“อนุทิน” ยัน “สธ.” มีงบในการซื้อวัคซีนแน่นอน ย้ำวัคซีนจะทยอยส่งมาเรื่อยๆ และฉีดไปเรื่อยๆ ไม่ว่ายี่ห้อใด ก็มีประสิทธิภาพป้องกันโควิด เผยหน่วยงานไหนจะขอฉีด ต้องทำแผนกระจายและฉีดที่ชัดเจน จะเอาไปเก็บไว้ไม่ได้ เพราะวัคซีนต้องถูกเก็บในอุณหภูมิที่กำหนด
เมื่อวันที่ 31 พ.ค. ที่รัฐสภา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ประสานขอวัคซีนไปฉีดในเรือนจำทั่วประเทศว่า ขณะนี้อธิบดีกรมควบคุมโรคและอธิบดีกรมราชทัณฑ์ มีการประสานงานกันแล้วว่า ในเรือนจำต้องเร่งฉีดให้กับผู้ที่ยังไม่ติดเชื้อ ไม่เพียงเฉพาะนักโทษ แต่ต้องรวมถึงเจ้าหน้าที่ด้วย ซึ่งต้องใช้วัคซีนหลายแสนโดส ทั้งนี้การฉีดวัคซีน หน่วยงานจะต้องมีการจัดทำแผนกระจายและฉีดที่ชัดเจน จะขอแล้วเอามาเก็บไว้ก่อนไม่ได้ เพราะวัคซีนต้องถูกเก็บไว้ที่อุณหภูมิที่กำหนดให้ถูกต้อง กระทรวงสาธารณสุขมีภาระหน้าที่ในการจัดหาวัคซีน ซึ่งไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อใด ก็มีประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อโควิด-19 ขออย่ากังวลว่าจะเป็นวัคซีนอะไร
เมื่อถามว่า วัคซีนที่สั่งซื้อมาครบ จะเปิดฉีดหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า วัคซีนไม่มีคำว่า “มาครบ” มีแต่ทยอยส่งมาเรื่อยๆ และทำการฉีดไปเรื่อยๆ ซึ่งก็มีการทยอยฉีดมาตั้งแต่เดือนมี.ค.64 ยังไม่นับที่จะเริ่มดีเดย์วันที่ 7 มิ.ย.นี้ นอกจากนี้รมว.ศึกษาธิการ ได้มีการประสานมาในเรื่องของวัคซีน และนายกรัฐมนตรีก็มีนโมบายชัดเจนให้ฉีดกลุ่มคนที่เป็นครู อย่างน้อยเมื่อช่วงเปิดเทอม ครูก็จะได้มีความปลอดภัย ส่วนเด็กที่อายุต่ำกว่า 18 ปี กำลังเจรจาซื้อวัคซีนจากไฟเซอร์ ซึ่งเขาเพิ่งจะได้รับรองคุณสมบัติ สามารถฉีดให้เด็กอายุ 12 ปีได้ ที่มีอยู่ประมาณ 6 ล้านคน
นายอนุทิน ยังกล่าวถึงการปรับลดงบประมาณกระทรวงสาธารณสุขว่า ไม่มี เราทำตามขั้นตอนทุกอย่าง กระทรวงสาธารณสุขมั่นใจว่าจะต้องมีงบประมานในการซื้อวัคซีนอย่างแน่นอน ซึ่งไม่เป็นเรื่องที่ต้องน่ากังวลแต่อย่างใด รวมถึงมีค่าตอบแทนให้กับบุคลากรทางการแพทย์และบุคลากรด่านหน้า บรรจุไว้ในทุกหมวด ทั้งงบจาก สปสช. และจากสำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุข อย่าไปฟังเสียงลือเสียงเล่าอ้าง ซึ่งกระทรวงให้ความสำคัญกับบุคคลเหล่านี้ และเป็นนโยบายชัดเจนจากนายกรัฐมนตรีด้วย
