิปภาพที่สาวจีนถูกอุ้ม และคลิปเสียงที่พนักงานสอบสวนรีดเงิน มาเปิดต่อหน้าประธาน กมธ.ความมั่นคงฯ เพื่อให้เห็นว่านี่คือความเลวร้ายของคนที่มาท่องเที่ยวในประเทศไทย แต่กลับมาถูกตำรวจไทยอุ้มรีดเงิน ซึ่งถือว่ากระทบต่อความมั่นคงของประเทศ

- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img
spot_imgspot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
spot_img
spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img